บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
- เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
- ฮิต: 854
พระวรสารของวันอาทิตย์ที่แล้วเล่าว่า พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนาอุม แล้วทรงเทศน์สอนอย่างทรงอำนาจไม่เหมือนพวกธรรมาจารย์ จนทำให้ผู้ฟังประทับใจอย่างมาก นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงรักษาคนถูกปีศาจสิงที่อยู่ในศาลาธรรมอีกด้วย
มาวันนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจและออกจากศาลาธรรมแล้ว พระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์เพื่อพักผ่อนและรับประทานอาหาร
เมื่อเข้าไปในบ้าน มาระโกเล่าว่า “มารดาของภรรยาซีโมนกำลังนอนป่วยเป็นไข้อยู่ เขาจึงทูลพระองค์ให้ทรงทราบทันที พระองค์เสด็จเข้าไปจับมือนาง พยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ นางจึงรับใช้ทุกคน”
ทั้งๆ ที่พระเยซูเจ้าทรงเหน็ดเหนื่อย หิว และต้องการพักผ่อน แต่พระองค์ก็ทรงใส่ใจต่อทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์
พระองค์ไม่เคยมองผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์เป็นภาระเลย นี่คือหัวจิตหัวใจของพระเยซูเจ้าจริงๆ!
เท่านั้นยังไม่พอ พระวรสารวันนี้เล่าต่อว่า “เย็นวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว มีผู้นำคนป่วยและคนถูกปีศาจสิงมาเฝ้าพระองค์ คนทั้งเมืองมารวมกันที่ประตู”
พวกเขาต้องรอจนดวงอาทิตย์ตกก็เพราะพระยาห์เวห์ตรัสผ่านประกาศกเยเรมีย์ไว้ว่า “ถ้าท่านทั้งหลายอยากมีชีวิต ก็จงระวังอย่าแบกหามสัมภาระใดๆ ในวันสับบาโต” (ยรม 17:21) สัมภาระนี้ก็รวมถึงคนป่วยและคนถูกปีศาจสิงด้วย
วันสับบาโตเริ่มจากหกโมงเย็นวันศุกร์ถึงหกโมงเย็นวันเสาร์ แต่เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีนาฬิกา กฎหมายจึงกำหนดไว้ว่าวันสับบาโตจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อมืดจนสามารถมองเห็นดาวอย่างน้อย 3 ดวงในท้องฟ้า
เพราะฉะนั้น หลังดวงอาทิตย์ตกและมืดจนสามารถมองเห็นดาว 3 ดวงในท้องฟ้า พวกเขาจึงนำคนป่วยมาให้พระองค์รักษา
เห็นหัวจิตหัวใจของพระเยซูเจ้าไหม พระองค์ไม่เคยเหนื่อยหน่ายที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ความต้องการของผู้อื่นอยู่เหนือความต้องการส่วนตัวของพระองค์เสมอ พระองค์พร้อมจะช่วยเหลือทุกคน ทุกแห่ง และทุกเวลา ไม่ว่าจะต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในศาลาธรรม หรือต่อหน้าคนหยิบมือเดียวในบ้านของเปโตร หรือแม้แต่ข้างถนนหน้าบ้านของเปโตรเองก็ตาม
พระเยซูเจ้าทรงพร้อมจะช่วยทุกคน ช่วยทุกแห่ง และช่วยทุกเวลาด้วย !!!
ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งจากพระวรสารวันนี้ก็คือ เมื่อแม่ยายไม่สบาย เปโตรไม่ลังเลใจเลยที่จะบอกพระเยซูเจ้า !
พี่น้องครับ ท่าทีของเปโตรควรจะเป็นท่าทีของเราทุกคนด้วย นั่นคือ นำปัญหาทุกอย่างมาบอกพระเยซูเจ้า และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ !
หากเรารู้สึกเช่นเดียวกับโยบในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ นั่นคือรู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นเหมือนทหารเกณฑ์ เป็นเหมือนลูกจ้าง ชีวิตแต่ละวันแต่ละคืนผ่านไปโดยไร้ความหมาย มีแต่ความทุกข์ มองไม่เห็นความหวังเลย ก็ขอให้พี่น้องตระหนักเลยว่า ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีรากเหง้ามาจากบาปที่แยกเราจากพระเจ้า และแยกเราจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง หากเราเยียวยารักษารากเหง้านี้ได้ ปัญหาต่างๆ ก็จะหมดไป
และขอให้พี่น้องมั่นใจได้เลยว่า ในโลกนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะช่วยเรากำจัดรากเหง้าของปัญหาต่างๆ ได้นอกจากพระเยซูเจ้า พระองค์คือความหวังหนึ่งเดียวของเราจริงๆ !
เพราะฉะนั้น อย่าลืมแบบอย่างของเปโตรที่เราได้ฟังในพระวรสารวันนี้ บอกพระองค์เลย และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ด้วย !
ข้อสังเกตที่สามจากพระวรสารวันนี้ก็คือ ทันทีที่แม่ยายของเปโตรหายไข้ นางเริ่มรับใช้ทุกคน !
จะเห็นว่า นางได้รับสุขภาพดีกลับคืนมาก็เพื่อกลับไปรับใช้ผู้อื่น !
เพราะฉะนั้น เราต้องไม่ลืมว่าพระเยซูเจ้าทรงช่วยเหลือเราก็เพื่อเราจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น
การรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นนี่แหละ คือการประกาศข่าวดีที่ดีที่สุด
นักบุญเปาโลบอกเราในบทอ่านที่สองวันนี้ว่าการประกาศข่าวดีเป็นหน้าที่ ท่านบอกว่า “หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ...ข้าพเจ้ายอมเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ช่วยบางคนให้รอดพ้น...เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย”
เห็นไหม การประกาศข่าวดี นอกจากจะช่วยเราให้รอดพ้นจากความวิบัติแล้ว ยังเป็นการช่วยผู้อื่นให้รอดพ้น และในเวลาเดียวกันก็ทำให้ตัวเราเองได้รับพระพรอีกด้วย
ที่สุดพระวรสารวันนี้เล่าว่า “วันต่อมา พระองค์ทรงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เสด็จออกจากบ้านไปยังที่สงัดและทรงอธิษฐานภาวนาที่นั่น”
จะเห็นว่าตลอดวันสับบาโตที่ผ่านมา พระองค์ไม่มีเวลาอยู่ตามลำพังเลย เพราะฉะนั้น วันนี้พระองค์จำเป็นต้องรีบลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ “เพื่อจะได้อธิษฐานภาวนา” เพราะพระองค์ตระหนักดีว่า “การเสริมพลังชีวิตฝ่ายจิต” เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการอุทิศตนทำงานเพื่อผู้อื่น
ในเมื่อการสวดภาวนายังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพระเยซูเจ้า สำหรับเราจะยิ่งจำเป็นมากกว่าอีกสักเพียงใด ?
อย่าลืมว่าการไม่สวดภาวนานั้นเป็นการปล่อยให้ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่างพระเจ้าต้องหลุดลอยไป.....
เพราะฉะนั้น ให้เราอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นความหวังหนึ่งเดียวของเรา ผู้ทรงพร้อมจะช่วยเราทุกคน ทุกแห่ง และทุกเวลา ขอพระองค์โปรดเยียวยารักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยโดยเฉพาะด้านวิญญาณอันเป็นรากเหง้าของปัญหาทั้งหลายทั้งปวงของเรา เพื่อเราทุกคนจะได้ลุกขึ้นมาประกาศข่าวดีด้วยการรับใช้ผู้อื่นดุจเดียวกับแม่ยายของเปโตร และในเวลาเดียวกันก็ได้รับพระพรจากการประกาศข่าวดีนี้เช่นเดียวกับนักบุญเปาโล