มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2023 ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียน

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม                                    รม 12:9-16

       พี่น้อง จงรักด้วยใจจริง จงหลีกหนีความชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี จงรักกันฉันพี่น้อง จงคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน อย่าเฉื่อยชา จงมีจิตใจกระตือรือร้นในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงมีความอดทนต่อความทุกข์ยาก จงพากเพียรในการภาวนา จงเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ในยามขัดสน จงต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี

        จงอวยพรผู้ที่เบียดเบียนท่าน จงอวยพรเขา อย่าสาปแช่ง จงร่วมยินดีกับผู้ที่ยินดี จงร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห้ จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง แต่จงยอมทำสิ่งต่ำต้อยเถิด อย่าทะนงว่าตนฉลาด

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                      ลก 1:39-56

     หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”

       พระนางมารีย์ตรัสว่า

      วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้ทรงกอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า พระนามพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอลผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป

       พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ

 

 

ข้อคิด
     พระนางมารีย์พร้อมกับพระเยซูเจ้าในพระครรภ์ของพระนางได้เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ และนางเอลีซาเบธพร้อมทั้งบุตรในครรภ์ของนาง ด้วยอำนาจของพระจิตนางเอลีซาเบธสามารถสัมผัสได้ถึงพระเยซูเจ้าในพระครรภ์ของแม่พระ จึงชื่นชมยินดีและสรรเสริญพระนาง เราคริสตชน เราสัมผัสได้ถึงการประทับอยู่ของเจ้าในชีวิตของเราหรือไม่ ชีวิตของเราน่าชื่นชมยินดีหรือเปล่า และเพื่อนที่น้องของเราที่ใช้ชีวิตกับเรา หรือที่เราไปพบปะพูดคุย ได้สัมผัสกับพระเยซูเจ้าในชีวิตของเราหรือไม่

 

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 8 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา                                                     บสร 35:1-12 (Vg 35:1-15)

        การปฏิบัติตามธรรมบัญญัติก็เป็นเสมือนการถวายเครื่องบูชามากมาย การปฏิบัติตามบทบัญญัติก็เป็นเสมือนการถวายศานติบูชา การรู้บุญคุณก็เป็นเสมือนการถวายแป้งสาลีดีเยี่ยม การให้ทานก็เป็นเสมือนการถวายเครื่องบูชาสรรเสริญพระเจ้า สิ่งที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้าก็คือการละทิ้งความชั่วร้าย การละเว้นความอยุติธรรมก็เป็นเสมือนการถวายเครื่องบูชาชดเชยบาป อย่าเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยไม่นำของถวายมาด้วย เพราะบทบัญญัติเรียกร้องให้ถวายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อผู้ชอบธรรมถวายสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชาบนพระแท่น กลิ่นหอมฟุ้งก็ลอยขึ้นไปเฉพาะพระพักตร์พระผู้สูงสุด

          เครื่องบูชาของผู้ชอบธรรมเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะไม่ทรงลืมเครื่องบูชานี้เลย จงถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกว้าง อย่าตระหนี่ผลิตผลแรกจากผลงานที่ท่านทำ ทุกครั้งที่ท่านถวายเครื่องบูชา จงมีหน้าตายิ้มแย้ม จงถวายรายได้หนึ่งในสิบส่วนด้วยความยินดี จงถวายแด่พระผู้สูงสุดให้สมกับพระพรที่ท่านได้รับจากพระองค์ด้วยใจกว้างตามที่ท่านจะทำได้ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานบำเหน็จตอบแทนเสมอ พระองค์จะประทานรางวัลให้ท่านถึงเจ็ดเท่า

            อย่าติดสินบนพระเจ้า พระองค์จะไม่ทรงรับ อย่าไว้ใจเครื่องบูชาที่ไม่ชอบธรรม เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา พระองค์ไม่ทรงเลือกที่รักมักที่ชัง

     

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                                                              มก 10:28-31

         เวลานั้น เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียน และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร หลายคนที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก”

 

 

ข้อคิด
     การเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้าและการอุทิศตนประกาศข่าวดีของพระองค์นั้นมีสิ่งที่เราต้องจ่ายและต้องเสียสละมากมาย หรือแม้แต่ชีวิตด้วย แต่พระเยซูเจ้าก็ให้ความมั่นใจว่าสิ่งที่เราจ่ายและเสียสละไปนั้น จะไม่สูญเปล่าและถูกเมินเฉยจากพระองค์แน่นอน แต่จะบังเกิดผลอย่างมากมาย ทั้งในโลกนี้ และจะได้รับชีวิตนิรันดรในโลกหน้าด้วย

 

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2023 สมโภชพระจิตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                            กจ 2:1-11

      เมื่อวันเปนเตกอสเตมาถึง บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทันใดนั้นมีเสียงจากฟ้าเหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า ทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้น แยกไปอยู่เหนือศีรษะของเขาแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม และเริ่มพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด

      ขณะนั้นที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิวผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้ามาจากทุกชาติทั่วโลก เมื่อประชาชนได้ยินเสียงนี้ จึงมาชุมนุมกันจำนวนมาก รู้สึกฉงนสนเท่ห์ เพราะแต่ละคนได้ยินคนเหล่านี้พูดภาษาของตน และประหลาดใจอย่างยิ่ง กล่าวว่า “ทุกคนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นชาวกาลิลีมิใช่หรือ แล้วทำไมเราแต่ละคนจึงได้ยินเขาพูดภาษาท้องถิ่นของเรา เราชาวปารเธีย ชาวมีเดีย และชาวเอลาม บางคนอาศัยอยู่ในเขตเมโสโปเตเมีย แคว้นยูเดีย แคว้นคัปปาโดเซีย แคว้นปอนทัสและแคว้นอาเซีย แคว้นฟรีเจียและแคว้นปัมฟีเลีย บางคนมาจากอียิปต์และเขตของประเทศลิเบียรอบๆ เมืองไซรีน บางคนมาจากกรุงโรม ทั้งชาวยิวและผู้กลับใจเข้านับถือลัทธิยิว บางคนเป็นชาวเกาะครีตและชาวอาหรับ พวกเราได้ยินคนเหล่านี้ประกาศกิจการยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นภาษาของเรา”

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง 1 คร 12:3ข-7,12-13

        พี่น้องทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดพูดโดยพระจิตเจ้าทรงดลใจว่า “พระเยซูจงถูกสาปแช่ง” และหากพระจิตเจ้ามิได้ทรงดลใจ ก็ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่า “พระเยซูคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”

        พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

        แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่างๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้าก็ฉันนั้น เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเป็นไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น          ยน 20:19-23

       ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามายืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”

          ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”

 

 

ข้อคิด
     พลังขององค์พระจิตเจ้าได้ผลักดันให้บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่รวมกันอยู่ในห้องที่ปิดอยู่กล้าออกมาเริ่มป่าวประกาศข่าวดี สานต่อพันธกิจขององค์พระเยซูเจ้า อาศัยองค์พระจิตเจ้านี้เองทำให้พระศาสนจักรมีชีวิตและทำงานประกาศกิจการยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ทำให้คนจำนวนมากได้รับฟังข่าวดี ได้รับการอภัยบาป และได้มีความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้า ขอให้พลังของพระจิตเจ้าในตัวเราได้ผลักดันเราให้มีความกล้าหาญในการประกาศข่าวดีแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของเราเสมอ

 

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2023 ระลึกถึงพระนางมารีย์ พระมารดาของพระศาสนจักร

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                                   ปฐก 3:9-15,20

           องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงเรียกมนุษย์ ตรัสถามว่า “ท่านอยู่ไหน” มนุษย์ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวน ก็กลัวเพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ จึงได้ซ่อนตัว” พระองค์ตรัสถามว่า “ใครบอกท่านว่าท่านเปลือยกายอยู่ ท่านได้กินผลจากต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กินนั้นแล้วหรือ” มนุษย์ทูลตอบว่า “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพเจ้าได้ให้ผลจากต้นไม้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน” องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสกับหญิงว่า “ท่านทำอะไรไป” หญิงทูลตอบว่า “งูหลอกลวงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน”

          องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าจึงตรัสกับงูว่า “เพราะเจ้าทำเช่นนี้ เจ้าจงถูกสาปแช่ง ในบรรดาสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าทั้งปวง เจ้าจะต้องใช้ท้องเลื้อยไปตามพื้นดิน และกินฝุ่นเป็นอาหารทุกวันตลอดชีวิต เราจะทำให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของนางเป็นศัตรูกันด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และเจ้าจะกัดส้นเท้าของเขา”

          มนุษย์เรียกภรรยาของตนว่า “เอวา” เพราะนางเป็นมารดาของผู้มีชีวิตทั้งหลาย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                          ยน 19:25-34

       เวลานั้น พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระองค์พร้อมกับน้องสาวของพระนาง มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส และมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นพระมารดาและศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ๆ จึงตรัสกับพระมารดาว่า “แม่ นี่คือลูกของแม่” แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า “นี่คือแม่ของท่าน” ตั้งแต่เวลานั้น ศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน

        หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้ว จึงตรัสว่า “เรากระหาย” พระคัมภีร์ตอนนี้จึงเป็นจริงด้วย

        ที่นั่นมีภาชนะใบหนึ่งบรรจุน้ำองุ่นเปรี้ยวจนเต็มวางอยู่ ทหารจึงใช้ฟองน้ำชุบน้ำองุ่นเปรี้ยวเสียบปลายกิ่งหุสบ ยื่นถึงพระโอษฐ์ พระเยซูเจ้าทรงจิบน้ำองุ่นเปรี้ยว แล้วตรัสว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว” พระองค์ทรงเอนพระเศียร สิ้นพระชนม์

       วันนั้นเป็นวันเตรียมฉลอง ชาวยิวไม่ต้องการให้ศพค้างอยู่บนไม้กางเขนในวันสับบาโต เพราะวันสับบาโตวันนั้นเป็นวันฉลองยิ่งใหญ่ เขาจึงขออนุญาตปีลาตให้ทุบขาผู้ที่ถูกตรึงและนำศพไป บรรดาทหารทุบขาคนทั้งสองคนซึ่งถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ เมื่อทหารมาถึงพระเยซูเจ้าและเห็นว่า พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงมิได้ทุบขาของพระองค์ แต่ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกาย โลหิตและน้ำก็ไหลออกมาทันที

 

 

ข้อคิด
     พระนางมารีย์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ติดตามพระเยซูเจ้าอย่างซื่อสัตย์จนถึงแทบเชิงไม้กางเขน แสดงให้เห็นถึงความรักและความกล้าหาญของพระนาง และเพราะเหตุนี้ พระเยซูเจ้าจึงทรงมอบพันธกิจแห่งการเป็นมารดาของพระศาสนจักรให้กับพระนางที่แทบเชิงกางเขนนั้น เราคริสตชนมีความรักต่อพระเยซูเจ้าและมีความกล้าหาญมากพอที่จะสืบสานพันธกิจของพระเยซูเจ้าในชีวิตของเราหรือไม่

 

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2023 น.ออกัสตินแห่งแคนเตอร์เบอรี่ พระสังฆราช

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 28:16-20,30-31

        เมื่อเรามาถึงกรุงโรม เปาโลได้รับอนุญาตให้อยู่ตามลำพังโดยมีทหารคนหนึ่งเป็นผู้ควบคุม สามวันต่อมา เปาโลเรียกบรรดาผู้นำชาวยิวมาพบที่บ้าน เมื่อคนเหล่านี้มาชุมนุมกัน เปาโลพูดกับเขาว่า “พี่น้องทั้งหลาย แม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิดต่อประชากรหรือขัดกับธรรมประเพณีของบรรดาบรรพบุรุษ แต่ชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็มก็ยังจับกุมข้าพเจ้าและมอบตัวให้ชาวโรมัน ชาวโรมันไต่สวนและต้องการจะปล่อยข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่มีความผิดที่สมควรต้องตาย แต่เมื่อชาวยิวคัดค้าน ข้าพเจ้าจำเป็นต้องยื่นอุทธรณ์ต่อพระจักรพรรดิ ข้าพเจ้าไม่มีเจตนาที่จะกล่าวหาเพื่อนร่วมชาติของข้าพเจ้าเลย เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงขอพบเพื่อพูดคุยกับท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าถูกพันธนาการเช่นนี้ ก็เพราะความหวังของชาวอิสราเอลนั่นเอง”

        เปาโลพักอยู่ในบ้านเช่าเป็นเวลาสองปีเต็ม และต้อนรับทุกคนที่มาเยี่ยม ประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า และสอนความจริงเรื่องพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างกล้าหาญโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 21:20-25

        เวลานั้น เปโตรเหลียวไปดู ก็เห็นศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักตามมา เป็นคนที่เอนกายชิดพระอุระพระเยซูเจ้าในการเลี้ยงอาหารค่ำ และทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า ผู้ที่ทรยศพระองค์เป็นใคร” เมื่อเปโตรเห็นเขา ก็ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “คนนี้จะเป็นอย่างไร พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้าเราอยากให้เขาอยู่จนกว่าเราจะกลับมา ก็ธุระอะไรของท่าน ท่านจงตามเรามาเถิด” ดังนั้น จึงมีเรื่องที่เล่าลือกันไปทั่วในกลุ่มบรรดาพี่น้องว่าศิษย์คนนี้จะไม่ตาย แต่พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสว่า “เขาจะไม่ตาย” แต่ตรัสว่า “ถ้าเราอยากให้เขาอยู่จนกว่าเราจะกลับมา ก็ธุระอะไรของท่าน”

         นี่คือศิษย์ที่เป็นพยานถึงเรื่องราวเหล่านี้ และเขียนบันทึกไว้ พวกเรารู้ว่าคำพยานของเขานั้นเป็นความจริง

         ยังมีเรื่องราวอื่นๆ อีกมากที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ ซึ่งถ้าจะเขียนลงไว้ทีละเรื่องทั้งหมด ข้าพเจ้าคิดว่า โลกทั้งโลกคงไม่พอบรรจุหนังสือที่จะต้องเขียนนั้น

 

 

ข้อคิด
     พระวรสารโดยนักบุญยอห์นที่เราได้ฟังและรำพึงเป็นหลักตลอดเทศกาลปัสกาจบลงด้วยการอุทิศตน การเป็นประจักษ์พยานอย่างมีชีวิตชีวาต่อข่าวดีของพระคริสตเจ้า ท่านนักบุญเปาโลได้ประกาศข่าวดีสุดความสามารถของท่าน นักบุญเปโตรก็เช่นเดียวกัน และท่านทั้งสองก็ได้ยอมสละชีวิตเป็นมรณสักขีตามแบบพระเยซูเจ้าเพื่อเป็นพยาน นักบุญยอห์นศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรักได้เป็นพยานถึงความรักแบบพระเยซูเจ้าในพระวรสารของท่าน แล้วพวกเราล่ะ เราเป็นพยานถึงองค์พระเยซูเจ้าอย่างไร ชีวิตของพวกเราแสดงออกถึงความเชื่อและความรักต่อพระองค์อย่างไร

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown