มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2019 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 9:1-5
       พี่น้อง ข้าพเจ้าพูดความจริงในพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าไม่มุสา มโนธรรมของข้าพเจ้าและพระจิตเจ้าร่วมเป็นพยานได้ว่า ข้าพเจ้ามีความเศร้าโศกใหญ่หลวง และมีความทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา ข้าพเจ้ายินดีถูกสาปแช่ง ถูกตัดขาดจากพระคริสตเจ้า ถ้าหากจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องของข้าพเจ้าซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน พี่น้องเหล่านี้คือชาวอิสราเอล ที่ได้เป็นบุตรบุญธรรม ได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ ได้รับพันธสัญญา ธรรมบัญญัติ รวมทั้งศาสนพิธีและพระสัญญาต่างๆ พวกเขามีบรรพบุรุษเป็นต้นตระกูลของพระคริสตเจ้าตามธรรมชาติมนุษย์ พระองค์ทรงอยู่เหนือสรรพสิ่ง เป็นพระเจ้าและทรงได้รับการถวายสดุดีตลอดนิรันดร อาเมน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                  ลก 14:1-6
     วันสับบาโตวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง ผู้ที่อยู่ที่นั่นต่างจ้องมองพระองค์ ขณะนั้นชายคนหนึ่งเป็นโรคบวมกำลังอยู่เฉพาะพระพักตร์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสถามบรรดานักกฎหมายและชาวฟาริสีว่า “อนุญาตให้รักษาโรคในวันสับบาโตหรือไม่” แต่คนเหล่านั้นนิ่งเงียบ พระองค์จึงทรงพยุงผู้ป่วยขึ้น ทรงรักษาเขา แล้วให้กลับไป พระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นอีกว่า “ถ้าผู้ใดมีบุตรหรือมีโคตกลงไปในบ่อ จะไม่รีบฉุดขึ้นมาทันทีแม้เป็นวันสับบาโตหรือ” แต่คนเหล่านั้นตอบคำถามนี้ไม่ได้


ข้อคิด

      การตรัสของพระเยซูเจ้าที่ว่า “ถ้าผู้ใดมีบุตรหรือมีโค ตกลงไปในบ่อ จะไม่รีบฉุดขึ้นมาทันทีหรือ” เป็นการกระตุ้นให้เราแต่ละคนมีความรักและความเมตตาในชีวิตประจำวัน สิ่งต่างๆและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคน ล้วนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับเรา เหมือนดังโคซึ่งสามารถใช้ทำงานในอดีต และบุตรของครอบครัว ซึ่งเป็นพระพรจากพระเป็นเจ้าที่ประทานให้แก่ครอบครัวหนึ่งๆ
      พระทรงรักและเมตตาต่อเราทุกคน ดังเช่นที่พระองค์ทรงพยุงงผู้ป่วยและทรงรักษาเขา คงเป็นสิ่งที่ดีถ้าหากเราได้ถ่ายทอดความรัก ความเมตตาของพระเจ้าไปสู่บุคคลรอบข้างตังเราแต่ละคน

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2019 วันภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ

บทอ่านจากหนังสือโยบ                                             โยบ 19:1,23-27
      โยบกล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยากให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าถูกบันทึกไว้ อยากให้จารึกไว้ในหนังสือ อยากให้ใช้สิ่วเหล็กและตะกั่วสลักไว้บนหินให้คงอยู่ตลอดไป ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระผู้ปกป้องข้าพเจ้าทรงพระชนม์อยู่ จะทรงลุกขึ้นยืนเป็นคนสุดท้ายบนฝุ่นดิน เมื่อหนังของข้าพเจ้าถูกทำลาย และไม่มีร่างกายอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะเห็นพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเห็นพระองค์อยู่เคียงข้าง นัยน์ตาของข้าพเจ้าจะแลเห็นพระองค์ไม่ใช่อย่างคนแปลกหน้า ข้าพเจ้ารู้สึกมีความมั่นใจเช่นนี้

 

สดด 27:1-14

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโรม                 รม 5:5-11
     พี่น้อง ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะพระจิตเจ้าซึ่งพระเจ้าประทานให้เรา ทรงหลั่งความรักของพระเจ้าลงในดวงใจของเรา ขณะที่เรายังอ่อนแอ พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อคนบาปตามเวลาที่กำหนด ยากที่จะหาคนที่ยอมตายเพื่อคนชอบธรรม บางครั้งอาจจะมีคนยอมตายแทนคนดีจริงๆ ได้ แต่พระเจ้าทรงพิสูจน์ว่าทรงรักเรา เพราะพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเราขณะที่เรายังเป็นคนบาป บัดนี้ เมื่อเราได้รับความชอบธรรมโดยอาศัยพระโลหิตของพระองค์แล้ว เดชะพระองค์ เราก็ยิ่งจะได้รับความรอดพ้นจากการถูกพระเจ้าลงโทษ ถ้าเรากลับคืนดีกับพระเจ้าเดชะการสิ้นพระชนม์ของพระบุตรขณะที่เรายังเป็นศัตรูอยู่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อกลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดพ้นเดชะพระชนมชีพของพระองค์ด้วย มิใช่เพียงเท่านั้น เรายังภูมิใจในพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เดชะพระองค์ บัดนี้พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระเจ้าแล้ว

