มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2023 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                            กจ 1:1-11

       ท่านเธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรก ข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ ว่า หลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า”

        ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้าทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน

         เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏแก่เขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเอเฟซัส     อฟ 1:17-23

         พี่น้อง ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้า เพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่งๆ ขึ้น ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใด อีกทั้งรู้ด้วยว่า พระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใด พระอานุภาพและพละกำลังนี้ พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้า เมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์ เหนือเทพนิกรเจ้า เทพนิกรอำนาจ เทพนิกรฤทธิ์ เทพนิกรนาย และเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้า พระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้า และทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่ง ให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์ เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่ง และทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว          มธ 28:16-20

          เวลานั้น บรรดาศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้ เมื่อเขาเห็นพระองค์ ก็กราบนมัสการ แต่บางคนยังสงสัยอยู่

        พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า “พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”

 

ข้อคิด
     การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นศีรษะของพระศาสนจักร เป็นการให้ความหวังกับเราคริสตชนที่เป็นสมาชิก เป็นส่วนต่างๆ ของพระศาสนจักรว่าจะได้เข้าสู่สวรรค์เช่นเดียวกัน และเวลาเดียวกันก็เป็นการมอบหมายพันธกิจแห่งความรัก และการประกาศข่าวดีของพระองค์ให้เราได้ทำต่อๆ ไปในโลก เพื่อช่วยมนุษยชาติได้รับฟังข่าวดีและมีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า จะได้มีส่วนในพระอาณาจักรสวรรค์ด้วย

วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2023 น.เบอร์นาดินแห่งซีเอนา พระสงฆ์

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 18:23-28

          หลังจากอยู่ในเมืองอันทิโอกระยะหนึ่ง เปาโลออกจากที่นั่น เดินทางไปทั่วแคว้นกาลาเทียและฟรีเจีย เพื่อทำให้บรรดาศิษย์มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น

        ในช่วงเวลานั้น ชาวยิวคนหนึ่งชื่ออปอลโล ชาวเมืองอเล็กซานเดรีย มาที่เมืองเอเฟซัส เขารอบรู้พระคัมภีร์ มีวาทศิลป์ ได้รับการสั่งสอนเรื่องวิถีทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า มีจิตใจกระตือรือร้นมากในการพูดและการสอนเรื่องเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าอย่างถูกต้อง แต่รู้จักเพียงพิธีล้างของยอห์นเท่านั้น เขาเริ่มเทศน์สอนอย่างกล้าหาญในศาลาธรรม ปริสซิลลาและอาควิลาได้ฟัง จึงเชิญเขาไปที่บ้านและอธิบายให้เขาเข้าใจวิถีทางของพระเจ้าอย่างละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น

        อปอลโลต้องการไปยังแคว้นอาคายา บรรดาพี่น้องก็ให้กำลังใจและเขียนจดหมายถึงบรรดาศิษย์ที่นั่นให้ต้อนรับเขา เมื่อไปถึง อปอลโลให้ความช่วยเหลืออย่างมากแก่ผู้ที่พระเจ้าทรงบันดาลให้มีความเชื่อ เขาตอบโต้อย่างแข็งขันกับชาวยิวต่อหน้าคนทั้งหลาย โดยอ้างข้อความจากพระคัมภีร์พิสูจน์ว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 16:23ข-28

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

        “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดา พระองค์จะประทานให้ท่านในนามของเรา จนถึงบัดนี้ ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเราเลย จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ เพื่อความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ เราใช้อุปมาบอกเรื่องเหล่านี้กับท่าน จะถึงเวลาที่เราจะไม่ใช้อุปมาพูดกับท่านอีก แต่จะบอกถึงพระบิดาของเราให้ท่านรู้อย่างชัดแจ้งวันนั้น ท่านจะขอในนามของเรา เราไม่บอกท่านว่า เราจะขอพระบิดาเพื่อท่านพระบิดาทรงรักท่าน เพราะท่านรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า เรามาจากพระบิดา เข้ามาในโลกนี้ บัดนี้ เรากำลังจะละโลกนี้กลับไปเฝ้าพระบิดาอีก”

 

 

ข้อคิด
     การภาวนาคือการพูดคุยกับพระเป็นเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้า เป็นทั้งการวอนขอและสรรเสริญพระองค์ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม วันนี้พระเยซูเจ้าสัญญากับเราว่า "ท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดา พระองค์จะประทานให้ท่านในนามของเรา" เราคริสตชนควรภาวนาในแต่ละวันอยู่เสมอ ตื่นขึ้นในตอนเช้าให้เราขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรแห่งชีวิตอีกวันหนึ่ง ขอพระองค์ประทานพลังที่จะทำแต่สิ่งดีๆ ในวันนั้น ก่อนนอนก็วอนขอพระองค์ปกปักรักษาเราในคืนนั้น

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2023 น.ยอห์นที่ 1 พระสันตะปาปาและมรณสักขี

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 18:1-8

        หลังจากนั้น เปาโลออกจากกรุงเอเธนส์ไปเมืองโครินธ์ เขาพบชาวยิวคนหนึ่ง ชื่ออาควิลา ชาวแคว้นปอนทัส เพิ่งมาจากอิตาลีพร้อมกับภรรยาชื่อปริสซิลลา เพราะพระจักรพรรดิคลาวดิอัสทรงออกพระราชกฤษฎีกาให้ชาวยิวทุกคนออกจากกรุงโรม เปาโลไปพบเขาทั้งสองคน พักอยู่และทำงานร่วมกัน เพราะมีอาชีพเดียวกันคือเป็นช่างทำกระโจม ทุกวันสับบาโต เปาโลถกเถียงในศาลาธรรม พยายามชักชวนชาวยิวและชาวกรีกให้มีความเชื่อ

        เมื่อสิลาสและทิโมธีกลับมาจากแคว้นมาซิโดเนียแล้ว เปาโลอุทิศตนเต็มที่ในการประกาศพระวาจาเป็นพยานยืนยันแก่ชาวยิวว่า พระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า แต่เมื่อชาวยิวเหล่านั้นต่อต้านและพูดดูหมิ่นพระเจ้า เปาโลก็สะบัดฝุ่นจากเสื้อผ้าเป็นการตอบโต้ พูดกับเขาว่า “ถ้าท่านไม่รอดพ้น ก็เป็นเรื่องของท่าน ข้าพเจ้าไม่รับผิดชอบแล้ว ตั้งแต่นี้ไป ข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างศาสนา”

       เปาโลออกจากศาลาธรรมไปยังบ้านของทิธีอัสยุสตัสผู้เลื่อมใสในพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ติดกับศาลาธรรม คริสปัสหัวหน้าศาลาธรรมและทุกคนในครอบครัวมีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า ชาวโครินธ์หลายคนที่ฟังเปาโลก็มีความเชื่อและรับศีลล้างบาปด้วย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 16:16-20

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “อีกไม่นาน ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นเรา และต่อไปไม่นาน ท่านจะเห็นเราอีก”

         ศิษย์บางคนจึงถามกันว่า “ที่พระองค์ตรัสกับเราว่า ‘อีกไม่นาน ท่านจะไม่เห็นเรา แล้วต่อไปไม่นาน ท่านจะเห็นเราอีก’ หมายความว่าอย่างไร และที่พระองค์ตรัสว่า ‘เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา’ หมายความว่าอย่างไร” เขาพูดกันอีกว่า “ที่พระองค์ตรัสว่า ‘อีกไม่นาน’ นั้นหมายความว่าอย่างไร เราไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังตรัสอะไร” พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าบรรดาศิษย์ต้องการทูลถามพระองค์ จึงตรัสว่า “ท่านกำลังถามกันใช่ไหมถึงเรื่องที่เราบอกว่า อีกไม่นานท่านจะไม่เห็นเรา แล้วต่อไปไม่นานท่านจะเห็นเราอีก เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ท่านจะร้องไห้ คร่ำครวญ แต่โลกจะยินดี ท่านจะเศร้าโศก แต่ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความยินดี

 

 

ข้อคิด
     มีหลายคนที่เป็นทุกข์และคร่ำครวญเพราะไม่ตระหนักรู้ถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในชีวิตของตน เป็นต้นในเวลาที่พวกเขาโศกเศร้า เป็นทุกข์ หรือสูญเสีย แต่ความจริงแล้วพระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ร่วมในความโศกเศร้าและความทุกข์ของพวกเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะเห็นหรือไม่เห็นพระองค์ก็ตาม และเมื่อพวกเขาตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในความทุกข์โศกของเขาแล้ว การร้องไห้คร่ำครวญ ความทุกข์โศกเคร้าทั้งหลายก็จะเปลี่ยนเป็นความยินดี

 

วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 18:9-18

        คืนหนึ่ง องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เปาโลในนิมิตว่า “อย่ากลัว จงพูดต่อไป อย่าเงียบเลย เพราะเราอยู่กับท่าน ไม่มีใครกล้าทำร้ายท่าน เพราะหลายคนในเมืองนี้เป็นประชากรของเราแล้ว” เปาโลพักอยู่ที่นั่นและสั่งสอนพระวาจาของพระเจ้าแก่ชาวเมืองนั้นเป็นเวลาหนึ่งปีหกเดือน

           ขณะที่กัลลิโอเป็นผู้ว่าราชการแคว้นอาคายา ชาวยิวช่วยกันจู่โจมจับเปาโลและนำเขาไปขึ้นศาล กล่าวฟ้องว่า “ชายผู้นี้ชักชวนประชาชนให้นมัสการพระเจ้าอย่างผิดกฎหมาย”

          เปาโลกำลังจะกล่าวตอบ กัลลิโอก็พูดกับชาวยิวว่า “ชาวยิวเอ๋ย ถ้าเป็นเรื่องอาชญากรรมหรือการฉ้อฉลเลวร้าย ข้าพเจ้ายินดีจะรับฟังคำร้องของท่านอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นเพียงปัญหาเรื่องคำสอน เรื่องถ้อยคำ เรื่องชื่อ และเรื่องธรรมบัญญัติของท่าน ท่านจงไปจัดการกันเองเถิด ข้าพเจ้าไม่ต้องการเป็นผู้พิพากษาตัดสินในเรื่องเช่นนี้” กัลลิโอจึงสั่งชาวยิวเหล่านั้นให้ออกไปจากศาล ทุกคนจับโสสเธเนสหัวหน้าศาลาธรรม และโบยตีต่อหน้าศาล แต่กัลลิโอมิได้สนใจเลย

          เปาโลพักอยู่ในเมืองโครินธ์อีกหลายวัน กล่าวลาบรรดาพี่น้อง แล่นเรือไปยังแคว้นซีเรียพร้อมกับปริสซิลลาและอาควิลา ก่อนออกเรือที่เมืองเคนเครีย เปาโลโกนศีรษะ เพราะได้บนขอไว้

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 16:20-23ก

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

        “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ท่านจะร้องไห้คร่ำครวญ แต่โลกจะยินดี ท่านจะเศร้าโศก แต่ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความยินดีหญิงที่กำลังจะคลอดบุตรย่อมมีความทุกข์ เพราะถึงเวลาของนางแล้ว แต่เมื่อคลอดบุตรแล้ว นางก็จำความทุกข์ไม่ได้อีกต่อไป เพราะความยินดีที่มนุษย์คนหนึ่งเกิดมาในโลก ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน บัดนี้ท่านมีความทุกข์ แต่เราจะเห็นท่านอีก และใจของท่านจะยินดี ไม่มีใครนำความยินดีไปจากท่านได้ วันนั้น ท่านทั้งหลายจะไม่ถามอะไรจากเราอีก”

 

 

ข้อคิด
      พระเยซูเจ้าทรงผ่านความทุกข์ทรมานและความตายไปสู่ความชื่นชมยินดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพ ในพระองค์การกลับคืนชีพและสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้านั้นผ่านมาจากการรับทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ บรรดาศิษย์จะต้องผ่านความเจ็บปวดแห่งการพลัดพรากจากพระองค์ และความเชื่อที่ยังไม่มั่นคงของพวกเขาจะถูกทดสอบอย่างหนัก แล้วจะให้กำเนิดการฟื้นฟูความเชื่อใหม่ที่มั่นคงขึ้น รวมถึงการประทับอยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งของพระเยซูเจ้าในท่ามกลางพวกเขา

 

วันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2023 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                                        กจ 17:15,22-18:1

         ในครั้งนั้น เพื่อนร่วมทางพาเปาโลไปถึงกรุงเอเธนส์ แล้วเดินทางกลับพร้อมกับคำสั่งของเปาโลให้สิลาสและทิโมธีรีบเดินทางไปสมทบโดยเร็วที่สุด

        เปาโลยืนอยู่ตรงกลางที่ประชุมอภิรัฐสภา พูดว่า “ชาวเอเธนส์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าพบว่าท่านมีความเลื่อมใสในศาสนามากจริงๆ เมื่อข้าพเจ้าเดินชมเมือง สังเกตเห็นปูชนียวัตถุต่างๆ ของท่าน พบแท่นบูชาแท่นหนึ่งมีคำจารึกว่า ‘แด่พระเจ้าที่เราไม่รู้จัก’ ข้าพเจ้ามาประกาศให้ท่านรู้จักพระเจ้าองค์นี้ที่ท่านเคารพทั้งๆ ที่ท่านไม่รู้จัก

        พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงสร้างโลกและทรงสร้างทุกสิ่งที่อยู่ในโลก พระองค์ทรงเป็นเจ้านายของสวรรค์และแผ่นดิน พระองค์ไม่สถิตในวิหารที่มือมนุษย์สร้างขึ้น พระองค์ไม่ทรงต้องการการปรนนิบัติจากมือมนุษย์ ประหนึ่งว่าทรงขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานชีวิต ลมหายใจและทุกสิ่งให้แก่มนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงทำให้มนุษย์ทุกชาติสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์คนเดียว และทรงทำให้เขาทั้งหลายอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน โดยทรงกำหนดช่วงเวลาและขอบเขตให้เขาอยู่ พระเจ้าทรงกระทำดังนี้เพื่อให้มนุษย์แสวงหาพระเจ้า เขาพบพระองค์ได้ แม้จะต้องคลำหา เพราะพระองค์ทรงอยู่ไม่ห่างจากเราแต่ละคน เรามีชีวิต เคลื่อนไหวและมีความเป็นอยู่ในพระองค์ ดังที่กวีบางคนของท่านกล่าวไว้ว่า

         “พวกเราเป็นบุตรของพระองค์”

        เราเป็นบุตรของพระเจ้า เราจึงไม่ควรคิดว่า พระเจ้าทรงเป็นเหมือนรูปทองคำ เงินหรือหิน ซึ่งแกะสลักอย่างมีศิลปะตามจินตนาการของมนุษย์ บัดนี้ พระเจ้าทรงมองข้ามเวลาในอดีตเมื่อมนุษย์ยังไม่มีความรู้ พระองค์ทรงบัญชาให้มนุษย์ทุกคนทั่วทุกแห่งกลับใจ เพราะพระองค์ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้เมื่อจะทรงพิพากษาโลกด้วยความยุติธรรม โดยผ่านมนุษย์ผู้หนึ่งที่พระองค์ทรงแต่งตั้งและทรงรับรองต่อมนุษย์ทุกคน โดยทรงทำให้ผู้นี้กลับคืนชีวิตจากบรรดาผู้ตาย”

       เมื่อเขาเหล่านั้นฟังคำพูดเรื่องการกลับคืนชีวิตของบรรดาผู้ตาย บางคนหัวเราะเยาะ บางคนพูดว่า “รอไว้ฟังเรื่องนี้จากท่านในคราวหน้าก็แล้วกัน” เปาโลจึงออกไปจากที่ประชุมสภา แม้กระนั้น บางคนก็ยังติดตามเปาโลและมีความเชื่อ คือ ดีโอนีซีอัสสมาชิกอภิรัฐสภา และสตรีคนหนึ่งชื่อดามาริส รวมทั้งคนอื่นอีกจำนวนหนึ่งด้วย

         หลังจากนั้น เปาโลออกจากกรุงเอเธนส์ไปเมืองโครินธ์

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                                         ยน 16:12-15

        เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า

    “เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอกท่าน แต่บัดนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมา พระองค์จะทรงนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์จะไม่ตรัสโดยพระองค์เอง แต่จะตรัสทุกสิ่งที่ทรงได้ฟังมา และจะทรงแจ้งให้ท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น พระองค์จะทรงให้เราได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ เพราะพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงได้รับจากเรา ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเราด้วย ดังนั้น เราจึงบอกว่า พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา”

 

 

ข้อคิด
     บรรดาอัครสาวกไม่ควรเสียใจต่อการจากไปของพระเยซูเจ้า ความเชื่อของพวกเขาจะเข้มแข็งและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เมื่อพระเยซูเจ้าที่มองเห็นได้จะจากพวกเขาไป พระจิตแห่งความจริงจะมาร่วมงานและสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้าไปพร้อม1 กับพวกเขา และจะช่วยให้พวกเขาได้มีมุมมองและความเข้าใจใหม่ที่ลึกซึ้งมากชีวิตและพันธกิจของพระเยซูเจ้าเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายแห่งยุคสมัยให้เขาผ่านพ้นไป และก้าวหน้าไปได้

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown