วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2016 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนพฤษภาคม 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 1507
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 1:1-11
เธโอฟีลัสที่รัก ในหนังสือเล่มแรกข้าพเจ้าเล่าถึงทุกสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำและทรงสั่งสอน เริ่มตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ทรงได้รับการยกขึ้นสวรรค์ หลังจากที่ทรงแนะนำสั่งสอนบรรดาอัครสาวกที่ทรงเลือกสรรโดยทางพระจิตเจ้าพระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ตลอดเวลาสี่สิบวันที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย ทรงกล่าวถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าขณะที่ทรงร่วมโต๊ะกับเขา พระองค์ทรงกำชับว่า “อย่าออกจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่จงคอยรับพระพรที่พระบิดาทรงสัญญาไว้ ดังที่ท่านได้ยินจากเรา ยอห์นทำพิธีล้างด้วยน้ำ แต่ภายในไม่กี่วัน ท่านจะได้รับพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า
ผู้ที่มาชุมนุมกับพระเยซูเจ้าทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งในเวลานี้หรือ” พระองค์ตรัสตอบว่า “ไม่ใช่ธุระของท่านที่จะรู้วันเวลาที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยอำนาจของพระองค์ แต่พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระองค์เสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เมฆบังพระองค์จากสายตาของเขา เขายังคงจ้องมองท้องฟ้าขณะที่พระองค์ทรงจากไป ทันใดนั้นมีชายสองคนสวมเสื้อขาวปรากฏแก่เขา กล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ท่านทั้งหลายยืนแหงนมองท้องฟ้าอยู่ทำไม พระเยซูเจ้าพระองค์นี้ ที่เสด็จสู่สวรรค์ จะเสด็จกลับมาเช่นเดียวกับที่ท่านทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงจากไปสู่สวรรค์”
เพลงสดุดี สดด 47:1-2,5-6,7-8
ก) ประชากรทั้งหลาย จงปรบมือเถิด
จงเปล่งเสียงโห่ร้องถวายพระเจ้าด้วยความยินดี
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าสูงสุด ทรงน่าเกรงขาม
ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือทั่วแผ่นดิน
ข) พระเจ้าเสด็จขึ้นขณะที่มีเสียงโห่ร้องถวายชัย
องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จไปขณะที่มีเสียงเป่าเขาสัตว์
จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าจงร้องเพลงเถิด
จงร้องเพลงถวายกษัตริย์ของเรา จงร้องเพลง
ค) เพราะพระเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ปกครองทั่วแผ่นดิน
จงร้องเพลงไพเราะถวายพรพระองค์เถิด
พระเจ้าทรงปกครองเหนือนานาชาติ
พระเจ้าประทับอยู่บนพระบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวก ถึงชาวเอเฟซัส อฟ 1:17-23
พี่น้อง ขอพระเจ้าแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราพระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณและการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้าเพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่งๆขึ้นขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้นเพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใดและความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงใดอีกทั้งรู้ด้วยว่าพระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อเราผู้มีความเชื่อนั้นล้ำเลิศเพียงใดพระอานุภาพและพละกำลังนี้พระองค์ทรงแสดงในองค์พระคริสตเจ้าเมื่อทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายและให้ประทับเบื้องขวาของพระองค์ในสวรรค์เหนือเทพนิกรเจ้าเทพนิกรอำนาจเทพนิกรฤทธิ์เทพนิกรนายและเหนือนามทั้งปวงที่อาจเรียกขานได้ทั้งในยุคนี้และในยุคหน้าพระเจ้าทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของพระคริสตเจ้าและทรงแต่งตั้งพระคริสตเจ้าไว้เหนือสรรพสิ่งให้ทรงเป็นศีรษะของพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระวรกายของพระองค์เป็นความบริบูรณ์ของพระผู้ทรงอยู่ในทุกสิ่งและทรงกระทำให้ทุกสิ่งบริบูรณ์
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 24:46-53
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม จะต้องประกาศในพระนามพระองค์ให้นานาชาติกลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้
บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือท่านทั้งหลายเพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพปกคลุมจากเบื้องบน”
พระองค์ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร และขณะที่ทรงอวยพระพรนั้น พระองค์ทรงแยกไปจากเขา และทรงถูกนำขึ้นสู่สวรรค์บรรดาศิษย์กราบนมัสการพระองค์ แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดียิ่ง เขาอยู่ในพระวิหารตลอดเวลา ถวายพระพรแด่พระเจ้า
ข้อคิด
ชีวิตเต็มไปด้วยผู้คนเข้าออกมากมายมีคนเกิดและคนตายแต่สิ่งสุดท้ายของชีวิตดูจะเป็นความตาย... นี่คือสิ่งที่อยู่ในความคิดของสาวกเมื่อบ่ายเย็นวันศุกร์...ความตายของพระเยซูหมายถึงอนาคตที่หมดหวังของบรรดาศิษย์ที่กระจัดกระจาย..ไร้ทิศทางเช้าตรู่วันอาทิตย์...แสงทองเริ่มฉายส่อง...ความหวังของพวกเขาได้เกิดใหม่..ในการกลับคืนพระชนมชีพของพระอาจารย์ แต่หลังจาก 40 วัน พวกเขาจำต้องพบกับการพลัดพรากอีกครั้ง...พระองค์จะกลับคืนสู่พระบิดา..บทสุดท้ายของภารกิจบนผืนแผ่นดินได้จบลง และ..บทใหม่ของกาลเวลาได้เริ่มขึ้นพระองค์ทรงนำพวกเขาไปยังเบธานีทรงยกพระหัตถ์อวยพรพวกเขา...ทรงจากพวกเขาไปสู่สวรรค์ที่จากมาขบวนแห่งการประจักษ์ได้ก้าวเดินสู่โค้งสุดท้ายแต่..ขบวนใหม่แห่งพระจิตเจ้ากำลังเริ่มขึ้น