มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2016 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวฟีลิปปี        ฟป 2:5-11
     พี่น้อง จงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับที่พระคริสตเยซูทรงมีเถิด แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้น เป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง และประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพ จะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้ และเพื่อชนทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า พระบิดา

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                  ลก 14:15-24
    เวลานั้น ผู้ร่วมโต๊ะคนหนึ่งได้ยินเช่นนี้จึงทูลพระองค์ว่า “ผู้ที่กินอาหารในพระอาณาจักรของพระเจ้าย่อมเป็นสุข” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ชายผู้หนึ่งจัดงานเลี้ยงใหญ่และเชิญคนเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลางาน เขาส่งผู้รับใช้ไปบอกผู้รับเชิญทั้งหลายว่า ‘เชิญมาเถิด ทุกอย่างพร้อมแล้ว’ แต่ทุกคนต่างขอตัว คนแรกพูดว่า ‘ข้าพเจ้าได้ซื้อที่นาไว้แปลงหนึ่ง จำเป็นต้องไปดู จึงขออภัยที่มางานเลี้ยงไม่ได้’ อีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ข้าพเจ้าซื้อโคไว้ห้าคู่ กำลังจะไปทดลองใช้งาน จึงขออภัยที่มางานเลี้ยงไม่ได้’ อีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ข้าพเจ้าเพิ่งแต่งงาน จึงมาไม่ได้’
      ผู้รับใช้กลับมารายงานทุกอย่างแก่นายของตน นายโกรธมาก พูดกับผู้รับใช้ว่า ‘จงรีบออกไปตามลานสาธารณะและตามถนนในเมือง จงพาคนยากจน คนพิการ คนตาบอดและคนง่อยเข้ามาที่นี่เถิด’ ผู้รับใช้กลับมาบอกนายว่า ‘นายขอรับ ข้าพเจ้าทำตามคำสั่งของท่านแล้ว แต่ยังมีที่ว่างอีก’ นายจึงบอกผู้รับใช้ว่า ‘จงออกไปตามทางเดินและตามรั้วต้นไม้ เร่งเร้าผู้คนให้เข้ามาเพื่อทำให้คนเต็มบ้านของเรา เราบอกท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้ที่ได้รับเชิญคนใดจะได้ลิ้มรสอาหารของเรา’”

 

ข้อคิด
     อุปมานี้ทำให้เห็นอย่างชัดเจน พระเจ้าเชิญชวนให้เราทุกคนเข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์ แต่ชาวฟาริสีกลับคอยวิพากษ์วิจารณ์ต่อการกระทำของพระองค์ ในการตอนรับคนบาปทั้งหลายด้วยความยินดี คนส่วนใหญ่รู้ว่าตนเองเป็นคนบาป ต้องการกลับใจมาเป็นลูกของพระองค์ โดยการตอบรับคำเชิญของพระองค์ โดยสำนึกถึงพระเมตตาของพระเจ้าต่อมนุษย์ทุกคนเสมอ

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2016 วันภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ

บทอ่านจากหนังสือโยบ โยบ 19:1,23-27
     โยบกล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยากให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าถูกบันทึกไว้ อยากให้จารึกไว้ในหนังสือ อยากให้ใช้สิ่วเหล็กและตะกั่ว สลักไว้บนหินให้คงอยู่ตลอดไป ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระผู้ปกป้องข้าพเจ้าทรงพระชนม์อยู่ จะทรงลุกขึ้นยืนเป็นคนสุดท้ายบนฝุ่นดิน เมื่อหนังของข้าพเจ้าถูกทำลาย และไม่มีร่างกายอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะเห็นพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเห็นพระองค์อยู่เคียงข้าง นัยน์ตาของข้าพเจ้าจะแลเห็นพระองค์ไม่ใช่อย่างคนแปลกหน้า ข้าพเจ้ารู้สึกมีความมั่นใจเช่นนี้

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโรม                   รม 5:5-11
     พี่น้อง ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะพระจิตเจ้าซึ่งพระเจ้าประทานให้เรา ทรงหลั่งความรักของพระเจ้า ลงในดวงใจของเรา ขณะที่เรายังอ่อนแอ พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อคนบาปตามเวลาที่กำหนด ยากที่จะหาคนที่ยอมตายเพื่อคนชอบธรรม บางครั้งอาจจะมีคนยอมตายแทนคนดีจริงๆ ได้ แต่พระเจ้าทรงพิสูจน์ว่าทรงรักเรา เพราะพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเราขณะที่เรายังเป็นคนบาป บัดนี้ เมื่อเราได้รับความชอบธรรมโดยอาศัยพระโลหิตของพระองค์แล้ว เดชะพระองค์ เราก็ยิ่งจะได้รับความรอดพ้นจากการถูกพระเจ้าลงโทษ ถ้าเรากลับคืนดีกับพระเจ้าเดชะการสิ้นพระชนม์ของพระบุตรขณะที่เรายังเป็นศัตรูอยู่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อกลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดพ้นเดชะพระชนมชีพของพระองค์ด้วย มิใช่เพียงเท่านั้น เรายังภูมิใจในพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เดชะพระองค์ บัดนี้พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระเจ้าแล้ว

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                               ยน 6:37-40
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนที่ติดตามพระองค์ว่า “ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา และผู้ที่มาหาเรา เราจะไม่ผลักไสไปเลย เพราะเราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ เราจะไม่สูญเสียผู้ใด ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา แต่จะให้ผู้นั้นกลับคืนชีพในวันสุดท้าย พระประสงค์ของพระบิดาของเราก็คือ ทุกคนที่เห็นพระบุตร แล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดร และเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”

 

ข้อคิด
     การภาวนาอุทิศแด่ผู้ล่วงลับในวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญเราคริสตชนหลายประการ เช่น เราต้องตระหนักในความรักของพระเจ้า ไม่มีใครที่มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อม แต่ความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่ พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งวิญญาณของพี่น้องชายหญิงของเราที่ล่วงหน้าเราไปก่อน เราต้องระลึกถึงญาติพี่น้องผู้ล่วงลับอยู่เสมอ ความตายมิใช่จุดจบ แต่เรายังเป็นหนึ่งเดียวกับญาติผู้ล่วงลับ ในสายสัมพันธ์แห่งความเชื่อและความรัก และสุดท้ายเราต้องตระหนักในชีวิตของเราเช่นกันที่กำลังเดินทางกลับไปหาพระบิดาเจ้าของเราเช่นกัน แต่ก่อนที่เราจะไปนั้นเราจะทำอะไรเพื่อเป็นการถวายเกียรติพระองค์บ้างในชีวิตเรา

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2016 ระลึกถึง น.ชาร์ลส์ โบโรเมโอ พระสังฆราช

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวฟีลิปปี           ฟป 3:17-4:1
     พี่น้องทั้งหลาย จงพร้อมใจกันประพฤติตามอย่างข้าพเจ้า ท่านทั้งหลายเห็นว่า เราเป็นแบบฉบับอย่างไร ก็จงดำเนินตามอย่างนั้นเถิด ข้าพเจ้าเคยบอกให้ท่านรู้หลายครั้งแล้ว บัดนี้ก็ขอบอกซ้ำด้วยน้ำตาอีกว่า หลายคนประพฤติตนเป็นศัตรูกับไม้กางเขนของพระคริสตเจ้า ปลายทางของพวกเขาเหล่านี้คือความพินาศ พระเจ้าของเขาทั้งหลายคือท้อง เขาอ้างความน่าละอายมาโอ้อวด เขาสนใจสิ่งของของโลก แต่บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ในสวรรค์ เราเฝ้าคอยพระผู้ไถ่จากแดนนี้ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายรุ่งโรจน์ของพระองค์ ด้วยพระฤทธานุภาพที่ทำให้พระองค์ทรงบังคับจักรวาลทั้งหมดให้อยู่ใต้อำนาจของพระองค์ได้
พี่น้องที่รัก ผู้เป็นความปรารถนา เป็นความยินดีและเป็นประดุจมงกุฎของข้าพเจ้า จงยึดมั่นในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ท่านที่รักทั้งหลาย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                    ลก 16:1-8
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “เศรษฐีผู้หนึ่งมีผู้จัดการดูแลผลประโยชน์คนหนึ่ง มีผู้มาฟ้องว่าผู้จัดการคนนี้ผลาญทรัพย์สินของนาย เศรษฐีจึงเรียกผู้จัดการมาถามว่า ‘เรื่องที่เราได้ยินเกี่ยวกับเจ้าเป็นอย่างไร จงทำบัญชีรายงานการจัดการของเจ้า เพราะเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้จัดการอีกต่อไป’ ผู้จัดการจึงคิดว่า ‘ฉันจะทำอย่างไร นายจะไล่ฉันออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะไปขุดดินก็ทำไม่ไหว จะไปขอทานก็อายเขา ฉันรู้แล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อว่าเมื่อฉันถูกไล่ออกจากหน้าที่ผู้จัดการแล้ว จะมีคนรับฉันไว้ในบ้านของเขา’
     เขาจึงเรียกลูกหนี้ของนายเข้ามาทีละคน ถามคนแรกว่า ‘ท่านเป็นหนี้นายข้าพเจ้าเท่าไร’ ลูกหนี้ตอบว่า ‘เป็นหนี้น้ำมันมะกอกเทศหนึ่งร้อยถัง’ ผู้จัดการจึงบอกว่า ‘นำใบสัญญาของท่านมา นั่งลงเร็วๆ เขียนแก้เป็นห้าสิบถัง’ แล้วเขาถามลูกหนี้อีกคนหนึ่งว่า ‘แล้วท่านล่ะ เป็นหนี้อยู่เท่าไร’ เขาตอบว่า ‘เป็นหนี้ข้าวสาลีหนึ่งร้อยกระสอบ’ ผู้จัดการจึงบอกว่า ‘เอาใบสัญญาของท่านมาแล้วเขียนแก้เป็นแปดสิบกระสอบ’
     นายนึกชมผู้จัดการทุจริตคนนั้นว่าเขาทำอย่างเฉลียวฉลาด ทั้งนี้ก็เพราะบุตรของโลกนี้มีความเฉลียวฉลาดในการติดต่อกับคนประเภทเดียวกันมากกว่าบุตรของความสว่าง”

 

ข้อคิด
    มนุษย์เราต่างก็ได้รับพระพรในการดำเนินชีวิต ดั่งในพระวรสารวันนี้พระองค์ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำที่ไม่ดีของผู้จัดการทำ แต่พระองค์ทรงชื่นชมในการที่เขาใช้ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่เพื่อให้ตัวเองนั้นอยู่รอด จนประสบความสำเร็จก็ว่าได้ เช่นกันถ้าเราต่างใช้พระพรและความสามารถที่พระองค์มอบให้อย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ชีวิตนิรันดร นี่คือสิ่งที่พระองค์ปรารถนาจากเราผู้เป็นลูกของพระองค์

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2016 น.มาร์ติน เดอ ปอเรส นักบวช

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงฟีลิปปี       ฟป 3:3-8ก
     พวกเราเท่านั้นเป็นผู้ที่เข้าสุหนัตโดยแท้จริง เป็นผู้ประกอบศาสนพิธีด้วยพระจิตของพระเจ้า และภูมิใจในพระคริสตเยซู ไม่วางใจในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางกาย แม้ว่าข้าพเจ้ามีเหตุผลที่จะวางใจในการปฏิบัติเช่นนี้ได้ก็ตาม ถ้าผู้ใดคิดว่าตนมีเหตุผลที่จะวางใจในการปฏิบัติเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็ยังมีเหตุผลมากกว่า ข้าพเจ้าได้รับพิธีสุหนัตเมื่อเกิดมาได้แปดวัน เป็นเชื้อสายชนชาติอิสราเอลจากตระกูลเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูเกิดจากชาวฮีบรู ในด้านธรรมบัญญัติเป็นชาวฟาริสี มีความกระตือรือร้นที่จะเบียดเบียนพระศาสนจักร ไม่มีข้อตำหนิใดได้ในด้านความชอบธรรมตามธรรมบัญญัติ แต่สิ่งที่เคยเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าละทิ้งเพราะพระคริสตเจ้า นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                   ลก 15:1-10
     เวลานั้น บรรดาคนเก็บภาษีและคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อฟังพระเยซูเจ้า ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ต่างบ่นว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินอาหารร่วมกับเขา” พระองค์จึงตรัสอุปมาเรื่องนี้ให้เขาฟัง
“ท่านใดที่มีแกะหนึ่งร้อยตัว ตัวหนึ่งหายไป จะไม่ละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้ในถิ่นทุรกันดาร ออกไปตามหาแกะที่หายไปจนพบหรือ เมื่อพบแล้ว เขาจะยกมันใส่บ่าด้วยความยินดี กลับบ้าน เรียกมิตรสหายและเพื่อนบ้านมา พูดว่า ‘จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันพบแกะตัวที่หายไปนั้นแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่าในสวรรค์จะมีความยินดีเช่นนี้เพราะคนบาปคนหนึ่งกลับใจมากกว่าความยินดีเพราะคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ต้องการกลับใจ”
     หญิงคนใดที่มีเงินสิบเหรียญแล้วทำหายไปหนึ่งเหรียญ จะไม่จุดตะเกียง กวาดบ้าน ค้นหาอย่างถี่ถ้วนจนกว่าจะพบหรือ เมื่อพบแล้ว นางจะเรียกมิตรสหายและเพื่อนบ้านมาพูดว่า ‘จงร่วมยินดีกับฉันเถิด ฉันพบเงินเหรียญที่หายไปแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกัน เมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ”

 

ข้อคิด
     คำอุปมาเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงท่าทีของพระเจ้าต่อคนบาป พระเจ้าทรงต้องการคนบาป แม้มนุษย์จะกระทำชั่วแต่เขายังมีคุณค่าสำหรับพระเจ้าและพระองค์ยังต้องการเขาอยู่ ดังนั้นพระเจ้าจีงทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาในโลกเพื่อช่วยพวกเขาให้เดินในหนทางแห่งความรอด และพระเจ้าทางเสาะหาคนบาป แสดงถึงความรักยิ่งใหญ่และการอภัยไม่สิ้นสุดของพระเจ้าที่ไม่จดจำความผิด แต่เพียรทนแสวงหาและรอคอยวันที่เรากลับใจมาหาพระองค์ สิ่งที่เราแต่ละคนควรกระทำคือ การสำนึกผิดและกลีบใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตของตนจากบาปมาสู่หนทางที่ถูกต้อง

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2016 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวฟีลิปปี         ฟป 4:10-19
     พี่น้อง ข้าพเจ้าชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง ที่ในที่สุดท่านทั้งหลายแสดงความห่วงใยต่อข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ท่านมีความห่วงใยข้าพเจ้าอยู่แล้ว แต่ไม่มีโอกาสแสดงออก ข้าพเจ้ามิได้พูดเช่นนี้เพราะต้องการสิ่งใด ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพของตน รู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอดออม และรู้จักมีชีวิตอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะเผชิญกับทุกสิ่งทุกกรณี เผชิญกับความอิ่มท้องและความหิวโหย เผชิญกับความมั่งคั่งและความขัดสน ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า แต่ท่านทำดีแล้วที่มาร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า พี่น้องชาวฟีลิปปี ท่านทั้งหลายรู้ดีอยู่แล้วว่า เมื่อข้าพเจ้าออกจากแคว้นมาซิโดเนียแล้วเริ่มประกาศข่าวดีนั้น ไม่มีพระศาสนจักรใดมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าด้านรายรับรายจ่าย มีเพียงท่านทั้งหลายเท่านั้น เมื่อข้าพเจ้าพำนักอยู่ที่เมืองเธสะโลนิกา ท่านส่งปัจจัยที่จำเป็นไปให้ถึงสองครั้ง มิใช่ว่าข้าพเจ้าต้องการจะได้รับของกำนัล แต่ข้าพเจ้าต้องการให้เกิดผลเพิ่มพูนยิ่งขึ้นแก่ท่าน ขณะนี้ข้าพเจ้ามีทุกสิ่งที่ต้องการและมีเหลือใช้ เพราะได้รับสิ่งของมากมายที่ท่านทั้งหลายฝากเอปาโฟรดิทัสไปให้ เป็นประดุจเครื่องหอม เป็นเครื่องสักการบูชาที่พระเจ้าทรงยินดีรับและพอพระทัย พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงตอบแทนโดยประทานทุกสิ่งที่ท่านต้องการอย่างสมศักดิ์ศรีกับความมั่งคั่งของพระองค์ในพระคริสตเยซู

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                   ลก 16:9-15
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงใช้เงินทองของโลกอธรรมนี้ เพื่อสร้างมิตรให้ตนเอง เพื่อว่าเมื่อเงินทองนั้นหมดสิ้นแล้ว ท่านจะได้รับการต้อนรับสู่ที่พำนักนิรันดร ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองของโลกอธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในการดูแลทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ผู้ใดจะให้ทรัพย์สมบัติของท่านแก่ท่าน
     ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”
ชาวฟาริสีที่รักเงินทอง ได้ยินถ้อยคำทั้งหมดนี้ จึงหัวเราะเยาะพระองค์ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายคิดว่าท่านเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ใจของท่าน สิ่งที่มนุษย์ยกย่องเป็นสิ่งน่ารังเกียจเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า”

 

ข้อคิด
     พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้รู้จักและเรียนรู้การใช้ทรัพย์สินเงินทอง ให้รู้จักแยกแยะคุณค่าของมัน คุณค่าของเงินทองนั้นอยู่ในสายตามนุษย์ ในสายพระเนตรพระเจ้า ทรัพย์สินเงินทองไม่มีคุณค่า มนุษย์พยายามยกย่องเงินทอง มนุษย์ยอมรับว่าเงินทองมีคุณค่าสูงส่ง มนุษย์ยอมเป็นทาสของเงินทอง มนุษย์หลงลืมพระเจ้า มนุษย์เรียนรู้กันว่า เงินทองยิ่งใหญ่ มีค่าสูง และจับต้องได้ จนเราบางครั้งนับถือเงินทองเป็นพระเจ้า ส่วนพระเยซูเจ้าทรงสอนว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ มนุษย์คิดประดิษฐ์เงินทอง เพราะฉะนั้นมนุษย์ต้อง เป็นเจ้านาย และรู้จักใช้เงินทอง เพื่อช่วยให้เรามุ่งไปสู่พระเจ้าผู้ทรงสร้างเรามา

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown