วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2020 สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกรกฎาคม 2020
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 683
บทอ่านจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่หนึ่ง 1 พกษ 3:5-12
คืนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่กษัตริย์ซาโลมอนในพระสุบิน ที่เมืองกิเบโอน พระเจ้าตรัสว่า “จงขอสิ่งที่ท่านอยากให้เราประทานแก่ท่าน” กษัตริย์ซาโลมอนทูลตอบว่า “พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงยิ่งใหญ่ต่อดาวิดพระบิดาข้ารับใช้พระองค์ เพราะพระบิดาทรงดำเนินชีวิตเฉพาะพระพักตร์พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์ ความชอบธรรมและด้วยใจซื่อตรง พระองค์ยังทรงรักษาความรักมั่นคงยิ่งใหญ่นี้ต่อพระบิดาโดยประทานให้บุตรคนหนึ่งได้สืบพระบัลลังก์ ดังที่เป็นอยู่ในวันนี้
บัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงตั้งข้าพเจ้าขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากดาวิดพระบิดา แต่ข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องปกครองประชากรที่ทรงเลือกสรร ซึ่งเป็นประชากรจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน ขอประทานความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อจะได้ปกครองประชากรของพระองค์อย่างยุติธรรม และรู้จักวินิจฉัยแยกความดีจากความชั่ว ถ้าพระองค์ไม่ประทาน ใครเล่าจะปกครองประชากรจำนวนมากเช่นนี้ของพระองค์ได้”
องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยที่กษัตริย์ซาโลมอนทูลขอเช่นนี้ พระเจ้าจึงตรัสตอบว่า “เพราะท่านได้วอนขอเช่นนี้ แทนที่จะวอนขอชีวิตยืนยาว หรือความมั่งคั่ง หรือขอให้เราทำลายชีวิตของศัตรู แต่ได้ขอความเข้าใจเพื่อจะตัดสินอย่างถูกต้อง เราจะทำตามที่ท่านขอ เราจะให้ความเข้าใจและปรีชาญาณในการตัดสินอย่างที่ผู้ใดไม่เคยมีมาก่อน หรือจะมีในภายหลัง”
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 8:28-30
พี่น้อง เรารู้ว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์ ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะผู้ที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้านั้น พระองค์ทรงกำหนดจะให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์ด้วย เพื่อพระบุตรจะได้เป็นบุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก ผู้ที่ทรงกำหนดไว้แล้วนั้นพระองค์ทรงเรียก ผู้ที่ทรงเรียกนั้น พระองค์ทรงบันดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม ผู้ที่ทรงบันดาลให้ชอบธรรมนั้น พระองค์ประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ด้วย
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 13:44-52
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา คนที่พบก็ฝังซ่อนสมบัตินั้น และยินดีกลับไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อนาแปลงนั้น
อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกที่มีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น
อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับอวนที่หย่อนลงในทะเล ติดปลาทุกชนิด เมื่ออวนเต็มแล้ว ชาวประมงจะลากขึ้นฝั่ง นั่งลงเลือกปลาดีใส่ตะกร้า ส่วนปลาเลวก็โยนทิ้งไป เมื่อถึงเวลาสิ้นโลกก็จะเป็นเช่นนี้ เมื่อถึงคราวสิ้นโลก ทูตสวรรค์จะมาแยกคนชั่วออกจากคนชอบธรรม ทิ้งคนชั่วลงในขุมไฟ ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญและขบฟันด้วยความขุ่นเคือง ท่านทั้งหลายเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้หรือไม่” บรรดาศิษย์ทูลตอบว่า “เข้าใจแล้ว”
พระองค์จึงตรัสว่า “ดังนั้น ธรรมาจารย์ทุกคนที่มาเป็นศิษย์แห่งอาณาจักรสวรรค์ก็เหมือนกับเจ้าบ้านที่นำทั้งของใหม่และของเก่าออกจากคลังของตน”
ข้อคิด
พระเยซูเจ้าทรงเปรียบอาณาจักรสวรรค์เป็นขุมทรัพย์ในทุ่งนา เป็นไข่มุกเม็ดงาม ผู้ที่พบจะยินดีขายทุกสิ่งที่มีเพื่อนำมาซื้อไข่มุกและที่นาแปลงนั้น..และยังทรงเปรียบพระอาณาจักรสวรรค์กับการหย่อนอวนลงในทะเล ติดปลาทุกชนิด แล้วปลาเลวก็จะถูโยนทิ้งไป เช่นเดียวกับที่ทูตสวรค์จะแยกคนชั่วออกจากคนชอบธรรมและทิ้งลงในขุมไฟเมื่อถึงวันสิ้นโลกบทอ่านจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่หนึ่ง แสดงความโปรดปรานของพระเจ้าที่ทรงมีต่อกษัตริย์ซาโลมอนผู้ทูลขอของประทานเป็นความเข้าใจเพื่อจะปกครองประชากรจำนวนมากของพระเจ้าอย่างยุติธรรมและรู้จักวินิจฉัยแยกความดีจากความชั่ว แทนที่จะขอชีวิตที่ยืนยาว หรือความมั่งคั่ง หรืออำนาจในทางโลกพระเจ้าทรงพอพระทัย ทรงประทานความเข้าใจและปรีชาญาณในการตัดสินอย่างไม่เคยมีในผู้ใดมาก่อนหรือในภายหลัง...เช่นที่นักบุญเปาโลเขียนไว้ในจดหมายถึงชาวโรม "พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์...ผู้ที่พระองค์ทรงเรียกนั้น ทรงบันดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม และจะทรงประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ด้วย