สมโภชพระนางมารีอาพระชนนีพระเป็นเจ้า    1 มกราคม

             การที่พระนางมารีอาเป็นพระมารดาพระเป็นเจ้าจริงๆ ก็เพราะความสัมพันธ์ที่พระนางมีต่อบุตรอย่างแนบแน่น  เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเป็นเจ้าแท้และมนุษย์แท้ การที่เราเรียกพระนางมารีอาว่าเป็นพระมารดาพระเป็นเจ้า เป็นการไขแสดงให้เห็นถึงภาระหน้าที่ที่พระนางมีในประวัติศาสตร์แห่งความรอด และจากข้อเท็จจริงประการนี้แหละที่เป็นที่มาของความศรัทธาภักดีชนิดต่างๆ บรรดาคริสตชนมีต่อพระนางมารีอาเพราะว่าพระนางได้รับพระคุณต่างๆ จากพระเป็นเจ้ามิใช่สำหรับพระนางแต่ผู้เดียว แต่ว่าเพื่อนำพระคุณต่างๆ เหล่านั้นไปให้มวลมนุษย์อีกทอดหนึ่ง

             พระมารดาพระเป็นเจ้าและพระมารดาของมนุษยชาติ

             พระนาม " เยซู " อันมีความหมายว่า " พระเป็นเจ้าทรงช่วยให้รอด " ได้ช่วยนำเราให้เข้าสู่รหัสธรรมของพระคริสตเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว คือ จากการรับเอากายในสวรรค์ของพระมารดา จนถึงการบังเกิด การเข้าพิธีสุหนัตและไปสิ้นสุดที่รหัสธรรมปัสกา คือการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า จึงเป็นพระพรที่ครบครันบริบูรณ์ของพระเป็นเจ้า เป็นพระพรของการช่วยให้รอด และเป็นสันติภาพสำหรับมนุษย์ทุกคน

             นักบุญอาทานาสได้เขียนเกี่ยวกับพระวจนาตถ์ได้ทรงรับร่างกายจากพระนางมารีย์ว่า  พระวจนาตถ์  " ทรงได้รับเอาเชื้อสายของอับราฮัมมาเป็นของพระองค์ และดังนี้เองพระองค์ทรงเป็นเหมือนพี่น้องในทุกอย่างตามที่ท่านอัครสาวกกล่าวไว้ ฉะนั้น พระองค์จึงทรงรับร่างกายเหมือนร่างกายของเราจากพระนางมารีย์ซึ่งเป็นผู้จัดเตรียมให้พระองค์ได้รับเอาร่างกายเช่นมนุษย์ พระนางได้พลีตนเองเพื่อเรา พระคัมภีร์ได้ประกาศถึงการให้กำเนิดองค์พระบุตร  โดยพระนางมารีย์ว่าดังนี้  " พระนางทรงหุ้มห่อพระองค์ด้วยผ้า "  พระถันที่เลี้ยงท่านมีบุญจริงๆ ได้มีการถวายองค์พระบุตรต่อพระเป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงเป็นบุตรหัวปี ทูตสวรรค์กาเบรียลได้แจ้งสารแก่พระนางมารีย์อย่างแจ่มแจ้ง  ทูตสวรรค์ไม่ได้กล่าวว่า " ผู้ที่เกิดในท่าน " ในกรณีนี้อาจคิดได้ว่าร่างกายได้ถูกนำเข้าไปในพระนางจากภายนอก แต่ทูตสวรรค์กล่าว่า  " ผู้ที่เกิดจากท่าน " ฉะนั้นจึงต้องเข้าใจว่า ผู้ที่พระนางให้กำเนิดได้มาจากพระนางตามกฎธรรมชาติ

             ตามพระคัมภีร์ ธรรมชาติเท่านั้นเกิดจากพระนางมารีย์ พระกายของพระเจ้านั้นเป็นร่างกายจริงๆ เพราะเป็นร่างกายอย่างเดียวกับร่างกายของเรา ทั้งนี้เพราะพระนางมารีย์เป็นพี่สาวของเรา เพราะเราทุกคนเป็นลูกหลานของอาดัม

             นักบุญยอห์นกล่าวว่า " พระวจนาตถ์ทรงรับสภาพเนื้อหนัง " ใจความเช่นเดียวกันนี้เราพบในจดหมายนักบุญเปาโลว่า  " พระคริสตเจ้าทรงกลับเป็นผู้ถูกสาปเพราะเรา " ร่างกายของมนุษย์ได้รับการยกย่องมากจากมิตรภาพ และเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเราที่รู้จักตายก็กลับเป็นร่างกายที่ไม่รู้จักตาย  แม้เป็นร่างกายก็กลับเป็นจิต แม้ถูกสร้างจากดินก็ได้ผ่านประตูสวรรค์

             ในเอกสารสังคายนาวาติกันที่ 2  ได้กล่าวถึงพระนางมารีอาพระมารดาของพระแมสสิยาห์ไว้ว่า " พระคัมภีร์ทั้งในภาคพันธสัญญาใหม่ตลอดจนธรรมประเพณี  อันเป็นที่เคารพแสดงให้เห็นบทบาทพระภารกิจขององค์พระมารดาของพระผู้กอบกู้ คล้ายๆ กับการนำมาตั้งแสดงให้ซึ่งเราเพ่งดู ที่จริงพันธสัญญาเดิมพรรณาถึงประวัติแห่งความรอด และการตระเตรียมเป็นขั้นเป็นตอนช้าๆ ของการเสด็จมายังโลกของพระคริสตเจ้า เอกสารในสมัยแรกๆ  ตามที่อ่านกันในพระศาสนจักรและตามที่เข้าใจกันตามแสงสว่างแห่งการไขแสดง อันมีต่อมาภายหลังอย่างครบบริบูรณ์ก็เห็นชัดขึ้นเป็นขั้นๆ ถึงโฉมภาพของสตรีผู้เป็นมารดาแห่งพระมหาไถ่ ภายใต้แสงสว่างดังกล่าวนี้  พระแม่เจ้าทรงเป็นภาพลางๆ  ตามคำพยากรณ์  เป็นคำมั่นสัญญาของพระเป็นเจ้าผู้ได้มีพระดำรัสกับบิดามารดาเดิม หลังจากที่ท่านได้กระทำบาปแล้วว่า " สตรีผู้หนึ่งจะมีชัยต่องู " ( เทียบ  ปฐก.3:15 )  เช่นเดียวกับพระนางพรหมจาริณีผู้นี้จะทรงกำเนิดและประสูติพระบุตร ซึ่งจะทรงพระนามว่า " เอมมานูแอล " ( เทียบ อสย. 7:14 เทียบ  มีคา  5:2 - 3 มธ .1:22 - 23 ) พระนามผู้นี้จะอยู่เหนือคนต่ำต้อยและคนอนาถาทั้งหลายของพระสวามีเจ้า เขาเหล่านั้นหวังด้วยความวางใจว่า จะได้รับความรอดจากพระองค์ซึ่งเขาก็ได้รับ ที่สุดพร้อมกับพระนางผู้นี้ องค์ท่านผู้เลอเลิศ เป็นธิดาแห่งซีออนหลังแต่ได้คอยเป็นเวลาช้านานแล้ว เหตุการณ์ตามที่พระเป็นเจ้าทรงได้สัญญาไว้นั้นก็มาถึง และแผนการณ์แห่งความรอดก็ได้อุบัติขึ้น  เมื่อพระบุตรของพระเป็นเจ้ารับเอาธรรมชาติมนุษย์จากพระนางเนื่องด้วยอาศัยพระรหัสธรรมต่างๆ  อันเกี่ยวข้องกับการทรงรับเอาเนื้อหนังมังสา  พระองค์จะได้ทรงช่วยมนุษย์ให้พ้นบาป " ( LG 55 )

             เช่นเดียวกับบรรดาคริสตศาสนิกชนทั้งหลาย พวกเราให้ความคารวะแด่พระนางมารีอาพรหมจารีผู้ซึ่งพระสังคายนา  ณ เมืองเอเฟซัส ได้ประกาศอย่างสง่าว่า พระนางทรงเป็นพระมารดาของพระเป็นเจ้า และเป็นบุตรมนุษย์ด้วย ( UR 15 )