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                             ยน 6:37-40
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนที่ติดตามพระองค์ว่า “ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา และผู้ที่มาหาเรา เราจะไม่ผลักไสไปเลย เพราะเราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ เราจะไม่สูญเสียผู้ใดที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา แต่จะให้ผู้นั้นกลับคืนชีพในวันสุดท้าย พระประสงค์ของพระบิดาของเราก็คือ ทุกคนที่เห็นพระบุตร แล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดร และเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”


ข้อคิด

     พระเยซูเจ้าตรัสว่า พระประสงค์ของพระบิดาของเรา คือ ทุกคนที่เห็นพระบุตร แล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดรและเขาจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย
      เราทุกคนได้เห็นพระบุตรด้วยความเชื่อและการรับศีลล้างบาปของเรา ดังนั้น เราสามารถปฏิบัติตัวของเราอย่างดี ผ่านทางการระลึกถึงวิญญาณในไฟชำระและถ้าหากไปเยี่ยมสุสานตั้งแต่บ่ายวันที่ 1 พฤศจิกายน สมโภชนักบุญทั้งหลายจนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายนได้ วิญญาณในไฟชำระจะได้รับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ ซึ่งการภาวนาอุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ เราสวดภาวนาบทข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า บทข้าแต่พระบิดา และบทวันทามารีย์

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2019 ระลึกถึง น.ชาร์ลส์ โบโรเมโอ พระสังฆราช

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 11:29-36
      พี่น้อง ทั้งนี้ เพราะพระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนพระทัยเพิกถอนทั้งของประทานที่ทรงให้เปล่าและพระกระแสเรียกของพระองค์ ท่านทั้งหลายเคยไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่บัดนี้ได้รับพระกรุณา เพราะชาวอิสราเอลมิได้เชื่อฟังฉันใด บัดนี้ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้า แต่ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับพระกรุณา ดังที่ได้ทรงแสดงพระกรุณาต่อท่านฉันนั้น เพราะพระเจ้าทรงปล่อยให้มนุษย์ทุกคนไม่เชื่อฟังพระองค์ เพื่อจะได้ทรงแสดงพระกรุณา
     พระเจ้าทรงพระปรีชาและทรงรอบรู้ลึกล้ำเพียงใด คำตัดสินของพระองค์สุดที่จะหยั่งรู้ได้ และมรรคาของพระองค์สุดที่จะเข้าใจได้ ใครเล่าจะล่วงรู้พระดำริขององค์พระผู้เป็นเจ้า ใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ ใครเล่าเคยถวายสิ่งใดแด่พระองค์ พระองค์จึงจะต้องประทานตอบแทนเขา เพราะทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ โดยทางพระองค์และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร อาเมน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                ลก 14:12-14
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับผู้ที่เชิญพระองค์ว่า “เมื่อท่านจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ อย่าเชิญมิตรสหาย พี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มั่งมี เพราะเขาจะเชิญท่านและท่านจะได้รับการตอบแทน แต่เมื่อท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีวิต”

 

ข้อคิด

     เวลาที่มีงานเฉลิมฉลองหรือว่างานเลี้ยงและสังสรรค์ ผู้ที่เป็นคนจัดงานหรือเตรียมสิ่งต่างๆไว้ ก็มักจะเตรียมอย่างดี โดยดูถึงวัตถุประสงค์และแขกผู้ที่จะมาร่วมในงานนี้ด้วย เพื่อจะได้เตรียมสิ่งต่างๆไว้อย่างพอดีและเหมาะสมสำหรับกลุ่มคนเป้าหมายที่จะมาร่วมงาน
      กระนั้นก็ดี คงจะเป็นไปได้น้อยครั้งที่จะได้มีการจัดงาน สำหรับผู้ที่ยากลำบาก เราแต่ละคนก็ไม่ควรลืมด้วยเช่นกันว่า ในชีวิตของเราเอง ไม่ได้สุขสบายไปตลอดเวลา ย่อมมีบ้างที่ในเวลาที่แย่ในชีวิตแบบนั้น เราต้องการให้มีคนเข้าใจและหวังที่จะมีผู้คอยช่วยเหลือเรา ความเข้าใจต่อผู้อื่นและการช่วยเหลือผู้ที่ลำบากจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา และเราจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อเรากลับคืนชีพ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2019 สมโภชนักบุญทั้งหลาย

บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์                                           วว 7:2-4,9-14
       ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออก ถือตราของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ทูตสวรรค์องค์นั้นร้องเสียงดังบอกทูตสวรรค์ทั้งสี่องค์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำลายแผ่นดินและทะเลว่า “อย่าทำลายแผ่นดินหรือทะเลหรือต้นไม้ จนกว่าเราจะได้ประทับตราไว้ที่หน้าผากของบรรดาผู้รับใช้พระเจ้าของเรา” และข้าพเจ้าได้ยินว่าผู้ที่ได้รับการประทับตรามีจำนวนหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคน ผู้รับการประทับตราเหล่านี้มาจากทุกเผ่าของชาวอิสราเอล
       หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม ร้องสรรเสริญเสียงดังว่า “ความรอดพ้นเป็นของพระเจ้าของเรา ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ และเป็นของลูกแกะ” ทูตสวรรค์ทั้งหลายที่ยืนอยู่รอบพระบัลลังก์ รอบผู้อาวุโส และรอบผู้มีชีวิตทั้งสี่ตน ต่างกราบลงหน้าพระบัลลังก์ ศีรษะจรดพื้น นมัสการพระเจ้าว่า
อาเมน คำถวายพระพร พระสิริรุ่งโรจน์ พระปรีชาญาณ
คำขอบพระคุณ พระเกียรติยศ พระอานุภาพและพระพลานุภาพ
เป็นของพระเจ้าของเราตลอดนิรันดร อาเมน
ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามข้าพเจ้าว่า “คนที่สวมเสื้อขาวเหล่านี้เป็นใคร และมาจากไหน” ข้าพเจ้าตอบว่า “นายขอรับ ท่านก็รู้อยู่แล้ว” เขาจึงบอกข้าพเจ้าว่า “คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่ เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ

 

เพลงสดุดี                                                               สดด 24:1-2,3-4,5-6
      ก) แผ่นดินและสรรพสิ่งบนแผ่นดินเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
โลกและผู้อาศัยอยู่ในโลกก็เช่นเดียวกัน
พระองค์ทรงวางฐานของโลกไว้เหนือทะเล
ทรงตรึงยึดไว้มั่นคงบนกระแสน้ำไหล
       ข) ใครจะขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้
ใครจะยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ผู้มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์
ผู้ไม่ใฝ่หารูปเคารพ
ผู้ไม่สาบานเพียงเพื่อหลอกลวง
       ค) บุคคลเช่นนี้จะได้รับพระพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
จะได้รับความเป็นธรรมจากพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาให้รอดพ้น
นี่คือพงศ์พันธุ์ที่แสวงหาพระองค์
แสวงหาพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบ

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง     1 ยน 3:1-3
       พี่น้องที่รักยิ่ง จงดูเถิดว่า ความรักที่พระบิดาประทานให้เรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด เพื่อทำให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า และเราก็เป็นเช่นนั้นจริง โลกไม่รู้จักเรา เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์ ท่านที่รักทั้งหลาย บัดนี้ เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว แต่เราจะเป็นอย่างไรในอนาคตนั้นยังไม่ปรากฏชัดแจ้ง เราตระหนักดีว่า เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น ทุกคนที่มีความหวังในพระองค์ ย่อมชำระใจของตนให้บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                              มธ 5:1-12ก
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนจำนวนมาก จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ 2พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการปลอบโยน
ผู้มีใจอ่อนโยน ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก
ผู้หิวกระหายความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะอิ่ม
ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา
ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า
ผู้สร้างสันติ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
“ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุข เมื่อถูกดูหมิ่น ข่มเหงและใส่ร้ายต่างๆ นานาเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก”

 

ข้อคิด

       เมื่อเรามองในความเป็นจริง การขึ้นไปยังที่สูง เช่น ทางที่ชันหรือว่าต้องมีการปีนป่ายขึ้นไปนั้น เรามักจะมีความยากลำบากกว่าเดินทางเรียบและทางปกติสักหน่อย อาจจะเมื่อยบ้าง ปีนป่ายบ้าง เหนื่อยบ้าง
      หากเราเห็นถึงชีวิตของพระเยซูเจ้าและนักบุญทั้งหลายที่สมโภชในวันนี้ คงสามารถบอกได้ว่า “ผ่านกางเขนและความทุกข์ยากต่างๆ” เราก็จะได้พบกับแสงสว่าง ความชื่นชมยินดีและความสุขแท้จริงซึ่งพระจะประทานให้เรา ดังเช่นที่เราได้ฟังจากพระวาจาในวันนี้

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2019 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 12:5-16ก
      พี่น้อง เพราะร่างกายของเรามีองค์ประกอบหลายส่วน และส่วนต่างๆ เหล่านี้ไม่มีหน้าที่เดียวกันฉันใด แม้เราจะมีจำนวนมาก เราก็รวมเป็นร่างกายเดียวในพระคริสตเจ้าฉันนั้น โดยแต่ละคนต่างเป็นส่วนร่างกายของกันและกัน เรามีพระพรพิเศษแตกต่างกันตามพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้ ผู้ได้รับพระพรที่จะประกาศพระวาจา ก็จงใช้พระพรนั้นมากน้อยตามส่วนความเชื่อของตน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะรับใช้ ก็จงรับใช้ ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะสอน ก็จงสอน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะตักเตือน ก็จงตักเตือน ผู้ที่บริจาค ก็จงบริจาคด้วยความเอื้อเฟื้ออย่างจริงใจ ผู้ที่เป็นผู้นำ ก็จงทำหน้าที่ผู้นำด้วยความเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตากรุณา ก็จงแสดงความเมตตากรุณาด้วยใจยินดี จงรักด้วยใจจริง จงหลีกหนีความชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี จงรักกันฉันพี่น้อง จงคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน อย่าเฉื่อยชา จงมีจิตใจกระตือรือร้นในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงมีความอดทนต่อความทุกข์ยาก จงพากเพียรในการภาวนา จงเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ในยามขัดสน จงต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี
       จงอวยพรผู้ที่เบียดเบียนท่าน จงอวยพรเขา อย่าสาปแช่ง จงร่วมยินดีกับผู้ที่ยินดี จงร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห้ จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง แต่จงยอมทำสิ่งต่ำต้อยเถิด อย่าทะนงว่าตนฉลาด

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                ลก 14:15-24
      เวลานั้น ผู้ร่วมโต๊ะคนหนึ่งได้ยินเช่นนี้จึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “ผู้ที่กินอาหารในพระอาณาจักรของพระเจ้าย่อมเป็นสุข” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ชายผู้หนึ่งจัดงานเลี้ยงใหญ่และเชิญคนเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลางาน เขาส่งผู้รับใช้ไปบอกผู้รับเชิญทั้งหลายว่า ‘เชิญมาเถิด ทุกอย่างพร้อมแล้ว’ แต่ทุกคนต่างขอตัว คนแรกพูดว่า ‘ข้าพเจ้าได้ซื้อที่นาไว้แปลงหนึ่ง จำเป็นต้องไปดู จึงขออภัยที่มางานเลี้ยงไม่ได้’ อีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ข้าพเจ้าซื้อโคไว้ห้าคู่ กำลังจะไปทดลองใช้งาน จึงขออภัยที่มางานเลี้ยงไม่ได้’ อีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ข้าพเจ้าเพิ่งแต่งงาน จึงมาไม่ได้’
      ผู้รับใช้กลับมารายงานทุกอย่างแก่นายของตน นายโกรธมาก พูดกับผู้รับใช้ว่า ‘จงรีบออกไปตามลานสาธารณะและตามถนนในเมือง จงพาคนยากจน คนพิการ คนตาบอดและคนง่อยเข้ามาที่นี่เถิด’ ผู้รับใช้กลับมาบอกนายว่า ‘นายขอรับ ข้าพเจ้าทำตามคำสั่งของท่านแล้ว แต่ยังมีที่ว่างอีก’ นายจึงบอกผู้รับใช้ว่า ‘จงออกไปตามทางเดินและตามรั้วต้นไม้ เร่งเร้าผู้คนให้เข้ามาเพื่อทำให้คนเต็มบ้านของเรา เราบอกท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้ที่ได้รับเชิญคนใดจะได้ลิ้มรสอาหารของเรา’”


ข้อคิด

     ประสบการณ์จากตัวอย่างในสังคม ในกรณีที่มีงานหรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะมีหัวข้อหรือธีมสำหรับงานบ้างว่า ผู้ร่วมงานควรจะเตรียมตัวหรือต้องทำอะไร เช่น มีการแต่งกายสีใดหรือมีสัญลักษณ์และเครื่องหมายใดพิเศษในการเข้าร่วมงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ร่วมงานก็จะจัดเตรียมสิ่งต่างๆตามที่ผู้เตรียมงานได้กำหนดไว้
      ในวันนี้พระเจ้าทรงเป็นผู้จัดและเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้เราในพระอาณาจักรของพระองค์ หัวข้อและธีมต่างๆ พระองค์ไม่ได้เรียกร้องเราเลย ไม่ใช่บ้าน ที่ดินหรือทรัพย์สมบัติ เพียงแค่ให้เราเตรียมตัวเองอย่างดี ณ เวลาปัจจุบัน ในฐานะที่เราแต่ละคนเป็นคริสตชนคนหนึ่ง ผ่านทางชีวิตประจำวันและจิตใจของเรา

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown