วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกา 30 เมษายน 2017
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์ปี A
- เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์, 29 เมษายน 2560 05:36
- เขียนโดย พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์
- ฮิต: 593
วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกา
30 เมษายน 2017
บทอ่าน กจ 2:14, 22-33 ; 1 ปต 1:17-21 ; ลก 24:13-35
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 112, 439, 552, 555, 572, 601, 640, 641, 643, 645, 652, 659, 710, 1094, 1166, 1329, 1347, 2625
จุดเน้น ให้เราพยายามตระหนักถึงพระเยซูเจ้าในบุคคลและเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา
จงมองดูรอบๆ เขตวัดและคนอื่นที่มาวัดร่วมพิธีด้วยกัน ในฐานะที่เราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า เรามีวัยและประสบการณ์แตกต่างกัน เชื้อชาติ ภาษาแตกต่างกัน ถ้าเรามองดูลึกๆ เราจะเห็นความแตกต่างกันมาก เช่น ความรู้ความเข้าใจในพระเยซูเจ้า เราสามารถเห็นพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวันแตกต่างกัน บทอ่านวันนี้ช่วยเราให้เข้าใจวิธีแตกต่างกันเพื่อเข้าใจพระเยซูเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
บทอ่านวันนี้ เราอาจเห็นภาพลักษณ์ (การแข่งขัน) ของพระเยซูเจ้าในฐานะพระเมสสิยาห์ที่ชาวยิวรอคอยมานาน พร้อมขึ้นบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิด และในฐานะลูกแกะไร้มลทิน ผู้ยอมสละเลือดเพราะเห็นแก่เรา
ในหนังสือกิจการอัครสาวก นักบุญเปโตรกล่าวว่า พระเยซูเจ้าทรงถูกมอบในเงื้อมมือของท่าน ตามที่พระเจ้ามีพระประสงค์และทรงทราบล่วงหน้า ว่าจะรับทุกข์ทรมานบนไม้กางเขน สิ้นพระชนม์อย่างน่ากลัว เพื่อชนะความตายช่วยให้เราได้รับความรอด และกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย เสด็จสู่สวรรค์และประทับเบื้องขวาพระบิดา เพื่อฟื้นฟูชีวิตของเรา
หันมาดูพระวรสาร เราเห็นพระเยซูผู้ทรงเมตตาและน่ารัก พระองค์เสด็จเข้ามาร่วมเดินทางกับศิษย์ทั้งสองคนที่เศร้าหมองถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น พระองค์ทรงรับพวกเขาอย่างที่เป็น ช่วยพวกเขาให้เข้าใจว่าพระเยซูเจ้าเป็นความสมบูรณ์ของบรรดาประกาศกในพระคัมภีร์ของชาวยิว และพระองค์ทรงเผยแสดงอย่างสมบูรณ์ด้วยพระองค์เอง โดยอาศัยการบิขนมปัง
ความรักยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้าสำหรับศิษย์สองคนนี้ แสดงให้เราเห็นความอดทนและความเข้าใจ พระเยซูเจ้าทรงเดินร่วมทางสนทนาสั่งสอน ทรงอธิบายพระคัมภีร์ และเตือนให้คิดถึงกิจการของพระองค์ระหว่างอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ที่สำคัญที่สุด คือ พระเยซูเจ้าตั้งใจเดินกับบรรดาศิษย์ ยอมให้พวกเขาบอกเรื่องราวของตนเองและจึงสอน ช่วยให้พวกเขาจะสามารถเข้าใจได้ดีที่สุด
วันนี้ ขอให้เราหาเวลาคิดถึงพระทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า จึงทำให้เราได้รับการช่วยให้รอด ได้รับพระสัญญาและความหวังในชีวิตนิรันดร ให้เราภูมิใจในพระหรรษทานแห่งความรอดของพระเจ้า พยายามดำเนินชีวิตในพลังแห่งการกลับคืนพระชนม์ เพื่อเราจะได้เป็นประจักษ์พยานชีวิตถึงข่าวดีแห่งพระวรสาร จงทำให้ดีที่สุด เลียนแบบกิจการที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำวันนี้ คือ เต็มใจเดินกับประชาชนที่เราพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นพิเศษพยายามออกแรงฟังเรื่องราวต่างๆ ของพวกเขา ด้วยความอดทนและใจดี เราอาจช่วยพวกเขาให้เข้าใจดีขึ้นว่า พระเยซูเจ้ามีความหมายอะไรในชีวิตของพวกเขา
ในเวลาเดียวกัน ให้เราเปิดใจ รู้ว่าบุคคลที่เราพบปะด้วยอาจเป็นพระเยซูเจ้า กำลังเดินทางร่วมกับเรา เพื่อช่วยเราให้มีความหวัง และนำเราในวิถีชีวิตของเรา
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(เมษายน-มิถุนายน 2017), หน้า 186-188.
วันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์ปี A
- เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์, 22 เมษายน 2560 02:13
- เขียนโดย พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์
- ฮิต: 704
วันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา
วันอาทิตย์ฉลองพระเมตตา
23 เมษายน 2017
บทอ่าน กจ 2:42-47 ; 1 ปต 1:3-9 ; ยน 20:19-31
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 515, 618, 878
จุดเน้น พระเยซูเจ้าทรงยกเราให้พ้นความอ่อนแอภาษามนุษย์ และอาศัยพระเมตตาของพระองค์ ทรงนำเราให้สนิทสัมพันธ์กับพระบิดา
สุขสันต์วันปัสกา จริงอยู่ที่วันอาทิตย์ปัสกาเป็นสัปดาห์ที่แล้ว แต่เทศกาลปัสกายังต่อเนื่องรวม 7 สัปดาห์ จนถึงวันสมโภชพระจิตเจ้า (วันเปนเตกอสเต) ตลอดสัปดาห์เหล่านี้ ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพช่วยให้เรากล้าขึ้น เพื่อชื่นชมยินดีในธรรมล้ำลึกในชีวิต ความตาย และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า ซึ่งนำความรอดมาให้ ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 พระศาสนจักรรวมการฉลองปัสกากับพระเมตตาของพระเจ้า (นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้ประกาศวันฉลองพระเมตตา ในวันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา) ได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ถูกต้องของเรากับพระองค์ และอนุญาตให้เราเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ดังนั้น วันอาทิตย์หลังปัสกาจึงฉลองวันอาทิตย์พระเมตตาทั่วพระศาสนจักร
บทอ่านต่างๆ วันนี้ก็เหมาะสมกับความหมายของวันฉลอง ทั้งบทอ่านแรกและบทที่สอง สอนเราว่าประชาชนได้ดำเนินชีวิตอย่างไรจึงมีสันติสุข และได้รับพระพรที่พวกเราชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า จากหนังสือกิจการอัครสาวก เราได้ยินเรื่องคริสตชนสมัยแรกดำเนินชีวิตร่วมกันฉันพี่น้อง ร่วมพิธีนมัสการพระเจ้า แบ่งปันอาหาร และดำเนินชีวิตในชุมชน ทำให้มีโล่ฝ่ายวิญญาณป้องกันพวกเขาจากสิ่งอื่นๆ ในโลก ภายใต้โล่นี้ พระเจ้าทรงเสริมให้มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น และมีความเชื่อเข้มแข็งขึ้น โล่นี้ก็คือพระเมตตาของพระเจ้านั่นเอง
จดหมายนักบุญเปโตรฉบับที่หนึ่ง กล่าวถึง พระพรที่บรรดาคริสตชนสมัยแรกได้รับประสบการณ์ ท่านกล่าวว่า ขอถวายพระพรแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์ทรงพระกรุณาอย่างยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงบันดาลให้เราบังเกิดใหม่ และมีความหวังที่จะมีชีวิต อาศัยการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า นี่คือพระเมตตาที่นักบุญเปโตรฉลอง และรับรู้ว่าเป็นแหล่งกำเนิดความรอดพ้นของเรา
พระวรสารแสดงเมตตาธรรมในกิจการ คือ พระเยซูเจ้าทรงปรากฏองค์แก่บรรดาศิษย์เป็นครั้งแรก หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ปรารถนาให้พวกเขามีสันติสุข และทรงยืนยันว่า พระองค์สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพจริงๆ ทำให้สัญญาสำเร็จสมบูรณ์ ยังประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา ทำให้คำสอนที่พระองค์มอบให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนพวกเขาทำงานของพระบิดา พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมมอบพระจิตเจ้าแก่บรรดาอัครสาวกให้มีอำนาจอภัยบาปได้ พระองค์ทรงแต่งตั้งพวกเขาให้มีบทบาท ประทานพระเมตตาแก่บรรดาผู้ที่รับใช้ในนามของพระเจ้า
ที่สุด เราได้ยินเรื่องของโทมัส ก็เป็นตัวอย่างชัดเรื่องพระเมตตา โทมัสไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพถ้าเขามิได้เห็น พระเยซูเจ้าทรงยอมรับความอ่อนแอนี้ที่โทมัสสงสัย การยอมรับนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระเมตตา โทมัสเป็นตัวแทนของเรา และความอ่อนแอหลายแบบของเรา เหมือนที่พระองค์ได้ทำกับโทมัส พระองค์จะทำให้เราเข้มแข็งเมื่อเราสงสัย และช่วยเราแต่ละคนให้พ้นความอ่อนแอ โดยอาศัยพระเมตตา เพื่อนำเราให้สนิทสัมพันธ์กับพระบิดา
นี่คือความรัก นี่คือพระเมตตาที่พระเจ้าประทานให้เรา เมื่อเราไตร่ตรองมหัศจรรย์แห่งพระเมตตานี้ ให้เราแสดงความกตัญญูด้วยการดำเนินชีวิตตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเรา รักกันและกัน มีเมตตาต่อผู้ที่เราจะพบปะทุกวัน
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(เมษายน-มิถุนายน 2017), หน้า 175-177.
วันอาทิตย์ใบลาน พระทรมานขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์ปี A
- เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์, 07 เมษายน 2560 02:25
- เขียนโดย พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์
- ฮิต: 613
วันอาทิตย์ใบลาน พระทรมานขององค์พระผู้เป็นเจ้า
9 เมษายน 2017
การแห่ใบลาน มธ 21:1-11
บทอ่านมิสซา อสย 50:4-7 ; ฟป 2:6-11 ; มธ 26:14-27:66 หรือ มธ 27:11-54
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 333, 363, 441, 443, 500, 515, 536, 545, 585, 586, 591, 596, 597, 600, 609, 610, 612, 613, 633, 764, 1328, 1329, 1339, 1365, 1403, 1846, 2262, 2719, 2733, 2839, 2846, 2849
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร (CSDC) 454
จุดเน้น ไม่มีการหนีทางแห่งไม้กางเขน
สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วได้อย่างไร ประชาชนก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (เอาแน่นอนไม่ได้) ได้อย่างไร วันนี้เราเริ่มพิธีรับเสด็จพระเยซูเจ้าเข้ากรุงเยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์บนหลังแม่ลาตัวหนึ่ง ประชาชนโบกกิ่งไม้และโห่ร้องว่า “ขอถวายพระพรแด่ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ซึ่งเราใช้ในพิธีบูชาขอบพระคุณ
เราจบบทอ่านต่างๆ จากพระคัมภีร์วันนี้ ด้วยเรื่องพระทรมานของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงถูกทรยศ ถูกทรมาน ถูกปฏิเสธ ถูกเยาะเย้ย และถูกตรึงกางเขน... เราแขวนกางเขนใหญ่ที่มีร่างปราศจากชีวิตของพระผู้ไถ่ของเราในวัด และมีไม้กางเขนเล็กกว่าไว้ในบ้าน ไม้กางเขนเหล่านั้นบอกเรา... ราวกับว่า... เรากำลังพยายามตรึงกางเขนพระเยซูเจ้าอีก ราวกับว่าเราไม่รู้เรื่อง หรือไม่เชื่อในการกลับคืนชีพ
ไม่มีอะไรเกินความจริง ข้อเท็จจริงของเรา คือ เราไม่สงสัยความน่ายำเกรงของพระเจ้า และไม่สงสัยว่าพระผู้สร้างทรงเต็มใจที่จะพิสูจน์ความรักของพระองค์ต่อเรามนุษย์ทุกคน ตั้งแต่พระนางมารีย์ พระมารดาของพระเยซูเจ้า นักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด จนถึงคนบาปหนาที่สุด ความรอดก็เป็นของเรา
เราเชื่อเต็มๆ ในพระธรรมล้ำลึกปัสกาของพระเยซูคริสตเจ้า เราเข้าใจเต็มๆ ว่าชีวิตของพระองค์มิได้จบสิ้นบนไม้กางเขน เราดำเนินชีวิตธรรมล้ำลึกปัสกาทุกวันในชีวิต โอบกอดพระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า นี่คือเหตุผลที่พี่น้องมาที่นี่ เราตั้งใจระลึกถึงธรรมล้ำลึกนี้ทุกครั้งที่เราร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณด้วยกัน เราเข้าใจด้วยว่าจะไม่มีการกลับคืนชีพ ถ้าปราศจากการยอมรับไม้กางเขนแห่งความรอดในครั้งแรกนั้น
เมื่อความยากลำบากถาโถมเข้ามาในชีวิต เราจำเป็นต้องมองไปหาไม้กางเขนที่ใกล้ที่สุด เพราะเราจะระลึกได้ว่าเรามิได้อยู่โดดเดี่ยวในภัยพิบัตินั้น พระเยซูเจ้าทรงอยู่เคียงข้างเรา พิสูจน์ได้ทุกวันว่าความรักของพระองค์ยังไม่จบสิ้น
นี่เป็นข่าวสารที่เราต้องแบ่งปันกับสังคมที่แตกแยกว่า พระเยซูเจ้าเป็นหนทาง ความจริง และชีวิตสำหรับทุกคน หากเราผู้ประกาศจะติดตามพระเยซูผู้ถูกตรึงบนกางเขน ดำเนินชีวิตด้วยความปีติยินดี และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า โลกซึ่งเราอาศัยก็จะได้รับการเยียวยารักษาให้พ้นความเจ็บปวดและความทุกข์
ไม้กางเขนจะสามารถนำเราไปสู่คูหาว่างเปล่า แต่ยังมิได้เป็นจุดจบ ชีวิตของเราต้องประกาศว่า เราไว้วางใจในสัญญาที่ว่า หนทางของพระเยซูเจ้า เป็นหนทางที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(เมษายน-มิถุนายน 2017), หน้า 153-154.
วันอาทิตย์สมโภชปัสกา
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์ปี A
- เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์, 15 เมษายน 2560 15:31
- เขียนโดย พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์
- ฮิต: 566
วันอาทิตย์สมโภชปัสกา
16 เมษายน 2017
บทอ่าน กจ 10:34ก, 37-43 ; คส 3:1-4 ; ยน 20:1-9
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 112, 439, 500, 515, 552, 555, 572, 601, 640, 641, 643, 645, 652, 654, 659, 710, 1094, 1166, 1329, 1347, 2174, 2625
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร (CSDC) 454
จุดเน้น การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้ามิใช่เหตุการณ์ในอดีตบางประการในประวัติศาสตร์ แต่เป็นแก่นความเชื่อคริสตชนของเรา
นักบุญยอห์นจัดให้มารีย์ชาวมักดาลาเป็นศูนย์กลางของพระวรสารเรื่องการกลับคืนชีพวันนี้ เธอคนเดียวออกไปขณะที่ยังมืดวันแรก เพื่อทำพิธีปลงศพพระเยซูเจ้า เธอคิดอะไรขณะที่วิ่งไปที่พระคูหา เธอคิดแต่จะทำหน้าที่ของเธอก่อนคนอื่นจะตื่นหรือ นักบุญยอห์นมิได้ต้องการให้เราพลาดสัญลักษณ์ล้ำค่านี้ เพราะมันเป็นเวลาที่มารีย์ยังคงไม่เชื่อ (เรื่องการกลับคืนพระชนมชีพ)
ขณะที่เธอเข้าไปใกล้พระคูหา เธอเห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหา มิใช่ฐานะข่าวดี แต่คิดว่ามีคนขโมยพระศพของพระเยซูเจ้าไป ก่อนความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ เธอวิ่ง (หนี) จากสถานที่แห่งชัยชนะของพระเยซูเจ้า และไปซ่อนกับคนอื่นๆ ที่นี่ บางทีเธอเป็นสัญลักษณ์ของมนุษย์ทุกคน เมื่อสูญเสียบางสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิต เพราะความตาย หรือการสูญเสียมิตรภาพ หรือความฝันพังทลาย และพบว่ายากที่จะหวังในการกลับคืนชีพ
ในที่สุด มารีย์ทำสิ่งที่เราทุกคนควรทำ คือเธอไปหาผู้อื่นให้ช่วย เมื่อกลับไปที่พระคูหา เธอพานักบุญเปโตรผู้เคยปฏิเสธพระเยซูเจ้า และนักบุญยอห์นศิษย์รักของพระองค์ กระนั้น ทั้งสองด้วยยังไม่เห็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้น
เมื่อความจริงเปิดเผย นักบุญยอห์นวิ่งมาถึงเป็นคนแรก แต่ก็รอนักบุญเปโตรก่อนที่จะเข้าไปในพระคูหา เห็นผ้าพันพระศพ พวกเขามิได้เห็นแค่สิ่งภายนอกต่อไป แต่เวลานั้นเขาเชื่อขณะที่อยู่ในพระคูหามืดๆ ความเชื่อของนักบุญยอห์นในการกลับคืนชีพยังคงไม่สมบูรณ์ แต่เขาจำสิ่งที่พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ และเข้าใจว่าไม่มีใครมาขโมยพระศพ แต่ว่าพระเยซูเจ้าเองได้กลับคืนพระชนมชีพจริง
ในตรีวาร (สามวัน) ที่ผ่านมา เราติดตามหนทางยิ่งใหญ่ และวันนี้เรายืนที่พระคูหาว่างเปล่า มิใช่ไม่เชื่อ แต่เราเชื่อ เราฉลองพระคริสตเจ้าวันนี้ มิใช่พระคริสต์ที่ถูกตรึงบนกางเขน แต่เป็นพระคริสต์ผู้กลับคืนชีพ ถ้ายังอยู่ที่กัลวารีโอ เราก็ไปไม่ถึงพลังให้ชีวิตแห่งการกลับคืนพระชนม์ และการคืนดีกับทุกคน เพราะการกลับคืนชีพนี้เป็นชัยชนะแห่งความรักและการมอบตนเอง เหนือความเกลียดชังและบาป ความตายไม่มีอีกต่อไป เรามีชัยเหนือมัน อาศัยพระบิดาเจ้าทรงยกพระเยซูเจ้าให้กลับคืนจากความตาย
ขณะที่เรามาล้อมรอบเทียนปัสกา ขอให้ฟื้นฟูความเชื่อ สามารถเผชิญกับทุกสิ่งในชีวิต เราฉลองพระธรรมล้ำลึกปัสกาวันนี้ เราประกาศต่อโลกว่า เราเชื่อว่าพระคริสตเจ้าเป็นพระเจ้าของทุกสิ่งที่มีชีวิต พระองค์ก้าวเดินพร้อมกับเรา ฟื้นฟูเราด้วยพระหรรษทานของพระองค์ เพื่อเราดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจ และมีความหวังในชีวิตนิรันดร ที่นี่และบัดนี้
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(เมษายน-มิถุนายน 2017), หน้า 165-166.
วันอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต 2 เมษายน 2017
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์ปี A
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 30 มีนาคม 2560 02:43
- เขียนโดย พระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์
- ฮิต: 686
วันอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
2 เมษายน 2017
บทอ่าน อสค 37:12-14 ; รม 8:8-11 ; ยน 11:1-45
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 439, 472
จุดเน้น พระเยซูเจ้าช่วยเราให้เป็นอิสระจากโซ่ตรวนแห่งอดีต และทรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยยกเราสู่ชีวิตที่ใหม่กว่าและสมบูรณ์กว่า... ในความรักของพระองค์
บทอ่านต่างๆ วันนี้สอนเราถึงแก่นความเชื่อคริสตชน คือ พูดถึงความตายและชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า ในบทอ่านแรกจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล เราได้ยินพระเจ้าตรัสว่า “ประชากรของเราเอ๋ย เรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพของท่าน และยกท่านขึ้นมาจากหลุมศพ นำท่านกลับมายังแผ่นดินอิสราเอล”
ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงยกแผ่นหินออก” จากหลุมของลาซารัส พระองค์ทรงช่วยเขาจากสิ่งพันตัวเขา และให้เขาเป็นอิสระ
มีความหมายอะไรสำหรับเรา ใน ค.ศ. 2017 เราต้องเอาอะไรออกจากชีวิต
คำถาม อะไรช่วยนำเราสู่ชีวิต ความพ่ายแพ้ผิดหวังในอดีต หรือความหวังในอนาคต พระเจ้าตรัสผ่านประกาศกอิสยาห์ว่า “อย่าจดจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกต่อไป ดูเถิด เรากำลังจะทำสิ่งใหม่” (อสย 43:18-19) พระเจ้าต้องการให้เราเห็นสิ่งดีๆ มิใช่วิถีทางเดิมๆ แต่วิถีทางที่ใหม่เสมอ
เราจะเห็นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้อย่างไร เราจะมองสิ่งต่างๆ ด้วยมุมมองใหม่ได้อย่างไร วิธีเริ่มอย่างหนึ่ง คือ พิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ในชีวิตว่าอะไรดึงเราให้ตกต่ำ ที่ทำให้เรารู้สึกพ่ายแพ้
การมองโลกแบบแง่ร้ายสุดๆ การชอบเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่น ชอบหนีเสมอ ถือว่าเป็นชะตากรรมของเรา วิธีคิดแบบนี้ครอบงำและกีดกันเรามิให้เห็นวิธีที่พระเจ้าทรงต้องการเราให้เห็น
ปัสกา ซึ่งเราจะฉลองอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เป็นถ้อยแถลงด้านศาสนาว่า สำหรับคริสตชน ไม่มีการพ่ายแพ้ในที่สุด มั่นใจได้ เราจะทนทุกข์ชั่วคราว ถือว่าแพ้หรือ ไม่เลย เพราะเหตุว่า พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ เราจึงไม่พ่ายแพ้ทั้งหมด สิ่งที่จำเป็นจากเรา คือ ต้องเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า ขอให้เราเชื่อวางใจในพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงมอบความหวังให้เราวันนี้ พระคริสตเจ้าสามารถกลิ้งหินที่คุมขังใจของเราออกไป จงอย่าสงสัย หรือจมอยู่ในความพ่ายแพ้ จงมีอิสระเพราะพระเจ้าทรงช่วยเราเหมือนที่ทรงช่วยลาซารัสให้เป็นอิสระมาแล้ว ให้เขามีความสุข และปีติยินดี พระองค์อยากให้เราเดินแบบลูกของพระเจ้า ปัสกานี้ จงให้พระเจ้าทำบางสิ่งใหม่ๆ ในตัวพี่น้อง การกลับคืนชีพเป็นพระสัญญาที่เราสามารถมีชีวิตใหม่ได้
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(มกราคม-มีนาคม 2017), หน้า 142-144.