มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงส่งเสริมให้มีความเชื่อและความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน (Pope encourages deepening of faith and communion for building Christian unity)

 

 

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงส่งเสริมให้มีความเชื่อและความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน (Pope encourages deepening of faith and communion for building Christian unity)

     ในคำทักทายของพระสันตะปาปาฟรังซิส ถึงผู้เข้าร่วมประชุม งานชุมนุมคริสตชนระดับโลก ครั้งที่ 4 (the Fourth World Gathering of the Global Christian Forum) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ถึง 20 เมษายน 2024 เมืองอักกรา ประเทศกานา (Accra, Ghana) เกี่ยวกับความท้าทายในโลกยุคปัจจุบันที่ชุมชนคริสตชนกำลังเผชิญหน้าอยู่ อาศัยกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระทำร่วมกัน คือ การอธิษฐานภาวนา การนมัสการ การเสวนา และพันธกิจ
หัวข้อเรื่อง “ว่าโลกจะได้รู้” (That the World May Know) จะสำรวจวิธีการเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าในโลกยุคปัจจุบัน เพื่อประกาศความรักและความจริงของพระองค์แก่ประชาชาติต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมาย "ร่วมกันสร้างความแตกต่างเพื่อความรุ่งโรจน์ของพระเจ้า" ("together, let’s make a difference for God’s glory”)

 

แผ่นโมเสกแห่งความเชื่อที่สวยงาม (Beautiful mosaic of faith)

    พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแสดง "คำทักทายจากใจจริง" ต่อทุกคนที่มาชุมนุมกัน โดยยกย่องความหลากหลายทั่วโลกในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อน "ภาพโมเสคที่สวยงามของคริสตศาสนาร่วมสมัย" และแบ่งปันอัตลักษณ์ร่วมกันในฐานะผู้ติดตามพระเยซูเจ้า พระอัครสังฆราชฟลาวิโอ เพซ (Archbishop Flavio Pace) เลขาธิการสภาเพื่อส่งเสริมเอกภาพคริสตชน เป็นผู้อ่านพระดำรัสของพระสันตะปาปา ตามด้วยคำปราศรัยของท่านเองในฐานะผู้เข้าร่วมการประชุม

 

ถูกเรียกเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรัก (Called to unity and love)

     เนื่องในหัวข้อ “เพื่อให้โลกได้รู้” (ยอห์น 17:23) พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า คริสตชนถูกเรียกให้ “รวบรวมความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรักของพระตรีเอกภาพในชีวิตส่วนตัวและในพระศาสนจักรของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นพยานต่อโลก รักษาบาดแผลจากความแตกแยกและการแข่งขันกัน”

 

คริสตศาสนจักรสัมพันธ์เชื่อมโยงกับพันธกิจ (Ecumenism tied to mission)

     ความเป็นหนึ่งเดียวเป็นกุญแจสำคัญ "สำหรับการน้อมรับวิสัยทัศน์แห่งอาณาจักรของพระเจ้า" และสิ่งนี้ต้องการ "ความผูกพันภายในระหว่างการทำคริสตศาสนจักรสัมพันธ์และพันธกิจของคริสตชน" ประโยชน์ของเวทีนี้ที่ได้ถูกสร้างขึ้นในประวัติศาสตร์ 25 ปีที่ผ่านมา โดยจัดให้มีพื้นที่ที่สมาชิกที่มีการแสดงออกทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกันของความเชื่อของคริสตชน สามารถ "เติบโตด้วยความเคารพและความเป็นพี่น้องกันโดยการเผชิญหน้ากันในพระเยซูเจ้า"
ขอให้ทุกคนมีความเชื่อที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฟื้นฟูความรักฉันพี่น้อง ในขณะที่อธิษฐานภาวนาด้วยกัน พูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับความท้าทายที่ชุมชนคริสตชนทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่

     “ถึงพวกคุณทุกคน ข้าพเจ้าวิงวอนขอพระพรจากพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และอธิษฐานภาวนาขอให้การชุมนุมนี้ ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกันที่มองเห็นได้ในหมู่คริสตชนทุกคน” หลังจากที่อาร์คบิชอปเพซอ่านสาส์นของพระสันตะปาปาฟรังซิสแล้ว ท่านก็ได้อ่านสุนทรพจน์ของตนเองถึงผู้เข้าร่วมในเวลาต่อมา ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของพระสันตะปาปาฟรงซิส ท่านยกย่อง "ผ้าปูพรมอันอุดมสมบูรณ์ของคริสตศาสนา (อันเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลาย เพราะพรมถูกสร้างขึ้นมาจากเส้นด้ายสีต่าง ๆ มาถักทอรวมกัน) รวมถึงนิกายออร์ธอดอกซ์ คาทอลิก โปรเตสแตนต์ ผู้ประกาศพระวรสาร เพนเทคอสต์ คริสตจักรอิสระ และองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลก" ที่เป็นตัวแทนในการประชุม

    การมุ่งเน้นของเวทีคริตชนสากลนี้เป็นการแบ่งปัน "ความเชื่อที่มีชีวิต" และการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำชาวคริสตชนให้กลายเป็น "เครื่องมืออันทรงคุณค่าทั่วโลก" นอกเหนือจากการค้นหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับความแตกต่างด้านหลักคำสอน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านความเชื่อ การทำความเข้าใจร่วมกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความเป็นพี่น้องกัน ประจักษ์พยานคริสตชนร่วมกันเผยให้เห็น "พลังการคืนดีของพระวรสาร" และความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้สามารถแสดงให้เห็นถึง "พลังแห่งความเชื่อของคริสตชนที่อยู่เหนือความแตกต่างของมนุษย์ ก่อให้เกิดชุมชนพี่น้องที่มีชีวิต ซึ่งมีรากฐานมาจากความรักฉันพี่น้อง ความเคารพซึ่งกันและกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน"

    วิธีการที่พระศาสนจักรคาทอลิกมีส่วนร่วมในกระบวนการสมัชชาที่ไม่เคยมีมาก่อน “สำหรับพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน: ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การมีส่วนร่วม พันธกิจ” ซึ่งรวมถึงผู้แทนภราดรภาพหลายคนที่เป็นตัวแทนของคริสตชนนิกายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในช่วงแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ปีที่แล้ว จำนวนผู้รับเชิญจะมีมากขึ้นในการเข้าร่วมช่วงสรุปในเดือนตุลาคม 2024 ที่จะถึงนี้ ขณะที่ขอบคุณตัวแทนผู้เข้าร่วมการสมัชชาดังกล่าว

    ท่านตั้งข้อสังเกตว่าการทำสมัชชา "ส่งสัญญาณที่ชัดเจน และน่าเชื่อถือถึงความปรารถนาที่จะเดินทางร่วมกันด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของความเชื่อ และการแลกเปลี่ยนของพระหรรษทาน" ซึ่งยืนยันว่า "สิ่งที่รวมคริสตชนเข้าด้วยกันนั้นยิ่งใหญ่และลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างกัน” การประชุมที่กานาครั้งนี้ "ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการอธิษฐานภาวนาและทำงานร่วมกัน เราสามารถรวบรวมทรัพยากร พรสวรรค์ และความเข้าใจอันลึกซึ้งของเรา เพื่อจัดการกับความท้าทายร่วมกันและพัฒนาพระวรสารร่วมกัน"

 

 

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown