มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2023 สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา

พระวรสารวันนี้เป็นอุปมาเกี่ยวกับ “งานวิวาหมงคล”
     ตามธรรมเนียมของชาวยิว เมื่อมีงานฉลองสำคัญ เจ้าภาพจะเชิญแขกล่วงหน้าโดยยังไม่กำหนดวันและเวลา เมื่อจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้วจึงจะส่งคนไปเรียกแขกที่เชิญไว้ให้มาร่วมงาน
     กษัตริย์ในอุปมาที่เราได้ฟังในพระวรสารวันนี้ก็ทรงกระทำเช่นเดียวกัน คือพระองค์ทรงเชิญแขกมาร่วมงานอภิเษกสมรสของพระโอรสไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่องานเลี้ยงพร้อมจึง “ส่งผู้รับใช้ไปเรียกผู้รับเชิญให้มาร่วมงานวิวาห์” แต่กลับถูกผู้รับเชิญปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย
     สิ่งที่พระเยซูเจ้าต้องการบอกเราประการแรกก็คือ พระเจ้าทรงเชิญเราให้มาร่วมงานปีติยินดี ดุจดังร่วมงานวิวาหมงคล
เพราะฉะนั้นผู้ที่คิดว่าศาสนาคริสต์เป็นอะไรที่มืดมน ต้องงดเสียงหัวเราะ งดความสุข งดความร่าเริงแจ่มใส จึงเข้าใจธรรมชาติของศาสนาคริสต์ผิดพลาดไปอย่างสิ้นเชิง
     เพราะเราคริสตชนได้รับเชิญให้มาร่วมความปีติยินดี โดยเฉพาะมาร่วมงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้าในพิธีบูชามิสซา ดังที่เราได้ยินพระสงฆ์กล่าวก่อนรับศีลมหาสนิทว่า “นี่คือลูกแกะพระเจ้า นี่คือผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์ ย่อมเป็นสุข” แล้วก็เป็นความสุข และความปีติยินดีนี้เองที่เราจะต้องสูญเสียไปหากเราปฏิเสธคำเชิญของพระองค์
สิ่งที่พระองค์ต้องการบอกเราประการที่สองก็คือ สิ่งที่ทำให้เราปฏิเสธพระองค์ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเลวร้ายเสมอไป
     ตรงนี้แหละที่น่าเป็นห่วง เพราะบรรดาผู้ที่ปฏิเสธคำเชิญในอุปมาเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตเหลวแหลก ไม่ได้หลบไปทำสิ่งเลวร้าย แต่มัทธิวเล่าว่า “คนหนึ่งไปที่ทุ่งนา อีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ” ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพของเราทั้งนั้น
แต่พี่น้องครับ การเอาใจใส่ปฏิบัติหน้าที่การงานเพื่อเลี้ยงดูชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นก็จริงอยู่ แต่ถ้ามันทำให้เราต้องพลาดงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้าในบูชามิสซาและศีลมหาสนิทแล้วละก็ มันจะกลายเป็นอุปสรรคกีดกันเอาความปีติยินดีของพระเจ้าไปจากชีวิตของเรา
     จึงมีคำกล่าวว่า “สิ่งที่ดีก็คือศัตรูของสิ่งที่ดีที่สุด” และน่าเศร้าที่มักเป็นสิ่งที่ดีนี่แหละที่ทำให้เราพลัดพรากจากสิ่งที่ดีที่สุด อย่างเช่น
- เรามัวแต่สาละวนอยู่กับสิ่งของของโลกนี้ที่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา จนลืมคิดถึงโลกหน้าซึ่งเป็นนิรันดร
- เรามัวแต่ติดพันอยู่กับสิ่งของในโลกนี้ที่มองเห็นได้ จนลืมคิดถึงสิ่งของในโลกหน้าซึ่งมองไม่เห็น
- เรามักฟังเสียงเรียกร้องที่แสนจะก้าวร้าวของโลกนี้ให้เราทำนี่ทำโน่น ให้มีสิ่งนี้สิ่งนั้น แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของพระเยซูเจ้า
- เรามักทำงานและทุ่มเทต่อสู้เพื่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่กลับปล่อยให้ “ชีวิต” ของตนเองต้องตกต่ำลง !
    ประการสุดท้ายที่พระเยซูเจ้าต้องการบอกเราวันนี้ก็คือ ในเมื่อกษัตริย์ส่งผู้รับใช้ไปเชิญทุกคนทั้งตามทางหลวงและทางแยก ก็หมายความว่าประตูอาณาจักรสวรรค์เปิดต้อนรับทุกคน “ทั้งคนดีและคนเลว”
กระนั้นก็ตาม แม้ประตูสวรรค์จะเปิดต้อนรับทุกคน แต่ผู้รับเชิญจะเข้ามาในงานเลี้ยงโดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ไม่ได้ฉันใด เราจะเข้ามาเป็นคริสตชนโดยยังคงดำเนินชีวิตแบบเดิมซึ่งไม่สมกับความรักและพระหรรษทานที่พระเจ้าทรงโปรดประทานแก่เราก็ไม่ได้ฉันนั้น
เราจำเป็นต้องสวมใส่ชีวิตใหม่ที่บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ และดีกว่าเดิม
     เราจึงต้องระลึกอยู่เสมอว่า ประตูสวรรค์เปิดเพื่อให้เราเป็นคนดี ประตูสวรรค์ไม่ได้เปิดเพื่อให้คนบาปเข้ามาแล้วยังคงเป็นคนบาป แต่เพื่อให้คนบาปเข้ามาแล้วเป็นนักบุญ !!
ในบูชามิสซาวันนี้ ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าโปรดช่วยเรา อย่าให้ชีวิตของเราต้องลงเอยด้วยการถูก “มัดมือมัดเท้า เอาไปทิ้งในที่มืดข้างนอก” ไม่ใช่เพราะเราไม่มีเครื่องแต่งกายที่หรูหราราคาแพง แต่เพราะเราไม่ได้สวมใส่ชีวิตใหม่ให้สมกับที่ได้รับเชิญจากพระองค์

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown