มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 15:7-21

       หลังจากโต้เถียงกันมากแล้ว เปโตรลุกขึ้นกล่าวแก่ที่ประชุม เปโตรกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย ท่านรู้แล้วว่า ตั้งแต่แรกเริ่ม พระเจ้าทรงเลือกสรรข้าพเจ้าในหมู่ท่านทั้งหลาย เพื่อให้คนต่างศาสนาได้ฟังพระวาจาที่เป็นข่าวดีจากปากของข้าพเจ้าและมีความเชื่อ พระเจ้าผู้ทรงล่วงรู้จิตใจ ทรงเป็นพยานยืนยันแก่คนต่างศาสนาโดยประทานพระจิตเจ้าให้เขาเหมือนกับที่ประทานให้พวกเรา พระองค์มิได้ทรงลำเอียง แต่ทรงชำระจิตใจของเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ บัดนี้ ทำไมท่านทั้งหลายจึงทดลองพระเจ้า นำแอกที่ทั้งบรรพบุรุษของเราและพวกเราแบกไม่ไหวมาวางบนคอของบรรดาศิษย์ เราเชื่อว่าเราได้รับความรอดพ้นอาศัยพระหรรษทานของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับคนต่างศาสนาด้วย”

         ทุกคนในที่ประชุมนิ่งเงียบ ฟังบารนาบัสกับเปาโลเล่าเรื่องเครื่องหมายอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ที่พระเจ้าทรงกระทำในหมู่คนต่างศาสนาโดยผ่านตน

      เมื่อทั้งสองคนเล่าจบแล้ว ยากอบจึงพูดว่า “พี่น้องทั้งหลาย จงฟังข้าพเจ้าเถิด ซีโมนเล่าแล้วว่า ตั้งแต่แรกพระเจ้าทรงพระกรุณาเลือกสรรประชากรชาติหนึ่งจากนานาชาติให้เป็นประชากรของพระองค์ การกระทำเช่นนี้สอดคล้องกับถ้อยคำของบรรดาประกาศก ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

        ‘หลังจากนี้ เราจะกลับมา และจะซ่อมแซมกระโจมที่พังลงของกษัตริย์ดาวิด จะซ่อมแซมสิ่งปรักหักพังของกระโจมนี้ และจะตั้งใหม่ให้ตรง เพื่อให้มนุษย์อื่นๆ แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมกับนานาชาติที่เราเรียกว่าเป็นของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเช่นนี้ และทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันตลอดมาแล้ว’

       ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าไม่ควรก่อความยุ่งยากแก่คนต่างศาสนาที่กลับใจมาหาพระเจ้า ควรเขียนจดหมายไปบอกเขาให้งดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายแก่รูปเคารพแล้ว ให้งดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และงดเว้นการกินเลือดและเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอให้ตาย กฎเหล่านี้ของโมเสสเป็นที่รู้จักกันทั่วทุกเมืองตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เพราะมีผู้ประกาศในศาลาธรรมทุกวันสับบาโต”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 15:9-11

            เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

        “พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์”

 

 

ข้อคิด
     ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า ไม่ควรก่อความยุ่งยากแก่คนต่างศาสนาที่กลับใจมาหาพระเจ้า ในการประชุมที่กรุงเยรูชาเล็ม ได้ปรึกษากันถึงปัญหาที่คนต่างความเชื่อมาเป็นคริสตชน ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น ต้องปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสสหรือไม่ หลังจากฟังเปโตร เปาโลกับบารนาบัส และยากอบ ที่ประชุมสรุปว่าพี่น้องที่มาเข้าศาสนา ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎของโมเสส เพราะอาศัยพระหรรษทานของพระเยซูผู้สิ้นพระชนม์ และกลับคืนพระชนมชีพ ก็เปิดประตูแห่งความมรอดพ้นแล้ว

 

วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 15:1-6

       ในครั้งนั้น คริสตชนชาวยิวบางคนลงมาจากแคว้นยูเดีย และสอนบรรดาพี่น้องว่า “ถ้าท่านทั้งหลายมิได้เข้าสุหนัตตามธรรมประเพณีของโมเสส ท่านจะรอดพ้นไม่ได้” เปาโลและบารนาบัสไม่เห็นด้วย จึงโต้แย้งกับเขาเหล่านั้นอย่างรุนแรง มีการตกลงกันให้เปาโลและบารนาบัสพร้อมกับพี่น้องบางคนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อปรึกษาปัญหานี้กับบรรดาอัครสาวกและบรรดาผู้อาวุโส เมื่อพระศาสนจักรจัดให้เขาเหล่านั้นออกเดินทางไปแล้ว เขาเดินทางผ่านแคว้นฟีนีเซียและสะมาเรีย เล่าเรื่องการกลับใจของคนต่างศาสนา ทำให้พี่น้องทุกคนชื่นชมอย่างยิ่ง เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม เขาได้รับการต้อนรับจากพระศาสนจักร บรรดาอัครสาวกและบรรดาผู้อาวุโส บารนาบัสและเปาโลเล่าเรื่องต่างๆ ที่พระเจ้าทรงกระทำโดยผ่านตน

       ผู้มีความเชื่อบางคนที่เคยอยู่ในกลุ่มชาวฟาริสีลุกขึ้นกล่าวว่า “ต้องให้คนต่างศาสนาเข้าสุหนัตและปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสส” บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสจึงประชุมกันเพื่อพิจารณาปัญหานี้

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 15:1-8

       เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

      “เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวนกิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้ง กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิด เพื่อให้เกิดผลมากขึ้นท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้ว เพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้นเราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลยถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้าน และจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับพระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์ เมื่อท่านเกิดผลมาก และกลายเป็นศิษย์ของเรา”

 

ข้อคิด
     ความขัดแย้งที่เมืองอันทิโอก คริสตชนชาวยิวเห็นว่า คริสตชนที่มาจากความเชื่ออื่นต้องเข้าสุหนัต ตามธรรมประเพณีของโมเสสด้วย เปาโลและบารนาบัสไม่เห็นด้วย ทำให้โต้แย้งกันอย่างรุนแรงในชุมชน เปาโลและบารนาบัสพร้อมพี่น้องบางคน ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อประชุมปรึกษากับพี่น้องคนอื่นที่กรุงเยรูซาเล็ม ปรึกษากับบรรดาอัครสาวก และบรรดาผู้อาวุโสของชุมชนคริสตชนแรก

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 14:5-18

      เมื่อคนต่างศาสนาและชาวยิวร่วมกับบรรดาผู้ปกครองเมืองวางแผนจะทำร้ายและใช้ก้อนหินขว้างเปาโลและบารนาบัส ทั้งสองคนรู้เรื่อง จึงหลบหนีไปที่เมืองลิสตรา เมืองเดอร์บีและชนบทรอบๆ ในแคว้นลิคาโอเนีย ทั้งสองคนประกาศข่าวดีที่นั่นด้วย

       ที่เมืองลิสตรา ชายคนหนึ่งยืนไม่ได้ เพราะเป็นง่อยมาแต่กำเนิด เขานั่งอยู่กับที่ไม่เคยเดินเลย เขากำลังฟังเปาโลพูด เปาโลจ้องมองดูเขา เห็นว่าเขามีความเชื่อพอจะรับการรักษาให้หายจากโรคได้ จึงพูดเสียงดังว่า “จงลุกขึ้นยืนเถิด” ชายคนนั้นก็กระโดดขึ้นและเริ่มเดินไป

       เมื่อประชาชนเห็นสิ่งที่เปาโลทำ จึงร้องเป็นภาษาลิคาโอเนียว่า “พระเจ้าทรงแปลงเป็นมนุษย์เสด็จลงมาหาเราแล้ว” เขาเรียกบารนาบัสว่า “พระซุส” และเรียกเปาโลว่า “พระเฮอร์เมส” เพราะเปาโลเป็นคนพูดเก่งกว่า สมณะจากพระวิหารของพระซุสที่อยู่ใกล้ประตูเมืองจูงวัวหลายตัวประดับพวงมาลัยมาที่ประตูเมือง และพร้อมใจกับประชาชนต้องการถวายบูชาแก่เปาโลและบารนาบัส

        เมื่ออัครสาวกบารนาบัสและเปาโลรู้เช่นนี้ ก็ฉีกเสื้อผ้าของตนวิ่งผลุนผลันเข้าไปกลางกลุ่มชนร้องว่า “เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้ เราทั้งสองคนเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนท่านทั้งหลาย เรากำลังประกาศข่าวดีให้ท่านทั้งหลายละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระเหล่านี้ หันมาหาพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ผู้ทรงสร้างฟ้า สร้างแผ่นดิน สร้างทะเล และสร้างทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ในอดีต พระเจ้าทรงยอมให้นานาชาติดำเนินไปตามทางของตน พระองค์ทรงแสดงพระองค์ ทรงกระทำดีอยู่เสมอ ประทานฝนจากฟ้าและประทานพืชผลตามฤดูกาลแก่ท่าน ประทานอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์และทรงบันดาลให้ใจของท่านเปี่ยมด้วยความยินดี” ทั้งๆ ที่พูดเช่นนี้ บารนาบัสและเปาโลก็ห้ามประชาชนถวายเครื่องบูชาแก่ตนเกือบไม่ได้

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 14:21-26

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

         “ผู้ที่มีบทบัญญัติของเรา และปฏิบัติตาม ผู้นั้นรักเรา และผู้ที่รักเรา พระบิดาของเราก็จะทรงรักเขา และเราเองก็จะรักเขา และจะแสดงตนแก่เขา”

         ยูดาส มิใช่ยูดาสอิสคาริโอททูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า ทำไมพระองค์ทรงต้องการแสดงพระองค์แก่พวกเรา แต่ไม่แสดงพระองค์แก่โลก”

         พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขาผู้ที่ไม่รักเรา ก็ไม่ปฏิบัติตามวาจาของเรา วาจาที่ท่านได้ยินนี้ ไม่ใช่วาจาของเรา แต่เป็นของพระบิดา ผู้ทรงส่งเรามา เราบอกสิ่งเหล่านี้ให้ท่านฟัง ขณะที่เรายังอยู่กับท่าน แต่พระผู้ช่วยเหลือคือพระจิตเจ้า ที่พระบิดาจะทรงส่งมาในนามของเรานั้นจะทรงสอนท่านทุกสิ่ง และจะทรงให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราเคยบอกท่าน

 

 

ข้อคิด
     เรากำลังประกาศข่าวดีให้ท่านทั้งหลายละทิ้งสิ่งที่ไร้สาระเหล่านี้ หันมาหาพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ที่เมืองลิสตรา เปาโลและบารนาบัสรักษาคนง่อยให้เดินได้ จนประชาชนจะยกย่องเทียบเท่าพระ 2 องค์ของคนต่างศาสนา เปาโลจึงใช้โอกาสนี้สอนถึงพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ผู้สร้างฟ้าและแผ่นดิน เป็นบิดาของมนุษย์ทุกคน

 

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 14:19-28

        ชาวยิวบางคนมาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนิยุมเกลี้ยกล่อมประชาชนให้เป็นฝ่ายของตนได้ เขาเหล่านั้นใช้ก้อนหินขว้างเปาโลแล้วลากออกไปนอกเมืองเพราะคิดว่าเปาโลตายแล้ว บรรดาศิษย์มาห้อมล้อมเขา เปาโลลุกขึ้น เข้าไปในเมือง วันรุ่งขึ้นเปาโลก็ออกเดินทางกับบารนาบัสไปยังเมืองเดอร์บี

        ทั้งสองคนประกาศข่าวดีที่เมืองนั้น ได้ศิษย์เป็นจำนวนมาก แล้วจึงกลับไปเมืองลิสตรา เมืองอิโคนิยุมและเมืองอันทิโอกแห่งแคว้นปิสิเดีย เขาทั้งสองคนให้กำลังใจบรรดาศิษย์ ตักเตือนให้มั่นคงอยู่ในความเชื่อ พูดว่า “พวกเราจำเป็นต้องฟันฝ่าความทุกข์ยากเป็นอันมากจึงจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าได้” เปาโลและบารนาบัสแต่งตั้งผู้อาวุโสในกลุ่มคริสตชนแต่ละกลุ่ม เขาอธิษฐานภาวนาพร้อมกับจำศีลอดอาหาร แล้วฝากบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเขาทั้งหลายมีความเชื่อ ทั้งสองคนเดินทางผ่านแคว้นปิสิเดียมาถึงแคว้นปัมฟีเลีย ประกาศพระวาจาที่เมืองเปอร์กา แล้วจึงไปยังเมืองอัตตาเลีย

         จากนั้น เขาลงเรือกลับไปยังเมืองอันทิโอกแห่งซีเรีย ก่อนที่เขาทั้งสองคนจะออกเดินทางจากเมืองอันทิโอก บรรดาคริสตชนเคยฝากเขาไว้กับพระหรรษทานของพระเจ้าเพื่องานที่เขาเพิ่งทำสำเร็จ เมื่อไปถึง เปาโลและบารนาบัสก็เรียกประชุมกลุ่มคริสตชน เล่าทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำโดยผ่านตนว่าพระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อให้คนต่างศาสนา เขาทั้งสองคนพักอยู่กับบรรดาศิษย์เป็นเวลานาน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 14:27-31ก

        เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

       “เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน เราให้สันติสุขแก่ท่าน ไม่เหมือนที่โลกให้ ใจของท่านอย่าหวั่นไหว หรือมีความกลัวเลยท่านได้ยินที่เราบอกกับท่านแล้วว่า เรากำลังจะไป และเราจะกลับมาหาท่านทั้งหลาย ถ้าท่านรักเรา ท่านคงยินดีที่เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา เพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา และบัดนี้เราได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเชื่อเราจะพูดกับท่านต่อไปอีกไม่นาน เพราะซาตานเจ้านายแห่งโลกนี้กำลังมา มันไม่มีอำนาจใดเหนือเรา แต่โลกจะต้องรู้ว่าเรารักพระบิดา และรู้ว่าพระบิดาทรงบัญชาให้เราทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น

 

 

ข้อคิด

     พระศาสนจักรประกาศข่าวดีโดยพวกเขา ใครเป็นผู้อุทิศชีวิตประกาศข่าวดีของพรเยซูเจ้า แม้พบอันตรายจากการเบียดเบียน ที่เมืองลิสตรา เปาโลถูกขว้างด้วยก้อนหิน แล้วถูกลากออกไปนอกเมือง เพราะคิดว่าเปาโลตายแล้ว เปาโลไม่ท้อใจ เขาออกเดินทางกับบารนาบัสไปประกาศข่าวดี และกลับมาที่เมืองอันทิโอก ทุกแห่ง ท่านได้แต่งตั้งผู้อาวุโสในกลุ่มคริสตชนแต่ละกลุ่ม อธิษฐานภาวนา และมอบงานให้ นี่เป็นการบริหารจัดการของพระศาสนจักรแรกเริ่ม

 

 

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                            กจ 6:1-7

         เวลานั้น ศิษย์มีจำนวนมากขึ้น บรรดาศิษย์ที่พูดภาษากรีกไม่พอใจศิษย์ที่พูดภาษาฮีบรู เพราะในการแจกทานประจำวัน บรรดาแม่ม่ายของตนถูกละเลยมิได้รับแจก

        อัครสาวกสิบสองคนจึงเรียกบรรดาศิษย์มาประชุม กล่าวว่า “ไม่สมควรที่เราจะละทิ้งการประกาศพระวาจาของพระเจ้าเพื่อไปแจกอาหาร พี่น้องทั้งหลาย จงเลือกบุรุษเจ็ดคนจากกลุ่มของท่านทั้งหลาย เป็นคนที่มีชื่อเสียงดี เปี่ยมด้วยพระจิตเจ้าและปรีชาญาณ แล้วเราจะแต่งตั้งเขาให้ทำหน้าที่นี้ ส่วนเราจะอุทิศตนอธิษฐานภาวนาและประกาศพระวาจา ทุกคนในที่ประชุมต่างเห็นชอบกับข้อเสนอนี้ จึงเลือกสเทเฟนบุรุษผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อและพระจิตเจ้า ฟีลิป โปรโครัส นิคาโนร์ ทิโมน ปาร์เมนัส และนิโคลัสชาวอันทิโอกผู้กลับใจมานับถือศาสนายิว เขานำคนทั้งเจ็ดคนมาอยู่ต่อหน้าบรรดาอัครสาวกซึ่งอธิษฐานภาวนาและปกมือเหนือเขา

        พระวาจาของพระเจ้าแพร่หลายยิ่งขึ้น ศิษย์มีจำนวนมากขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม บรรดาสมณะหลายคนยอมรับความเชื่อด้วย

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปโตรอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง         1 ปต 2:4-9

         จงเข้าไปเฝ้าพระองค์ผู้ทรงเป็นศิลาทรงชีวิตซึ่งมนุษย์ละทิ้งไป แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้และมีค่าประเสริฐ ท่านเป็นเหมือนศิลาที่มีชีวิตกำลังก่อสร้างขึ้นเป็นวิหารของพระจิตเจ้า เป็นสมณตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เพื่อถวายเครื่องบูชาฝ่ายจิตซึ่งเป็นที่สบพระทัยพระเจ้าเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “เราเลือกศิลาประเสริฐและวางไว้ในนครศิโยนเป็นศิลาหัวมุม ทุกคนที่มีความเชื่อในศิลานี้จะไม่ต้องอับอายเลย” สำหรับท่านผู้มีความเชื่อ ศิลานี้จึงมีค่าประเสริฐ แต่สำหรับผู้ไม่มีความเชื่อ ศิลาที่ช่างก่อสร้างละทิ้งก็กลายเป็นศิลาหัวมุม เป็นศิลาที่ทำให้สะดุดและเป็นศิลาที่ทำให้ล้มลง เขาเหล่านั้นสะดุดเพราะไม่ยอมเชื่อฟังพระวาจา นี่เป็นชะตากรรมของเขา ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่ทรงเลือกสรรไว้ เป็นสมณราชตระกูล เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ เป็นประชากรที่เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของพระเจ้า เพื่อจะประกาศพระฤทธานุภาพของพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านจากความมืดสู่ความสว่างน่าพิศวงของพระองค์

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น          ยน 14:1-12

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับสานุศิษย์ว่า “ใจของท่านทั้งหลายจงอย่าหวั่นไหวเลย จงเชื่อในพระเจ้า และเชื่อในเราด้วย ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่พำนักมากมาย ถ้าไม่มี เราคงบอกท่านแล้ว เรากำลังไปเตรียมที่ให้ท่านและเมื่อเราไป และเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปอยู่กับเราด้วย เพื่อว่าเราอยู่ที่ใด ท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย ที่ที่เราจะไปนั้น ท่านรู้จักหนทางแล้ว”

          โทมัสทูลว่า “พระเจ้าข้า พวกเราไม่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ใด แล้วจะรู้จักหนทางได้อย่างไร”

          พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักเรา ท่านก็รู้จักพระบิดาของเราด้วย บัดนี้ ท่านก็รู้จักพระบิดา และเห็นพระองค์แล้ว”

          ฟีลิปทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดทำให้พวกเราได้เห็นพระบิดาเถิด เท่านี้ก็พอแล้ว”

          พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ฟีลิปเอ๋ย เราอยู่กับท่านมานานเพียงนี้แล้ว ท่านยังไม่รู้จักเราอีกหรือ ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย ท่านพูดได้อย่างไรว่า ‘โปรดทำให้พวกเราได้เห็นพระบิดาเถิด’ ท่านไม่เชื่อหรือว่า เราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาทรงดำรงอยู่ในเรา วาจาที่เราบอกกับท่านทั้งหลายนี้ เรามิได้พูดตามใจของเรา แต่พระบิดาผู้สถิตในเราทรงกระทำกิจการของพระองค์ ท่านทั้งหลายจงเชื่อเราเถิดว่า เราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาก็ทรงดำรงอยู่ในเรา หรืออย่างน้อยท่านทั้งหลายจงเชื่อเพราะกิจการเหล่านี้เถิด เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่เชื่อในเรา ก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะเรากำลังจะไปเฝ้าพระบิดา”

 

ข้อคิด
   พระเจ้าทรงอยู่ใกล้เราพระเยซูเจ้าทรงประกาศถึงพระเจ้าผู้ทรงอยู่ใกล้เรา ใครรู้จักพระเยซูเจ้า เห็นพระเยซูเจ้าก็เห็นพระบิดาการเชื่อในพระเยซูเจ้า ก็คือการทำกิจการที่พระองค์ทรงกระทำชุมชนคริสตชนสมัยแรกเข้าใจเรื่องนี้ รักกันและกัน และเลือกสังฆานุกร 7 คน ดูแลคนยากจน ในปัจจุบันนี้ เราต้องก้าวเดินไปด้วยกัน ในการร่วมมือช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้อาวุโส และคนยากจน

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown