วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2020 เทศกาลพระคริสตสมภพ
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพุธ, 18 ธันวาคม 2562 07:25
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 862
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง 1 ยน 5:14-21
ท่านที่รักทั้งหลาย ความมั่นใจของเราต่อพระองค์มีอยู่ว่า ถ้าเราวอนขอสิ่งใดที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์จะทรงฟังเรา และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังสิ่งที่เราวอนขอ เราย่อมรู้ว่า เรามีสิ่งที่เราวอนขอนั้นแล้ว ผู้ใดเห็นพี่น้องทำบาป ซึ่งไม่ใช่บาปที่นำไปสู่ความตาย จงอธิษฐานภาวนาเพื่อพี่น้องคนนั้น แล้วพระเจ้าจะประทานชีวิตแก่เขา แต่ต้องไม่ใช่บาปที่นำไปสู่ความตาย มีบาปที่นำไปสู่ความตาย และข้าพเจ้าไม่บอกให้ท่านอธิษฐานเพื่อบาปชนิดนี้ ความอธรรมทุกชนิดเป็นบาป แต่ไม่ใช่บาปทุกชนิดนำไปสู่ความตาย
เรารู้ว่า ทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าย่อมไม่ทำบาป เพราะพระผู้ทรงบังเกิดจากพระเจ้าทรงเฝ้ารักษาเขาไว้ และมารร้ายไม่อาจแตะต้องเขาได้ เรารู้ว่า เรามาจากพระเจ้า โลกทั้งหมดอยู่ใต้อำนาจของมารร้าย เรารู้อีกว่า พระบุตรของพระเจ้าเสด็จมาแล้ว พระองค์ประทานความเข้าใจให้เรา เพื่อเราจะได้รู้จักพระเจ้าแท้ เราอยู่ในพระองค์ และอยู่ในพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้ และทรงเป็นชีวิตนิรันดรลูกที่รัก จงระวังตนจากรูปเคารพเถิด
สดด 149:1-2,3-4,5-7,8-9
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 3:22-30
หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จพร้อมกับบรรดาศิษย์เข้าไปในแคว้นยูเดีย พระองค์ประทับอยู่กับเขาที่นั่นและทรงทำพิธีล้าง ส่วนยอห์นก็ทำพิธีล้างอยู่ที่ไอโนน ใกล้ตำบลซาลิม เพราะที่นั่นมีน้ำบริบูรณ์ ประชาชนต่างมารับพิธีล้าง เวลานั้นยอห์นยังไม่ถูกจำคุก
ชาวยิวคนหนึ่งเริ่มโต้เถียงกับศิษย์บางคนของยอห์นเรื่องการชำระล้าง คนเหล่านั้นจึงไปหายอห์น พูดว่า “รับบี ขณะนี้ผู้ที่เคยอยู่กับท่านที่แม่น้ำจอร์แดนฟากโน้น และท่านเป็นพยานถึงเขากำลังทำพิธีล้างอยู่ และทุกคนก็ไปหาเขา”
ยอห์นตอบว่า “มนุษย์มีสิ่งใดไม่ได้นอกจากสิ่งที่ได้รับจากสวรรค์ ท่านทั้งหลายก็เป็นพยานได้ที่ข้าพเจ้าเคยกล่าวไว้แล้วว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสตเจ้า แต่ข้าพเจ้าถูกส่งมาก่อนพระองค์’
ผู้ที่มีเจ้าสาวคือเจ้าบ่าว แต่เพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนฟังอยู่ ย่อมยินดีเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าบ่าว ข้าพเจ้ามีความยินดีเช่นนี้ และความยินดีของข้าพเจ้าก็สมบูรณ์ พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง”
ข้อคิด
ศิษย์ของยอห์นที่ไม่ได้รับรู้พระประสงค์ของพระเจ้า เขาไม่เข้าใจพันธกิจ รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าอาจารย์ของตน แต่สำหรับยอห์น ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระประสงค์ของพระเจ้า ในพันธกิจที่ตนกำลังทำ เขาตระหนักดีว่า หน้าที่ของเขาคือ ทำพันธกิจให้ลุล่วง เพื่อให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไป โดยไม่เรียกร้องสิ่งใด ความชื่นชมยินดีของยอห์นผู้ทำพิธีล้างสมบูรณ์ เมื่อได้ทำทุกสิ่งตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อให้พระเยซูคริสตเจ้าเด่นชัดขึ้น แม้ตนเองจะต้องด้อยลงก็ตามเป็นการดีที่จะภาวนาบ่อยๆ เพื่อขอให้พระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเราสำเร็จไปตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย มิใช่ตามที่ใจเราปรารถนา
วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2020 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพุธ, 18 ธันวาคม 2562 07:23
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 938
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 42:1-4,6-7
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู เราเลือกเขาเพราะเราพอใจเขา เราให้จิตของเราแก่เขา เขาจะนำความยุติธรรมไปให้แก่นานาชาติ เขาจะไม่ร้องตะโกนหรือเปล่งเสียงดัง จะไม่ทำให้ใครได้ยินเสียงของเขาตามถนน ไม้อ้อที่ช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก และไส้ตะเกียงที่ริบหรี่อยู่ เขาจะไม่ดับ เขาจะประกาศความยุติธรรมด้วยความสัตย์จริง เขาจะไม่หมดหวังหรือท้อใจ จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมไว้บนแผ่นดิน ดินแดนชายทะเลจะรอคอยคำสอนของเขา
เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า เราเรียกท่านมาด้วยความชอบธรรม เราจับมือของท่านและรักษาท่านไว้ เราให้ท่านเป็นพันธสัญญาของประชากร และเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อเปิดตาคนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกจองจำจากคุก ปลดปล่อยผู้ที่อยู่ในความมืดจากที่คุมขัง”
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 10:34-38
เวลานั้น เปโตรเริ่มพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง ทุกคนที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติความชอบธรรม ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด ย่อมเป็นที่พอพระทัยของพระองค์
พระองค์ทรงมอบพระวาจาแก่ลูกหลานของชาวอิสราเอล โดยทรงประกาศข่าวดีแห่งสันติสุขเดชะพระเยซูคริสตเจ้า พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของทุกคน ท่านทั้งหลายรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดีย เริ่มต้นที่แคว้นกาลิลี หลังจากที่ยอห์นได้เทศน์สอนและทำพิธีล้าง พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูเจ้าชาวนาซาเร็ธด้วยพระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไปที่ใด ทรงกระทำความดีและทรงรักษาทุกคนที่อยู่ใต้อำนาจของปีศาจ เพราะพระเจ้าสถิตกับพระองค์”
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 3:14-17
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จมาจากแคว้นกาลิลีถึงแม่น้ำจอร์แดน เพื่อทรงรับพิธีล้างจากยอห์น ยอห์นพยายามชักชวนพระองค์ให้เปลี่ยนพระทัย เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าควรจะรับพิธีล้างจากท่าน แต่ท่านกลับมาพบข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เวลานี้ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ก่อน เพราะเราควรจะทำทุกอย่างตามพระประสงค์ของพระเจ้า” ยอห์นจึงยอมทำตาม
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างแล้ว เสด็จขึ้นจากน้ำ ทันใดนั้นท้องฟ้าเปิดออก พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระจิตของพระเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ดุจนกพิราบ และมีเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
ข้อคิด
นักบุญยอห์นประกาศยอมรับความจริงที่ว่า ท่านด้อยค่าเพียงใด เมื่อไปเทียบกับผู้ที่จะมาภายหลัง เพราะตนเป็นเพียงผู้รับใช้ มีหน้าที่ในการทำพิธีล้างด้วยน้ำเท่านั้น ส่วนผู้ที่มาภายหลังนั้น ท่านทำพิธีล้างด้วยพระจิตของพระเจ้า ประกาศกอิสยาห์บรรยายลักษณะของ "ผู้รับใช้" ที่พระเจ้าทรงพอพระทัยเพราะได้สวมใส่จิตของพระองค์ เขาจะเป็นผู้นำความยุติธรรมด้วยความจริง ไม่หมดหวัง หรือท้อแท้ใจ เมื่อพระจิตของพระเจ้าสถิตกับพระเยซูเจ้าผ่านทางพิธีล้าง หนังสือกิจการอัครสาวกบันทึกว่า พระเยซูเจ้าผ่านไปที่ไหน ก็ทรงทำแต่ความดี...ผู้รับใช้ที่ดีจึงไม่กังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่จะคำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำว่านำสิ่งดีหรือยัง
วันอังคารที่ 14 มกราคม 2020 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันอังคาร, 17 ธันวาคม 2562 11:04
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 847
บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่หนึ่ง 1 ซมอ 1:9-20
ครั้งหนึ่งที่เมืองชิโลห์ เมื่อนางฮันนาห์กินและดื่มแล้ว ก็ลุกขึ้นไปอยู่เฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า สมณะเอลีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างประตูวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า นางเศร้าโศกมาก ร้องไห้อย่างขมขื่น พลางอธิษฐานทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า นางบนบานว่าดังนี้ “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาล โปรดทอดพระเนตรมายังผู้รับใช้ที่มีความทุกข์ของพระองค์เถิด โปรดระลึกถึงข้าพเจ้า โปรดอย่าลืมผู้รับใช้ของพระองค์เลย ถ้าพระองค์ประทานบุตรชายคนหนึ่งแก่ผู้รับใช้ ข้าพเจ้าจะถวายเขาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดชีวิตของเขา ใบมีดจะไม่โกนศีรษะของเขาเลย”
ขณะที่นางอธิษฐานทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เป็นเวลานาน เอลีเฝ้าดูอากัปกิริยาจากริมฝีปากของนาง นางฮันนาห์อธิษฐานในใจ ริมฝีปากขมุบขมิบ แต่มิได้เปล่งเสียงออกมา เอลีคิดว่านางเมาเหล้า จึงถามนางว่า “เธอจะเมาอีกนานเท่าใด จงเลิกเมาเสียเถิด” นางฮันนาห์ตอบว่า “นายเจ้าขา ดิฉันไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือเมรัยใดๆ ดิฉันเป็นหญิงมีความทุกข์สาหัส จึงอธิษฐานระบายความทุกข์ในใจเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าคิดว่าผู้รับใช้ผู้นี้ของท่านเป็นหญิงเหลวไหลเลย ที่ดิฉันอธิษฐานเช่นนี้ ก็เพราะดิฉันเป็นทุกข์โศกเศร้ามาก” เอลีจึงว่า “จงไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลประทานให้ตามที่เธอทูลขอจากพระองค์” นางตอบว่า “ขอท่านโปรดปรานผู้รับใช้ผู้นี้เถิด” แล้วนางก็ลาจากไปกินอาหารและไม่เศร้าโศกอีก
วันรุ่งขึ้น เอลคานาห์และครอบครัวลุกขึ้นแต่เช้าตรู่นมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วเดินทางกลับบ้านที่เมืองรามาห์ เอลคานาห์หลับนอนกับนางฮันนาห์ภรรยา แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระลึกถึงนาง นางฮันนาห์ก็ตั้งครรภ์และเมื่อถึงเวลากำหนดก็ให้กำเนิดบุตรชาย นางตั้งชื่อเขาว่าซามูเอล “เพราะนางเคยทูลขอบุตรนี้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า”
1 ซมอ 2:1,4-5,6-7ก,7ข-8ค
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 1:21-28
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อถึงวันสับบาโต พระองค์เสด็จเข้าไปในศาลาธรรม และทรงเริ่มสั่งสอน คำสั่งสอนของพระองค์ทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะทรงสอนเขาอย่างทรงอำนาจไม่เหมือนกับบรรดาธรรมาจารย์
ขณะนั้น ในศาลาธรรมชายคนหนึ่งซึ่งปีศาจสิงอยู่ ร้องตะโกนว่า “ท่านมายุ่งกับเราทำไม เยซูชาวนาซาเร็ธ ท่านมาทำลายเราใช่ไหม เรารู้ว่าท่านเป็นใคร ท่านคือองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” พระเยซูเจ้าทรงดุปีศาจและตรัสสั่งว่า “จงเงียบ ออกไปจากผู้นี้” เมื่อปีศาจทำให้ชายผู้นั้นชักและร้องเสียงดังแล้ว มันก็ออกไปจากเขา ทุกคนต่างประหลาดใจ จึงถามกันว่า “นี่มันเรื่องอะไร เป็นคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ เขาสั่งแม้กระทั่งปีศาจ และมันก็เชื่อฟัง” แล้วกิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทุกแห่งตลอดทั่วแคว้นกาลิลีทันที
ข้อคิด
กิจการต่างๆ ที่ทำโดยอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า กิจการนั้นทรงพลังเสมอ ความสัมพันธ์ที่ดีของพระเยซูเจ้ากับพระบิดาเจ้า ทำให้ทุกกิจการที่พระองค์ทรงกระทำ นำมาซึ่งพลังอำนาจชวนให้ติดตาม เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ที่ดีของฮันนห์กับพระเจ้า ทำให้นางไม่อายที่จะระบายความทุกข์ของตนต่อพระเจ้า และทูลขอในสิ่งที่ตนเองปรารถนา เมื่อพระเจ้าทรงระลึกถึงนาง และโปรดให้นางได้ตามที่ทูลขอ นางก็ไม่ลืมที่จะโมทนาคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า ความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ดี.. "เพื่อจะมีจำเป็นต้องสร้าง"..
วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2020 น.ฮีลารี พระสังฆราชและนักปราชญ์
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันอังคาร, 17 ธันวาคม 2562 11:05
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 948
บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่หนึ่ง 1 ซมอ 1:1-8
ชายผู้หนึ่งชื่อเอลคานาห์อยู่ที่เมืองรามาธาอิม ในแถบภูเขาเอฟราอิม เขาเป็นชนเผ่าเอฟราอิมจากตระกูลศูฟ เป็นบุตรของเยโรฮัม ซึ่งเป็นบุตรของเอลีฮู บุตรของโทหุ บุตรของศูฟ เขามีภรรยาสองคน คนหนึ่งชื่อฮันนาห์ และอีกคนหนึ่งชื่อเปนินนาห์ นางเปนินนาห์มีบุตรชายหญิงหลายคน แต่นางฮันนาห์ไม่มีบุตรเลย ทุกปี ชายผู้นี้จะเดินทางจากเมืองของตนขึ้นไปนมัสการและถวายบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมจักรวาล ที่เมืองชิโลห์ (โฮฟนีและฟีเนหัส บุตรสองคนของเอลีเป็นสมณะขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่นั่น)
ทุกครั้งที่เอลคานาห์ถวายเครื่องบูชา เขาจะให้เนื้อสัตว์ที่ถวายหลายส่วนแก่นางเปนินนาห์ภรรยา และบุตรชายหญิงทุกคนของนาง แต่เขาให้ส่วนพิเศษแก่นางฮันนาห์เพราะรักนางฮันนาห์มาก แม้องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงให้นางมีบุตร นางเปนินนาห์ คู่แข่งมักจะเยาะเย้ยให้นางต้องอับอายและยั่วยุนางให้โกรธ ในการองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงให้นางมีบุตร เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นปีแล้วปีเล่า ทุกครั้งที่ครอบครัวขางเอลคานาห์ขึ้นไปยังวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า นางเปนินนาห์มักจะเยาะเย้ยนางฮันนาห์ จนนางร้องไห้ไม่ยอมกินอะไรเลย เอลคานาห์สามีของนาง จึงถามว่า “ฮันนาห์ที่รัก เธอร้องไห้ทำไม ทำไมเธอจึงไม่กินอาหารเลย ทำไมจึงเศร้าใจเช่นนี้ ฉันคนเดียวไม่ดีกว่าบุตรสิบคนหรือ”
สดด 116:12-13,14-15,และ 17, 18-19
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 1:14-20
หลังจากที่ยอห์นถูกจองจำ พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศเทศนาข่าวดีของพระเจ้า ตรัสว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด”
ขณะที่ทรงพระดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นซีโมนกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง พระเยซูเจ้าตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” ซีโมนกับอันดรูว์ก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที
เมื่อทรงพระดำเนินไปอีกเล็กน้อย พระองค์ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรของเศเบดี และยอห์นน้องชายกำลังซ่อมแหอยู่ในเรือ พระองค์ทรงเรียกเขา ทั้งสองคนก็ละทิ้งเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับลูกจ้าง แล้วตามพระองค์ไปทันที
ข้อคิด
จงเชื่อในการเลี้ยงดูเอาใจใส่ของพระเจ้า ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมอง วิธีคิด แทนที่จะน้อยใจกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่จง "ชื่นชมยินดี" กับ "สิ่งที่มีในปัจจุบัน" ซึ่งพระเจ้าประทานให้ แม้นางฮันนาห์จะโศกเศร้าเสียใจกับการไม่มีบุตร ถูกยั่วยุ เยาะเย้ย จากนางเปนินนาห์ คู่แข่งในชีวิต แต่เธอก็ได้รับความรักการดูแลเอาใจใส่จากเอลคานาห์ผู้เป็นสามีอย่างดี สำหรับบางคนเมื่อหันไปมองอดีตบางทีอาจจะเห็นภาพของความล้มเหลว ผิดหวัง เสียใจ แต่ความชื่นชมยินดีกับชีวิตในปัจจุบันที่ยังคงยืนหยัดในความเชื่อ จะกลับกลายเป็นเครื่องหมายที่ชัดเจนว่า พระเจ้าไม่ได้หายไปไหน พระองค์ยังคงเลี้ยงดูผู้ที่พระองค์ทรงรักเสมอ
วันพุธที่ 15 มกราคม 2020 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมกราคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันอังคาร, 17 ธันวาคม 2562 11:01
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 838
บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่หนึ่ง 1 ซมอ 3:1-10,19-20
หนุ่มซามูเอลรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในความดูแลของเอลี ในสมัยนั้นพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามีน้อย และไม่ค่อยมีนิมิตจากพระองค์ คืนหนึ่ง เอลีซึ่งบัดนี้นัยน์ตามืดมัวจนเกือบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว นอนอยู่ในห้องของตน ดวงประทีปในสักการสถานของพระเจ้ายังไม่ดับ ซามูเอลกำลังนอนอยู่ในสักการสถานขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่มีหีบพันธสัญญาของพระเจ้าประดิษฐานอยู่ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกซามูเอล เขาทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” แล้ววิ่งไปหาเอลีพูดว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” แต่เอลีตอบว่า “พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลก็กลับไปนอน องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกอีกว่า “ซามูเอล” ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลีพูดว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีตอบว่า “ลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ” ซามูเอลยังไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกเขา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ายังไม่ทรงเปิดเผยพระวาจาแก่เขามาก่อน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกซามูเอลอีกเป็นครั้งที่สาม เขาก็ลุกขึ้นไปหาเอลีพูดว่า “ท่านเรียกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว” เอลีจึงเข้าใจว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกเด็กนั้น เอลีบอกซามูเอลว่า “กลับไปนอนเถอะ ถ้ามีเสียงเรียกลูกอีกก็จงตอบว่า ‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่’” ซามูเอลจึงกลับไปนอนในที่ของตน
องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาประทับที่นั่น ตรัสเรียกเช่นครั้งก่อนว่า “ซามูเอล ซามูเอล” ซามูเอลทูลตอบว่า “ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่”
ซามูเอลเจริญวัยขึ้น องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา และทรงทำให้คำพูดทุกคำของซามูเอลเป็นจริง ดังนั้น ชาวอิสราเอลทุกคนตั้งแต่เมืองดานจนถึงเมืองเบเออร์เชบารู้ว่า ซามูเอลได้รับแต่งตั้งเป็นประกาศกขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สดด 40:1 และ 4,6-7ก,7ข-8,9
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 1:29-39
ทันทีที่ออกจากศาลาธรรม พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์พร้อมกับยากอบและยอห์น มารดาของภรรยาซีโมนกำลังนอนป่วยเป็นไข้อยู่ เขาจึงทูลพระองค์ให้ทรงทราบทันที พระองค์เสด็จเข้าไปจับมือนาง พยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ และรับใช้ทุกคน
เย็นวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว มีคนนำผู้ป่วยและผู้ถูกปีศาจสิงมาเฝ้าพระองค์ คนทั้งเมืองมารวมกันที่ประตู พระองค์ทรงรักษาหลายคนที่เป็นโรคต่างๆ ให้หาย ทรงขับไล่ปีศาจออกไป แต่ไม่ทรงอนุญาตให้มันพูด เพราะมันรู้จักพระองค์
วันต่อมา พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น ซีโมนและผู้ที่อยู่กับเขาตามหาพระองค์ เมื่อพบแล้ว จึงทูลพระองค์ว่า “ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราไปที่อื่นกันเถิด ไปตามตำบลใกล้เคียง เพื่อจะได้เทศน์สอนที่นั่นด้วย เพราะเรามาด้วยจุดประสงค์นี้” พระองค์จึงเสด็จไปเทศน์สอนตามศาลาธรรมทั่วแคว้นกาลิลี ทรงขับไล่ปีศาจด้วย
ข้อคิด
การรู้จักสังเกตและยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเวลาเพียงเล็กน้อยของเรา บางทีอาจเป็นการหยิบยื่น "ชีวิตใหม" ให้กับผู้ที่กำลังทนทุกข์ เพราะหมดหวัง เมื่อเห็นแม่ยายเจ็บป่วย เปโตรนำความทุกข์ทรมานของนาง ทูลให้พระเยซูทรงทราบ พระเยซูเจ้าช่วยเหลือด้วยการ "ยื่นมือ" พยุงให้ลุกขึ้น เมื่อนางหายไข้... "นางรับใช้ทุกคน".. เมื่อภารกิจสำเร็จ พระเยซูเจ้าไม่ได้ต้องการให้ผู้คนสรรเสริญพระองค์ โดยเลือกที่จะปลีกตัว เพื่อโมทนาคุณพระเจ้าในพระพรอันยิ่งใหญ่จากพระองค์ที่ได้ทรงทำงานผ่านมือของพระองค์ เมื่อผู้รับใช้... สังเกต..."ฟัง"...เสียงของพระเจ้า และปฏิบัติตาม พระเจ้าจะทรงบันดาลให้กิจการที่เขาทำประสบความสำเร็จเป็นจริงตามที่ทรงพอพระทัย...