|
ประวัติพระนางมารีอา
เราพอจะเล่าประวัติของพระนางมารีอาได้ดังนี้ ท่านนักบุญอากิม(Saint Joachim) และนักบุญอันนา(Saint Anna) เป็นบิดาและมารดาของพระนางมารีอา เดิมไม่มีบุตร เนื่องจากนักบุญอันนาเป็นหมัน ท่านทั้งสองภาวนาต่อพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงฟังคำภาวนาของท่านทั้งสอง จึงได้ให้นักบุญอันนาบังเกิดบุตรี ชื่อว่า มารีอา
อ่านต่อ...
|
|
สมโภชพระนางมารีอาพระชนนีพระเป็นเจ้า 1 มกราคม
การที่พระนางมารีอาเป็นพระมารดาพระเป็นเจ้าจริงๆ ก็เพราะความสัมพันธ์ที่พระนางมีต่อบุตรอย่างแนบแน่น เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเป็นเจ้าแท้และมนุษย์แท้ การที่เราเรียกพระนางมารีอาว่าเป็นพระมารดาพระเป็นเจ้า
เป็นการไขแสดงให้เห็นถึงภาระหน้าที่ที่พระนางมีในประวัติศาสตร์แห่งความรอด และจากข้อเท็จจริงประการนี้แหละที่เป็นที่มาของความศรัทธาภักดีชนิดต่างๆ บรรดาคริสตชนมีต่อพระนางมารีอาเพราะว่าพระนางได้รับพระคุณต่างๆ
จากพระเป็นเจ้ามิใช่สำหรับพระนางแต่ผู้เดียว แต่ว่าเพื่อนำพระคุณต่างๆ เหล่านั้นไปให้มวลมนุษย์อีกทอดหนึ่ง
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระถือศีลชำระ(ถวายพระกุมารในวิหาร) 2 กุมภาพันธ์ การฉลองการถวายพระเยซูกุมารที่พระวิหารมิใช่เป็นรหัสธรรมแห่งความชื่นชมยินดี
แต่ว่าเป็นรหัสธรรม แห่งความทุกข์โศกแห่งความเจ็บปวด เพราะพระนางมารีอาได้ทรงถวายพระบุตรแด่พระเป็นเจ้าพระบิดา การยกถวาย เป็นการเสียสละอย่างหนึ่ง
การฉลองนี้เป็นการเริ่มต้นรหัสธรรมแห่งความทุกข์ทรมานของพระนางมารีอา ซึ่งจะบรรลุถึงจุดสุดยอดที่เชิงไม้กางเขน
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด 11 กุมภาพันธ์
ลูร์ด เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำการ์ฟเดอโป ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส อยู่ท่ามกลางเทือกเขาพีเรนีส ซึ่งคั่นพรหมแดนระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสเปน
ก่อนการประจักษ์
4 ปี คือในวันที่ 8 ธันวาคม 1854 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ทรงประกาศข้อความเชื่อเรื่อง " พระนางมารีอาทรงปฏิสนธิอันนิรมล " คือแม่พระไม่มีบาปกำเนิด
การประจักษ์ที่ลูร์ด เท่ากับแม่พระเองเสด็จมายืนยันอัตถ์ความจริงข้อนี้ พระนางได้ประจักษ์มาหานักบุญแบร์นาแด็ตซูบีรูส์ เป็นจำนวน 18 ครั้งด้วยกัน คือระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 1858
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระรับสารจากอัครเทวดาคาเบรียล 25 มีนาคม
ในพระศาสนจักรยุคก่อนๆ
ก่อนวันฉลองพระคริสตสมภพเล็กน้อย จะมีการฉลองรหัสธรรมแห่งการเสด็จมารับการบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระบุตรพระเป็นเจ้า แต่ต่อมาภายหลังพระศาสนจักรได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 25 มีนาคม คือ 9 เดือนก่อนวันฉลองพระคริสตสมภพ
พระเป็นเจ้ามิได้เสด็จมาในโลกโดยใช้กำลัง
พระองค์ทรงประสงค์คำตอบรับจากพระนางมารีอา เพื่อว่าพันธสัญญาจะได้สำเร็จบริบูรณ์ไป ประชากรแห่งพระสัญญาอยู่ในตัวพระนาง ไม่ว่าจะเป็นประชากรเก่า ( ชาวฮีบรู ) หรือประชากรใหม่ ( พระศาสนจักร ) ก็ตาม เพราะว่า " พระสวามีเจ้า อยู่กับพระนาง ซึ่งหมายความว่าพระผู้เป็นเจ้าของเราและประชากรของพระองค์
อ่านต่อ...
|
|
ฉลองดวงหทัยของพระนางมารีย์ หลังสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
ปฏิทินพิธีกรรมฉบับใหม่ได้ใส่วันฉลองดวงหทัยของพระนางมารีย์ทันทีในวันถัดไป ( วันเสาร์ ) หลังวันฉลองดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
ทั้งนี้เป็นการกลับไปหาความศรัทธาภักดีของวันฉลองอย่างเดิมนักบุญ ยอห์น เอวแดส ในศตวรรษที่ 17 ได้เขียนไว้ว่าไม่ควรแยกหัวใจทั้งสองดวงนี้ออกจากกันในโครงสร้างของพิธีกรรม
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระแห่งฟาติมา 13 พฤษภาคม
ชาวคาทอลิกศรัทธาต่อพระนางมารีย์
ผู้เป็นมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า และยกพฤษภาคมเป็นเดือนของพระนาง ที่จะภาวนาสายประคำและรำพึงถึงพระางเป็นพิเศษ นอกจากนี้วันที่ 13 พฤษภาคม เป็นวันระลึกถึง " แม่พระแห่งฟาติมา " คาทอลิกส่วนมากทราบว่า พระนางมารีย์ได้ประจักษ์มาแก่เด็กเลี้ยงแกะสามคน ที่ตำบลฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1917
อ่านต่อ...
|
|
พระนางมารีอา เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ 31 พฤษภาคม
ในพระสมณสาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 เรื่องมารดาพระผู้ไถ่ ข้อ
36 ได้กล่าวถึง การที่พระนางมารีย์เสด็จไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธว่า เมื่อนางเอลีซาเบธแสดงคารวะต่อญาติผู้เยาว์กว่าของนางที่มาถึงเมืองนาซาแร็ธพระนางมารีอาได้ตอบด้วยถ้อยคำในบทเพลงมักนีฟีกัตในการแสดงคารสะต่อพระนางมารีอานั้น นางเอลีซาเบ็ธได้เริ่มจากการเรียกพระนางว่า " ผู้มีบุญ " เพราะโอรสที่อยู่ในครรภ์ของพระนาง " และยังเรียกพระนางว่า " ผู้เป็นสุข "
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระ แห่งภูเขาคาร์แมล 16 กรกฏาคม
พระคัมภีร์ได้ขับร้องชมความสวยงามของภูเขาคาร์แมล
และบนภูเขาคาร์แมลนี้เองที่ท่านประกาศกเอลียาห์ได้ป้องกันความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงชีวิตของชนชาติอิสราแอล
ในศตวรรษที่ 12
มีฤาษีบางรูปได้มาจำศีลภาวนาบนภูเขานี้และเป็นพวกฤาษีนี้เองที่คงจะได้ตั้งคณะคาร์เมไลท์ซึ่งมีจุดประสงค์ในการเพ่งฌานและให้อยู่ภายใต้ความอุปถัมภ์ของพระนางมารีย์ พระมารดาพระเจ้า
อ่านต่อ...
|
|
สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ 15 สิงหาคม
ในปี 1950 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงประกาศว่า " พระนางพรหมจารีมารีอา ได้ทรงรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ " เป็นข้อความเชื่อ
แนวความคิดประการหนึ่งที่โดเด่น และกล้าแข็งสำหรับพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ที่ทรงประกาศข้อความเชื่อ คือ
" หลักแห่งการร่วมโชคชะตา " ที่เสนอว่า พระนางมารีได้มีส่วนร่วมในชีวิตและภารกิจการงานตลอดจนโชคชะตาของพระบุตรแห่งพระนางอย่งแน่วแน่และมั่นคง ตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนกระทั่งเวลาสุดท้าย
อ่านต่อ...
|
|
พระนางมารีย์ราชินีแห่งสากลโลก 22 สิงหาคม
วันฉลองพระนางมารีอา
ราชินีแห่งสากลโลก เป็นวันฉลองที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงตั้งขึ้นในปี 1955 และทรงกำหนดให้ฉลองในวันที่ 31 พฤษภาคม แต่สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 ในการปรับปรุงพิธีกรรม มีความประสงค์ที่จะให้วันฉลองนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฉลอวพระนางมารีอารับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เนื่องจากเหตุผลที่ว่าการฉลองทั้งสองนี้ประกอบขึ้นเป็นรหัสธรรมอันเดียวกันคือ " พระนางมารีอาพรหมจารีผู้ปฏิสนธินิรมล
หลังจากที่ได้จบชีวิตของพระนางบนโลกนี้แล้ว ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ และได้รับการสถาปนาจากพระสวามีเยซูคริสตเจ้าให้เป็นพระราชินีแห่งสากลโลก
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระบังเกิด 8 กันยายน
การฉลอง " แม่พระบังเกิด
"เป็นพระสันตะปาปาจิอุสที่
1 เป็นพระสันตะปาปาที่มีเชื้อสายทางพระศาสนจักรตะวันออก ได้เป็นผู้นำเข้าสู่พระศาสนจักรลาติน ในปลายศตวรรษที่ 7 เดิมทีเดียวการฉลองในวันนี้เป็นการฉลอง " คล้ายวันเสกวิหารของนักบุญอันนาซึ่งมีเชื้อสายจากกษัตริย์ดาวิด ท่านทั้งสองเป็นบิดามารดาของพระนางมารีอา
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระมหาทุกข์ 15 กันยายน
การฉลองแม่พระมหาทุกข์นี้ชวนให้เรารำพึงถึงความทุกข์เจ็บปวดรวดร้าวของพระมารดา 7 อย่างด้วยกันที่มีการพูดถึงในพระวรสาร เป็นพระสันตะปาปาปีโอที่ 7
ที่ได้นำการฉลองแม่พระมหาทุกข์เข้ามาในพิธีกรรมของพระศาสนจักร เพื่อเป็นการระลึกถึงความทุกข์ยากลำบากที่จักพรรดินโปเลียนได้ทำต่อพระศาสนจักร และเป็นต้นที่ได้ทำต่อประมุขของพระศานจักร
การมีส่วนร่วมในความทุกข์ยากลำบาก ที่พระมารดาพระผู้ไถ่ได้มีร่วมกับพระบุตรของพระนางในงานช่วยมนุษย์ให้รอดนั้น ( ลก. 2: 33 - 35 )
เป็นต้นได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานในชัวโมงที่พระองค์ถูกตรึงไม้กางเขน
อ่านต่อ...
|
|
ฉลองแม่พระแห่งลูกประคำ 7 ตุลาคม
ในสมัยกลาง
พวกที่ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดิน มักจะถวายมงกุฎดอกไม้ให้แก่พระเจ้าแผ่นดินของตน
เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงว่าตนยังจงรักภักดีอยู่ พวกคริสตชนก็ได้รับเอาขนบธรรมเนียบประเพณีนี้มาใช้เป็นเกียรติแด่พระนางมารีย์ โดยมอบ ให้พระนางซึ่ง มงกุฎดอกกุหลาบ 3 ชนิดด้วยกันให้พระนาง คือ
1. มงกุฎที่ทำให้ระลึกถึงความชื่นชมยินดีของพระนาง
2. มงกุฎที่ทำให้ระลึกถึงความทุกข์โศกเศร้าของพระนาง
3.
มงกุฎที่ทำให้ระลึกถึงเกียรติมงคลของพระนางในการที่พระนางได้มีส่วนร่วมในธรรมล้ำลึกแห่งชีวิตของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระนาง
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระถวายพระองค์ในพระวิหาร 21 พฤศจิกายน
วันนี้เป็นวันฉลองหนึ่งของพระศาสนจักรตะวันออก ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
มาแล้ว พระศาสนจักรที่กรุงโรมได้รับเอาวันฉลองนี้เข้ามาไว้ในปฏิทินพิธีกรรมโดยเริ่มจากศตวรรษที่ 14 เท่านั้น สำหรับคริสตชนตะวันออก " พระมารดาของพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นวิหารแท้ " และในวิหารนี้เองที่พระองค์ได้ทรงวางการช่วยให้รอดของพระองค์ในวันนั้น โดยยกเลิกพิธีกรรม( วิหาร )เก่าเสีย สำหรับคริสตชนตะวันตก ( ได้มาจากธรรมประเพณีของปฐมพระวรสารของนักบุญยากอบ พระนางมารีอา คือสาวน้อยมหัศจรรย์ซึ่งเป็นตัวอย่างดีเลิศในการถวายตัวพระนางเองแด่พระผู้เป็นเจ้า
อ่านต่อ...
|
|
แม่พระปฏิสนธินิรมล 8 ธันวาคม สมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล
ในปี 1439
สภาสังคายนาแห่งเมืองบาเซิล ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ถือว่ารหัสธรรมนี้เป็นความจริงประการหนึ่งที่บรรดาสัตบุรุษจะต้องเชื่อ
ในปี 1854 พระสันตะปาปาปีโอที่
9 ได้ทรงประกาศ แม่พระปฏิสนธินิรมลเป็นข้อความเชื่อ พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ให้พระนางมารีอา เป็นความรอดของมนุษยชาติ เพราะว่าพระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้พระนางมารีอาเป็นความรอดของมนุษยชาติ เพราะว่าพระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้พระผู้ไถ่เป็น " บุตรมนุษย์ " ด้วยเหตุนี้ความหมายแห่งพระวาจาของพระเป็นเจ้าที่ตรัสกับมารผจญนั้น จึงได้ถูกนำมาใช้กับพระนางมารีอาได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเลย " เราตั้งความเป็นศัตรูระหว่างเจ้ากับหญิงนั้น ระหว่างชาติพันธุ์ของเจ้าและชาติพันธุ์ของหญิงนี้จะเหยียบหัวเจ้า " ( ปฐก. 3: 15 )
อ่านต่อ...
|