มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2019 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                              อสย 2:1-5
      นิมิตที่ประกาศกอิสยาห์บุตรของอามอสเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม ในยุคสุดท้าย ภูเขาแห่งพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะถูกตั้งขึ้นเหนือยอดภูเขาทั้งหลาย และจะสูงกว่าบรรดาเนินเขา นานาชาติจะหลั่งไหลมาที่ภูเขานี้ ชนหลายชาติจะมาและกล่าวว่า “มาเถิด เราจงขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปยังพระวิหารพระเจ้าของยาโคบ แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีทางของพระองค์ให้เรา เราจะได้เดินตามมรรคาของพระองค์ เพราะว่าบทบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จะทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติ และจะทรงวินิจฉัยประชากรจำนวนมาก เขาทั้งหลายจะตีดาบให้เป็นผาลไถนา ตีหอกให้เป็นเคียว ชาติต่างๆ จะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กันอีก จะไม่ฝึกฝนยุทธวิธีอีกต่อไป พงศ์พันธุ์ของยาโคบเอ๋ย จงมาเถิด เราจงเดินในความสว่างขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

 

เพลงสดุดี                                                                   122:1-2,3-5, (6-7),8
      ก) ข้าพเจ้ายินดีเมื่อมีผู้บอกข้าพเจ้าว่า
"เราจงไปยังบ้านขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยกันเถิด"
บัดนี้ เยรูซาเล็มเอ๋ย เท้าของเรามายืนที่ประตูของเจ้าแล้ว
     ข) เยรูซาเล็มสร้างขึ้นเป็นนคร
มีกำแพงล้อมรอบอย่างมั่นคง
เผ่าพันธุ์ต่างๆ ขึ้นไปที่นั่น
เผ่าพันธุ์ทั้งหลายขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามที่ทรงกำหนดให้อิสราเอล
สรรเสริญพระนามพระองค์
ที่นั่นเป็นที่ตั้งบัลลังก์พิพากษา
บัลลังก์แห่งราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด
      ค) จงวอนขอสันติภาพเพื่อกรุงเยรูซาเล็มเถิด
ขอให้ผู้ที่รักเจ้าประสบความเจริญรุ่งเรือง
สันติสุขจงบังเกิดภายในกำแพงของเจ้า
ความเจริญรุ่งเรืองจงบังเกิดในป้อมปราการของเจ้า
      ง) เพราะเห็นแก่บรรดาพี่น้องและมิตรสหาย
ข้าพเจ้าจะกล่าวว่า "สันติสุขจงอยู่กับเจ้า"

บทอ่านจากจากหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 13:11-14
      ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า เวลาที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้มาถึงแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องตื่นขึ้นจากความหลับ ขณะนี้ความรอดพ้นอยู่ใกล้เรามากกว่าเมื่อเราเริ่มมีความเชื่อ กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง ดังนั้น เราจงละทิ้งกิจการของความมืดมนเสีย แล้วสวมเกราะของความสว่าง เราจงดำเนินชีวิตอย่างมีเกียรติเหมือนกับเวลากลางวัน มิใช่กินเลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่ปล่อยตัวเสพกามอย่างผิดศีลธรรม มิใช่วิวาทริษยา แต่จงดำเนินชีวิตโดยสวมพระเยซูคริสตเจ้าเป็นอาภรณ์ อย่าทำตามความต้องการของเนื้อหนัง

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                               มธ 24:37-44
      เวลานั้น “สมัยของโนอาห์เป็นเช่นไร เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้น ในสมัยก่อนน้ำวินาศนั้น ผู้คนกิน ดื่ม แต่งงานกันจนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ ไม่มีใครนึกระแวงว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งน้ำวินาศมากวาดพวกเขาไปหมดสิ้น เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้นด้วย เวลานั้น คนสองคนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้”
“จงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่านายของท่านจะมาเมื่อไร พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าบ้านรู้ว่าขโมยจะมาในยามใด เขาคงจะตื่นเฝ้าไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตนได้ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย”

 

ข้อคิด

     สัปดาห์ที่หนึ่งของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระวรสารนักบุญมัทธิวบอกเราว่า “จงตื่นเฝ้าระวังเถิด จงเตรียมพร้อมไว้” เพราะเราไม่รู้วันเวลาที่พระเจ้าจะเสด็จมาในวาระสุดท้ายของชีวิตของเรา การเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดคือ การมีสติรู้ว่า เวลานี้เป็นเวลาสำคัญ ประกาศกอิสยาห์เรียกร้องให้เราไปยังภูเขาและพระวิหารของพระเจ้า เพื่อเรียนรู้วิถีทางและมรรคาของพระองค์ นักบุญเปาโลบอกว่า เวลามาถึงแล้ว ต้องตื่นขึ้นจากความหลับและละทิ้งกิจการของความมืด ขอโปรดให้ข้าฯเลือกพระคริสต์ เป็นอุดมคติและเป็นบุคคลแรกในชีวิต ขอพระองค์เปลี่ยนแปลงข้าฯให้เป็นศิษย์ธรรมทูตผู้ดำเนินชีวิตใหม่ และสืบสานพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีของพระองค์ในโลกปัจจุบัน

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2019 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                             อสย 4:2-6
      วันนั้น หน่ออ่อนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะโปรดให้งอกขึ้นจะงดงามและรุ่งโรจน์ ผลผลิตของแผ่นดินจะเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติของชาวอิสราเอลผู้รอดชีวิต ผู้ที่รอดชีวิตเหลืออยู่ในศิโยนและผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม จะได้ชื่อว่า “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” คือทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ให้มีชีวิตอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงล้างความโสโครกของบรรดาธิดาแห่งศิโยน และจะทรงใช้พระอานุภาพของการพิพากษา ซึ่งเป็นประดุจไฟมาชำระโลหิต ที่ถูกหลั่งลงภายในกรุงเยรูซาเล็มให้หมดสิ้นไป แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างเมฆเวลากลางวัน ทรงสร้างควันและแสงแห่งเปลวเพลิงเวลากลางคืนทั่วไปบนภูเขาศิโยน และเหนือประชาชนที่มาชุมนุมกันที่นั่น พระสิริรุ่งโรจน์จะเป็นที่กำบังและปกป้องทุกสิ่ง จะเป็นเหมือนกระโจมให้ร่มบังแดดเวลากลางวัน เป็นที่หลบภัยและที่กำบังจากพายุและฝน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                  มธ 8:5-11
      เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองคาเปอรนาอุม นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลอ้อนวอนว่า “พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ต้องทรมานอย่างสาหัส” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “เราจะไปรักษาเขาให้หาย” แต่นายร้อยทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวเท่านั้น ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค ข้าพเจ้าเป็นคนอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ข้าพเจ้าสั่งทหารคนนี้ว่า ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งอีกคนหนึ่งว่า ‘มา’ เขาก็มา ข้าพเจ้าสั่งผู้รับใช้ว่า ‘ทำนี่’ เขาก็ทำ” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินเช่นนี้ ทรงประหลาดพระทัย จึงตรัสแก่บรรดาผู้ติดตามว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อ มากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำนวนมากจะมาจากทิศตะวันออกและตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบในอาณาจักรสวรรค์”

 

ข้อคิด

      แม้พบปัญหาวุ่นวายต่างๆที่กรุงเยรูซาเล็ม แต่ประกาศกอิสยาห์มีความเชื่อมั่นว่า พระเจ้าจะทรงปกป้องผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มเพราะพวกเขาวางใจในพระองค์ พระวรสารนักบุญมัทธิวบอกว่า นายร้อยชาวโรมันทูลอ้อนวอนพระเยซูเจ้าด้วยความเชื่อ ความวางใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พระองค์จะทรงรักษาผู้รับใช้ของตนที่ป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่บ้าน พระเยซูเจ้าทรงประหลาดพระทัยและชมเชยความเชื่อของเขา แล้วตรัสว่า “จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด” ผู้รับใช้ของเขาก็หายจากโรคในเวลานั้นเอง ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด” (ลก 17:5)

วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2019 น.ยอห์น ชาวดามัสกัส พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                             อสย 25:6-10ก
      เวลานั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลอง สำหรับประชากรทุกชาติบนภูเขานี้ เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารนานาชนิด เป็นงานเลี้ยงที่มีเหล้าองุ่นชั้นดี มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่เลือกสรรแล้ว บนภูเขานี้ พระองค์จะทรงทำลายผ้าคลุมที่คลุมหน้าประชากรทั้งหลาย และจะทรงทำลายม่านซึ่งกางอยู่เหนือนานาชาติ พระองค์จะทรงทำลายความตายตลอดไป องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน จะทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากการถูกลบหลู่ทั่วแผ่นดิน เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสแล้ว
     วันนั้น เขาจะพูดกันว่า “นี่คือพระเจ้าของเรา เราเคยหวังว่าพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้น นี่คือองค์พระผู้เป็นเจ้า เราเคยมีความหวังในพระองค์ เราจงชื่นชมยินดีที่พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นเถิด” เพราะพระหัตถ์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะพักอยู่บนภูเขานี้

 

สดด 23:1-6

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                               มธ 15:29-37
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่นมายังทะเลสาบกาลิลี แล้วเสด็จขึ้นบนภูเขาประทับที่นั่น ประชาชนจำนวนมากเข้ามาเฝ้าพระองค์ นำคนง่อย คนแขนขาพิการ คนตาบอด คนใบ้ และคนเจ็บอื่นๆ จำนวนมากมาไว้แทบพระบาท พระองค์ทรงรักษาเขาให้หายจากโรค
      เมื่อประชาชนเห็นคนใบ้พูดได้ คนขาพิการหายเป็นปกติ คนง่อยเดินได้ คนตาบอดมองเห็นได้ ต่างประหลาดใจและสรรเสริญพระเจ้าแห่งอิสราเอล
      พระเยซูเจ้าทรงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามา ตรัสว่า “เราสงสารประชาชน เพราะเขาอยู่กับเรามาสามวันแล้ว และเวลานี้ไม่มีอะไรกิน เราไม่อยากให้เขากลับบ้านโดยไม่ได้กินอะไร เขาจะหมดแรงขณะเดินทาง” บรรดาศิษย์จึงทูลถามว่า “ในที่เปลี่ยวเช่นนี้ เราจะหาอาหาร จากที่ไหนให้ประชาชนจำนวนมากเช่นนี้กินจนอิ่มได้” พระเยซูเจ้าตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อนกับปลาเล็กๆ อีกสองสามตัว” พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงที่พื้นดิน ทรงหยิบปลาและขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า

 

ข้อคิด

     พระวาจาวันนี้บทอ่านแรกเป็นบทเพลงขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับความรักของพระองค์ พระเจ้าทรงจัดงานเลี้ยงสำหรับประขากรทุกชาติบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีความทุกข์และความตายอีกต่อไป จากพระวรสารนักบุญมัทธิว พระเยซูเจ้าทรงแสดงความรักต่อประชาชน ทรงรักษาคนเจ็บป่วยจำนวนมากที่มีความเชื่อในพระองค์ และทรงทวีขนมปังเลี้ยงประชาชนที่หิวโหย เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นเวลาแห่งความหวังและเป็นเวลาเปิดรับความรักของพระเจ้าเข้ามาในใจของเรา เพื่อให้พระองค์เผยแสดง รักษาทำให้จิตใจบริสุทธิ์ เป็นอิสระ และเติมเต็มด้วยความรักของพระองค์

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2019 ฉลอง น.ฟรังซิสเซเวียร์ พระสงฆ์ องค์อุปถัมภ์ของมิสซัง

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวก ถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง     1 คร 9:16-19,22-23
       พี่น้อง ในการประกาศข่าวดีข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่น้อย เพราะข้าพเจ้าจำเป็นต้องประกาศอยู่แล้ว หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ เพราะถ้าข้าพเจ้าสมัครใจทำเอง ข้าพเจ้าก็จะได้รับค่าจ้าง แต่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้สมัครใจทำก็หมายความว่า ข้าพเจ้าเพียงแต่ทำงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ข้าพเจ้าจะได้รางวัลใดเล่า รางวัลสำหรับ      ข้าพเจ้าก็คือความภูมิใจที่ข้าพเจ้าประกาศข่าวดีให้ โดยไม่ใช้สิทธิต่างๆ จากการประกาศข่าวดีนั้น
แม้ว่าข้าพเจ้าเป็นอิสระ ข้าพเจ้าก็ยอมเป็นทาสรับใช้ทุกคน เพื่อเอาชนะใจผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ข้าพเจ้าทำตนเป็นผู้อ่อนแอเพื่อชนะใจผู้อ่อนแอ ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทางช่วยบางคนให้รอดพ้น ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพราะเห็นแก่ข่าวดี เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนรับพระพรจากข่าวดีนี้ร่วมกับเขาเหล่านั้นด้วย

 

สดด 96:1-2,3,7-8,10-11

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                             มก 16:15-20
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย”
     เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา

 

ข้อคิด

      พระคริสต์ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพตรัสกับบรรดาศิษย์ให้ไปประกาศข่าวดี เรื่องความรอดพ้นจากผลของบาป ความตายและมีชีวิตใหม่ พระองค์ทรงทำงานร่วมกับพวกเขา พระคริสต์ผู้กลับคืนชีพทำให้นักบุญเปาโลกลับใจดำเนินชีวิตใหม่และประกาศข่าวดี นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ (ค.ศ.1506 – 1556) ที่ฉลองในวันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่เป็นนักศึกษาในกรุงปารีส ท่านได้กลับใจ ได้ฝึกจิตภาวนา (Spiritual Exercise) และสมัครเข้าคณะเยสุอิต ในปี ค.ศ.1540 นักบุญอิกญาซิโอ มอบหมายให้ท่านเป็นธรรมทูตในเอเชีย ในอินเดียและญี่ปุ่น ท่านเป็นธรรมทูตผู้ร้อนรนได้นำคนจำนวนมากมาเป็นศิษย์พระคริสต์ โปรดภาวนาเพื่อพวกเราเป็นศิษย์ธรรมทูตประกาศข่าวดีในโลกปัจจุบัน

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2019 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                             อสย 26:1-6
      วันนั้น ทุกคนในแผ่นดินยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ “พวกเรามีเมืองเข้มแข็งเมืองหนึ่ง พระองค์ทรงสร้างกำแพงและเชิงเทินไว้เพื่อปกป้อง จงเปิดประตูเมืองเถิด ประชาชาติที่ชอบธรรมซึ่งรักษาความซื่อสัตย์ไว้จะได้เข้ามา พระองค์ทรงรักษาชนชาติที่มีใจมั่นคงให้อยู่ในสันติ เขาอยู่ในสันติ เพราะวางใจในพระองค์ จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไปเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นศิลานิรันดร เพราะพระองค์ทรงกดผู้อยู่บนที่สูงให้ต่ำลง ทรงทำลายเมืองบนที่สูงให้ราบถึงพื้นดิน กลายเป็นฝุ่นดิน เท้าที่เหยียบเมืองนั้นคือเท้าของผู้ถูกกดขี่ คนยากจนจะเดินเหยียบย่ำเมืองนั้น”

 

สดด 118:1,8-9,19-21,25,27

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                            มธ 7:21,24-27
      เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้”
     “ผู้ใดฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเราและปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนมีปัญญาที่สร้างบ้านไว้บนหิน ฝนจะตก น้ำจะไหลเชี่ยว ลมจะพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น บ้านก็ไม่พัง เพราะมีรากฐานอยู่บนหิน ผู้ใดที่ฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเรา และไม่ปฏิบัติตามก็เปรียบเสมือนคนโง่เขลาที่สร้างบ้านไว้บนทราย เมื่อฝนตก น้ำไหลเชี่ยว ลมพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น มันก็พังทลายลงและเสียหายมาก”


ข้อคิด

     คำสอนของพระเยซูเจ้าตอนสุดท้ายของบทเทศน์บนภูเขาคือ วิถีชีวิตศิษย์แท้ของพระเยซูเจ้า “คนที่กล่าวแก่เราว่า “พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า” นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้” (มธ 7:21) มนุษย์ทุกคนสามารถปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าได้ โดยปฏิบัติตามเสียงมโนธรรมที่ให้ทำความดีและหลีกหนีความชั่ว ปฏิบัติคุณธรรมความรักและปฏิบัติตามพระบัญญัติและพระวรสาร ทำตามบทบาทและหน้าที่ในชีวิตของแต่ละคร นี่คือหนทางสู่ความศักดิ์สิทธิ์ครบครันสำหรับทุกคน

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown