มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2023 ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                            ปฐก 15:1-6,21:1-3

          หลังจากนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับรามในนิมิตว่า “อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ป้องกันท่าน บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก”

      แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตร เอลีเอเซอร์ชาวดามัสกัสก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพเจ้า” อับรามทูลอีกว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานบุตรให้แก่ข้าพเจ้า ดังนั้น บ่าวที่เกิดในบ้านของข้าพเจ้าก็จะได้รับมรดก” แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับรามอีกว่า “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก” พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้” พระองค์ทรงเสริมว่า “ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้” อับรามเชื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา

        องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดนางซาราห์ดังที่ตรัสไว้ และทรงกระทำกับนางซาราห์ตามที่ทรงสัญญาไว้ นางซาราห์ตั้งครรภ์ และให้กำเนิดบุตรชายแก่อับราฮัมเมื่อเขาชราแล้ว ตามเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ อับราฮัมตั้งชื่อบุตรที่นางซาราห์คลอดนั้นว่าอิสอัค

 

เพลงสดุดี                                                         สดด 105:1-2,3-4,5-6,8-9

ก)    จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า จงเรียกขานพระนามพระองค์เถิด

จงประกาศพระราชกิจของพระองค์แก่บรรดาประชาชาติ

จงขับร้องเพลงถวายพระองค์

จงบอกเล่าถึงพระราชกิจน่าพิศวงทั้งหลายของพระองค์

ข)    จงภูมิใจในพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ใจของผู้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าจงชื่นชมเถิด

จงแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอานุภาพของพระองค์

จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์อยู่เป็นนิตย์

ค)    จงระลึกถึงพระราชกิจน่าพิศวงที่ทรงกระทำ

ระลึกถึงพระปาฏิหาริย์และพระวินิจฉัยที่พระองค์ตรัสไว้

ท่านทั้งหลายที่เป็นพงศ์พันธุ์ของอับราฮัมผู้รับใช้พระองค์

เป็นลูกหลานของยาโคบซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรร

ง)     พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์อยู่ตลอดเวลา

ทรงระลึกถึงพระวาจาที่ทรงสัญญาไว้สำหรับมนุษย์หนึ่งพันชั่วอายุคน

พันธสัญญาที่ทรงกระทำไว้กับอับราฮัม

และคำปฏิญาณที่ทรงให้แก่อิสอัค

 

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                 ฮบ 11:8,11-12,17-19

        พี่น้อง เพราะความเชื่อ อับราฮัมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ออกเดินทางไปสู่สถานที่ที่เขาจะได้รับเป็นมรดก เขาออกเดินทางไปโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน

     เพราะความเชื่อ แม้นางซาราห์จะพ้นวัยให้กำเนิดแล้ว พระเจ้ายังทรงบันดาลให้ตั้งครรภ์ได้ เพราะนางเชื่อว่าพระองค์ผู้ทรงสัญญาจะทรงซื่อสัตย์ต่อคำสัญญานั้น ดังนั้น จากคนเดียวซึ่งเปรียบเสมือนกับตายแล้ว กลับเกิดลูกหลานจำนวนมากเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า และเหมือนเม็ดทรายที่นับไม่ได้บนชายทะเล

       เพราะความเชื่อ เมื่อพระเจ้าทรงลองใจ อับราฮัมจึงถวายอิสอัค เขาผู้ได้รับพระสัญญาก็ถวายบุตรคนเดียวของตน บุตรที่พระวาจากล่าวถึงไว้ว่า โดยทางอิสอัคเชื้อสายจะรับนามของท่าน เขาเชื่อว่าพระเจ้าทรงฤทธานุภาพอาจปลุกคนตายให้ฟื้นได้ และดังนั้น เขาจึงได้รับอิสอัคคืนมาเป็นสัญลักษณ์

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา            ลก 2:22-40

       เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตกับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า

       ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์

      โยเซฟประหลาดใจในถ้อยคำที่กล่าวถึงพระกุมาร พระนางมารีย์ก็ทรงรู้สึกเช่นเดียวกัน สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองคนและกล่าวแก่พระนางมารีย์พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน

      ประกาศกหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรหญิงของฟานูเอลจากเผ่าอาเชอร์ นางชรามากแล้ว แต่งงานตั้งแต่ยังสาว อยู่กับสามีเจ็ดปี หลังจากนั้นก็เป็นม่าย เวลานี้อายุแปดสิบสี่ปี ไม่ได้ออกจากพระวิหารเลย อยู่รับใช้พระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืน โดยจำศีลอดอาหารและอธิษฐานภาวนา นางเข้ามาในเวลานั้นพอดี ขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้ทุกคนที่กำลังรอคอยการไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มฟัง

       เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธเมืองของตนในแคว้นกาลิลี

       พระกุมารทรงเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์

 

ข้อคิด

     ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ทรงรักเราไม่ใช่เพราะเราน่ารัก  แต่ทรงรักเราเพราะเราเป้นลูกของพระองค์  ความเป็นลูกไม่อยู่ในความน่ารักหรือไม่น่ารัก พระองค์เสด็จมาเพื่อไถ่กู้เรา  ทั้งๆที่เราเป็นคนบาป ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจึงไม่ขึ้นอยู่กับท่าทีของเราว่าจะได้รับความรักของพระองค์หรือไม่รับ น.ยอห์นสะท้อนให้เห็นในบทนำพระวรสารของท่าน พระเจ้าเสด็จมาหาประชากรของพระองค์  แต่พวกเขาไม่ต้อนรับ  ซึ่งเห็นได้เป็นรูปธรรมเมื่อพระเจ้าทรงรับเอากายเป็นมนุษย์

     และอยู่ท่ามกลางมนุษย์ แต่ต้องหนีตายตั้งแต่แรกเกิด  แล้วนั้นถูกต่อต้าน  หาเรื่องจับผิด ถูกจับ  ถูกทำทารุณกรรม  ถูกประหารชีวิต ทุกอย่างเหล่านี้ไม่ใช่ว่าพระองค์จะทรงหลีกเหลี่ยงไม่ได้  พระองค์ทรงทำได้  แต่ทรงเลือกที่จะรักต่อไปอย่างไม่มีเงื่อนไข  และนี่คืออานุภาพและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

 

 

 

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2023 อัฐมวารพระคริสตสมภพ

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง        1 ยน 2:12-17

        ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วเดชะพระนามพระองค์

        ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านมารู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม

         เยาวชนทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านชนะมารร้ายแล้ว

         เด็กที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงเธอ เพราะเธอได้มารู้จักพระบิดา

         ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านมารู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม

         เยาวชนทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน เพราะท่านเป็นคนแข็งแรง และพระวาจาของพระเจ้าก็สถิตในท่าน และท่านชนะมารร้ายแล้ว

       จงอย่ารักโลก และสิ่งที่อยู่ในโลกเลย ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่อยู่ในตัวเขา เพราะทุกสิ่งที่อยู่ในโลก ได้แก่ ความมัวเมาในโลกีย์ ความโลภอยากได้ทุกสิ่ง และความหยิ่งทะนงโอ้อวดในทรัพย์สมบัติล้วนไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกทั้งสิ้น และโลกพร้อมกับความมัวเมาในโลกีย์ของโลกนั้นกำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดนิรันดร

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                     ลก 2:36-40

       เวลานั้น ประกาศกหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา เป็นบุตรหญิงของฟานูเอลจากเผ่าอาเชอร์ นางชรามากแล้ว แต่งงานตั้งแต่ยังสาว อยู่กับสามีเจ็ดปี หลังจากนั้นก็เป็นม่าย เวลานี้อายุแปดสิบสี่ปี ไม่ได้ออกจากพระวิหารเลย อยู่รับใช้พระเจ้าทั้งกลางวันกลางคืน โดยจำศีลอดอาหารและอธิษฐานภาวนา นางเข้ามาในเวลานั้นพอดี ขอบพระคุณพระเจ้าและกล่าวถึงพระกุมารให้ทุกคนที่กำลังรอคอยการไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มฟัง

        เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธเมืองของตนในแคว้นกาลิลี

        พระกุมารทรงเจริญวัยแข็งแรงขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์

 

ข้อคิด

     มนุษย์ถูกสร้างมาด้วยความรักและเพื่อความรัก  ความรักจึงเป็นแก่นแห่งชีวิตมนุษย์ ความรักขับเคลื่อนชีวิตของมนุษย์แต่ละวันตั้งแต่เช้าจจรดเย็น ความรักเป็นตัวจัดระดับความสำคัญแก่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของมนุษย์ ลำดับแรกมีแค่ลำดับเดียว  สำดับอื่นๆรองลงมา จึงไม่มีที่สำหรับสองอย่างในความรัก  พระเยซูเจ้าจึงทรงบอกชัดเจนว่ามนุษย์ไม่สามารถรับใช้นายสองคนในเวลาเดียวกัน  จะต้องเลือกให้ใครเป็นอันดับแรก 

    ใครเป้นอันดับสองรองลงมา น.ยอห์นในบทจดหมายของท่านบอกให้เราเลือกระหว่างความรักโลกและสิ่งที่อยู่ในโลก  กับความรักของพระบิดา  หากรักโลก  ก็ไม่มีที่สำหรับความรักพระบิดา  หากรักพระบิดา  ความรักโลกและสิ่งที่อยู่ในโลกก็รองลงมา ยิ่งกว่านั้น  ความรักพระบิดาจะช่วยให้คุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอยู่ในลำดับที่ถูกต้องในชีวิตเรา

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2023 ฉลองนักบุญทารกผู้วิมล

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง        1 ยน 1:5-2:2

       พี่น้องที่รักยิ่ง นี่คือข่าวที่เราได้ฟังจากพระองค์ และเรากำลังประกาศให้ท่านทั้งหลายรู้คือ พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และไม่มีความมืดใดๆ อยู่ในพระองค์เลย ถ้าเราพูดว่า เราสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ แต่ยังดำเนินชีวิตอยู่ในความมืด เราก็กำลังพูดเท็จ เพราะเราไม่ดำเนินชีวิตอยู่ในความจริง แต่ถ้าเราดำเนินชีวิตในความสว่าง ดังที่พระองค์ทรงดำรงอยู่ในความสว่างแล้ว เราทุกคนก็สนิทสัมพันธ์กันด้วย และพระโลหิตของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ก็ชำระเราให้สะอาดจากบาปทั้งปวง

       ถ้าเราพูดว่า “เราไม่มีบาป” เรากำลังหลอกตนเอง และ “ความจริง” ไม่อยู่ในเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และทรงเที่ยงธรรม ถ้าเราสารภาพบาป พระองค์จะทรงอภัยบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้สะอาดจากความอธรรมทั้งปวง ถ้าเราพูดว่า “เราไม่เคยทำบาป” เราก็ทำให้พระองค์ตรัสคำเท็จ และพระวาจาของพระองค์ไม่อยู่ในเรา

       ลูกที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อท่านจะได้ไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เรายังมีทนายแก้ต่างให้เฉพาะพระพักตร์ของพระบิดา คือพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาชดเชยบาปของเรา และไม่เพียงแต่ชดเชยเฉพาะบาปของเราเท่านั้น แต่ชดเชยบาปของมนุษย์ทั้งโลกด้วย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                        มธ 2:13-18

        เมื่อบรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ และจงอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำลังสืบหาพระกุมารเพื่อจะประหารชีวิต” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปอียิปต์ในคืนนั้น และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า

          เราเรียกบุตรของเรามาจากอียิปต์

        เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงเห็นว่าพระองค์ถูกบรรดาโหราจารย์หลอกลวง ก็กริ้วยิ่งนัก จึงทรงสั่งให้ประหารชีวิตเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาในเมืองเบธเลเฮมและบริเวณใกล้เคียง ตามเวลาที่ทรงทราบมาจากบรรดาโหราจารย์ ดังนี้ พระดำรัสที่ตรัสไว้โดยประกาศกเยเรมีย์ก็เป็นความจริงว่า

        มีผู้ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์

              เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น

        นางราเคลร้องไห้อาลัยถึงบรรดาบุตร

               นางไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ

        เพราะบุตรเหล่านั้นไม่อยู่แล้วฃ

 

ข้อคิด

     พระเจ้าทรงมาเป็นมนุษย์เพื่อเติมเต็มชีวิตมนุษย์ด้วยความดีของพระองค์ จึงน่าจะเป็นข่าวดี  แต่สำหรับคนที่ใจไม่พร้อม  กลับถือเป็นข่าวร้าย กษัตริย์เฮโรดมองเป็นข่าวร้าวเมื่อโหราจารย์มาบอกถึงการบังเกิดของพระองค์  เพราะกลับพระองค์จะมาแย่งชิงบัลลังก์ ทั้งๆที่พระองค์ทรงมาเพื่อให้สิ่งที่ดีกว่า กลัวถึงขนาดหาทางกำจัดพระองค์  ประวัติศาสตร์ยังคงซ้ำรอย  เมื่อเราแต่ละคนยังไม่พร้อมเปิดใจให้พระองค์มาเติมเต็มชีวิต 

    ยังคิดว่าพระองค์จะมาทำให้ชีวิตหมดความสุข  ยังระแวงถือตามคำสอนของพระองค์แล้วจะทำให้เสียเปรียบไม่ได้สิ่งที่คนอื่นได้  ทำอย่างที่คนอื่นเขาทำกันไม่ได้ ถึงแม้ไม่คิดจะกำจัดพระองค์เหมือนกับกษัตริย์เฮโรด  แต่ก็ดำเนินชีวิตเหมือนกับไม่มีพระองค์  เหมือนไม่มีข่าวดีของพระองค์  ทำนองว่าพระเจ้าก็ได้  ไม่มีพระเจ้าก็ไม่เห็นเป็นไร

 

 

วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2023 น.โทมัส เบ็คเก็ต พระสังฆราชและมรณสักขี

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง        1 ยน 2:3-11

        ลูกที่รักทั้งหลาย ถ้าเราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เรามั่นใจว่าเรารู้จักพระองค์ ผู้ที่พูดว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เขาเป็นคนพูดคำเท็จ และ “ความจริง” ไม่อยู่ในตัวเขา แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ความรักของพระเจ้าในผู้นั้นย่อมสมบูรณ์ โดยวิธีนี้เราจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระเจ้า ผู้ที่พูดว่าเขาอยู่ในพระองค์ ก็ต้องดำเนินชีวิตเหมือนกับที่พระองค์ทรงดำเนินชีวิต

           ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่าน มิใช่บทบัญญัติใหม่ แต่เป็นบทบัญญัติเก่าที่ท่านมีอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม บทบัญญัติเก่านี้คือถ้อยคำที่ท่านได้ฟังมา บทบัญญัติที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านนั้น ก็ยังนับว่าใหม่ ใหม่จริงทั้งสำหรับพระองค์และสำหรับท่าน เพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไป ความสว่างแท้จริงกำลังทอแสงขึ้นมาแล้ว ผู้ที่อ้างว่าตนอยู่ในความสว่าง แต่เกลียดชังพี่น้องของตนผู้นั้นยังจมอยู่ในความมืด ส่วนผู้ที่รักพี่น้องของตน ก็ดำรงอยู่ในความสว่าง และไม่มีสิ่งใดในตัวเขาที่ทำให้เขาล้มลงได้ แต่ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตน ก็อยู่ในความมืด และเดินวนเวียนอยู่ในความมืด โดยไม่รู้ว่าเขากำลังเดินไปทิศทางใด เพราะความมืดทำให้ตาของเขาบอด

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                           ลก 2:22-35

         เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตกับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า

       ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์

       โยเซฟประหลาดใจในถ้อยคำที่กล่าวถึงพระกุมาร พระนางมารีย์ก็ทรงรู้สึกเช่นเดียวกัน สิเมโอนอวยพรท่านทั้งสองคนและกล่าวแก่พระนางมารีย์พระมารดาว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจำนวนมากจะถูกเปิดเผย” ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน

 

 

ข้อคิด

    สิเมโอนได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าในการทำบทบาทที่สำคัญยิ่ง  นั้นคือ ประกาศว่าพระเยซูเจ้าเสด็จมา  ไม่ใช่เพื่อชนชาติเลือกสรรของพระเจ้า  แต่เพื่อทุกชนชาติและนำทุกชนชาติให้มารู้จักพระเจ้า  เป้นการตอกน้ำว่าชนทุกชาตอทุกภาษเป็นประชากรของพระองค์ เป็นพระบุตรของพระองค์ แต่นี้ไป  ความสัมพันธ์ของประชากรกับพระเจาไม่อยู่ในเลือดเนื้อเชื้อไข  ชาติตระกูล  แต่อยู่ในความสัมพันธ์แห่งรัก 

     ตามพระฉายาของพระองค์อย่างที่ น.ยอห์นเน้นในบทอ่านแรก “ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์” บทบัญญัติที่พระองค์ทรงมอบให้ “จงรักกันและกันอย่างที่เรารักท่าน” พระเจ้าทรงเป็นความรัก ทุกครั้งที่รักก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้า และทุกครั้งที่รัก “คนทั้งหลายจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา”

 

 

 

วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2023 ฉลอง น.ยอห์น อัครสาวกและผู้นิพนธ์พระวรสาร

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง        1 ยน 1:1-4

         พี่น้องที่รักยิ่ง เราประกาศเรื่องราวเกี่ยวกับพระวจนาตถ์แห่งชีวิต ซึ่งเป็นอยู่แล้วตั้งแต่แรกเริ่ม เราได้ฟัง เราได้เห็นด้วยตาของเรา เราได้เฝ้ามอง และเราได้สัมผัสด้วยมือของเรา ชีวิตนั้นได้ปรากฏ เราได้เห็นและได้เป็นพยาน เราประกาศให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงชีวิตนิรันดรซึ่งอยู่กับพระบิดา และปรากฏให้เราเห็น สิ่งที่เราได้เห็นและได้ฟังนี้ เราประกาศให้ท่านทั้งหลายรู้ด้วย เพื่อท่านจะได้สนิทสัมพันธ์กับเรา ความสนิทสัมพันธ์นี้คือความสนิทสัมพันธ์กับพระบิดา และกับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสตเจ้า เราเขียนเรื่องนี้ถึงท่าน เพื่อความปีติยินดีของเราจะได้สมบูรณ์

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                 ยน 20:2-8

         เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ มารีย์ชาวมักดาลาจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน”

         เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ

 

ข้อคิด

     มารีย์ชาวมักดาลาออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ มุ่งไปที่พระคูกา  เมื่อเห็นประตูพระคูหาเปิด ไม่มีพระองค์อยู่ในนั้น  เธอน่าจะดีใจ เพราะพระองค์ทำตามที่บอกไว้ล่วงหน้าว่าจะทรงกลับคืนชีพ  มารีย์ผิดหวังเพราะเธอตั้งใจมาพบพระองค์ที่สิ้นพระชนม์  ไม่ใช่พระองค์ที่ทรงกลับคืนชีพ เปโตรกับศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักไปเห็นพระคูหาว่างเปล่าเช่นกัน มีแต่ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักได้เห็นและได้เชื่อ  เป็นการตอกย้ำว่าเมื่อเชื่อต้องมีความรักเป็นที่ตั้ง 

    ความรักทให้เห็นได้มากว่าสายตามองเห็น  ในขณะที่ตามองเห็นพระคูหาว่างเปล่า ความรักบอกได้ทันทีว่าพระองค์น่าเชื่อถือและทำตามที่ตรัสไว้ล่วงหน้า “ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก” เป็นชื่อที่เปิดไว้ให้เราแต่ละคนใส่ชื่อของเราเข้าไปในฐานะศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก

 

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown