ขอให้พระจิตเจ้าช่วยเราให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง (Pope at Audience: May the Spirit help us ‘abound in hope’)

     เมื่อวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2024 โอกาสเข้าเฝ้าทั่วไปประจำสัปดาห์ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสรุปการสอนคำสอนเรื่องพระจิตเจ้าในชีวิตพระศาสนจักร กล่าวว่า “พระจิตเจ้าทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความหวังของคริสตชนอยู่ตลอดเวลา”

     จากหนังสือวิวรณ์เรื่องคำทำนายเกี่ยวกับอวสานตกาล พระจิตเจ้าและเจ้าสาวได้อัญเชิญให้พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพได้เสด็จมา (เพื่อพิพากษาโลกในวันสุดท้าย) ทำให้เราได้เห็นว่า ความหวังเรื่องการเสด็จมาครั้งสุดท้ายของพระคริสตเจ้านั้นปรากฏอยู่ในพระศาสนจักรเสมอ
ในขณะเดียวกัน พระศาสนจักรก็ยังรอคอยการเสด็จมาอย่างต่อเนื่องของพระคริสตเจ้า “ทั้งในปัจจุบันและในการจาริกแสวงบุญ”

กล่าวถึงพระเยซูเจ้าและพระจิตเจ้า (Addressed to Christ and to the Spirit)

     ความเข้าใจของพระศาสนจักรเกี่ยวกับการวิงวอนขอให้พระคริสตเจ้า "เสด็จมา" ได้พัฒนาขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งถูกกล่าวถึงเฉพาะในการวิงวอนให้พระคริสตเจ้าเสด็จมาเพียงเท่านั้น แต่บัดนี้ พระศาสนจักรได้ใช้คำวิงวอนนี้เพื่อให้ “พระจิตเจ้าเสด็จมา” อีกด้วย ดังที่เราสวดและขับร้องบทเพลง “เชิญพระจิต” กันเป็นประจำ

     “ถูกต้องที่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะหลังจากการกลับคืนพระชนมชีพ พระจิตเจ้าคืออีกพระบุคคลหนึ่งของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเข้ามาแทนที่พระองค์ ผู้ทรงทำให้พระองค์สถิตอยู่ และขับเคลื่อนในพระศาสนจักร นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมพระเยซูเจ้าและพระจิตเจ้าจึงไม่สามารถแยกออกจากกันได้ในแผนการแห่งความรอด”

แหล่งที่มาของความหวังคริสตชน (The source of Christian hope)

     ยิ่งไปกว่านั้น พระจิตเจ้า “ทรงเป็นแหล่งที่มาของความหวังของคริสตชนที่หลั่งไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา” พระจิตเจ้าทรงเปรียบเสมือนเป็น “ใบเรือ” ที่ขับเคลื่อนพระศาสนจักรไปตามท้องทะเลแห่งประวัติศาสตร์ ความหวังไม่ใช่ "คำพูดที่ว่างเปล่าหรือความปรารถนาที่คลุมเครือ" แต่เป็นความแน่นอนที่อยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ของพระเจ้า และด้วยเหตุนี้จึงเป็นหนึ่งในคุณธรรมทางเทววิทยา

     อย่างไรก็ตาม “คริสตชนไม่เพียงแต่พอใจกับการมีความหวังเท่านั้น” แต่ต้อง “ฉายแสงแห่งความหวังออกมาด้วย” ความหวัง “คือของขวัญที่สวยงามที่สุดที่พระศาสนจักรสามารถมอบให้กับมวลมนุษยชาติได้”

พร้อมที่จะให้เหตุผลสำหรับความหวัง (Ready to give a reason for hope)

     นักบุญเปโตรได้ให้กำลังใจคริสตชนในยุคแรกเริ่ม ให้พร้อมเสมอที่จะให้เหตุผลสำหรับความหวังของพวกเขา และเสริมว่าพวกเขาควรทำอย่างนั้น “ด้วยความอ่อนโยนและความเคารพ”
สิ่งนี้เป็นเพราะผู้คนไม่มั่นใจมากนักในความเข้มแข็งของการโต้แย้งที่เกิดขึ้น พอ ๆ กับความรักที่พวกเขาสร้างขึ้นมา “นี่เป็นรูปแบบการประกาศพระวรสารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด” และเป็นวิธีการที่ “เปิดกว้างสำหรับทุกคน” ขอให้พระจิตเจ้าบันดาลให้เราเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังเสมอไป