มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2019 น.เปโตร คานีซีอัส พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร

บทอ่านจากหนังสือเพลงซาโลมอน                               พซม 2:8-14
     ฟังซิ เสียงที่รักของดิฉัน เขากำลังมา กำลังกระโดดอยู่บนภูเขา กำลังกระโดดข้ามเนินเขา ที่รักของดิฉันเป็นเหมือนละมั่งหรือเหมือนลูกกวาง ดูซิ เขากำลังยืนอยู่หลังกำแพงของเรา มองเข้ามาทางหน้าต่าง ลอบมองผ่านลูกกรงเข้ามา ที่รักของดิฉันเริ่มพูดกับดิฉันว่า “ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถอะ คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด ดูซิ ฤดูหนาวผ่านไปแล้ว ฝนก็วายและจบสิ้นไปแล้ว
      ดอกไม้ต่างๆ ปรากฏขึ้นมาบนแผ่นดิน เวลาสำหรับร้องเพลงมาถึงแล้ว เสียงคูของนกเขาก็ได้ยินในแผ่นดินของเรา ต้นมะเดื่อเทศกำลังผลิผล เถาองุ่นผลิดอกบานส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด นกพิราบของฉันเอ๋ย เธอซ่อนตัวอยู่ในซอกผา ในซอกลึกของหน้าผา ขอให้ฉันได้ยินเสียงของเธอสักหน่อยเถิด เพราะเสียงของเธอนั้นไพเราะ และใบหน้าของเธอก็งดงาม”

 

สดด 33:2-3,11-12,20-22

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                ลก 1:39-45
       หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”

 

ข้อคิด

     ข่าวดีที่พระนางมารีย์ได้รับ เป็นข่าวดีที่นำพระนางออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งแถบภูเขาแคว้นยูเดีย วันนี้เราต้องเริ่มพูด เริ่มคิด และทำสิ่งดีๆแก่กันและกัน เราเห็นบรรดามิชชันนารีที่เข้ามาในประเทศไทยของเรา เราได้เคยเห็นถึงไมตรีจิตที่ทุกท่านมีต่อเรา แม้จะไม่รู้จักเราก็ตาม นี่คือปีแห่งการแพร่ธรรมใหม่ที่เราทุกคนจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งในทุกที่ทุกสถานการณ์และทุกเหตุการณ์ นำข่าวดี สิ่งดีๆสู่ทุกคนด้วยใจกว้างขวางและไม่มีเงื่อนไข

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2019 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                            อสย 7:10-14
      องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกษัตริย์อาคัสอีกว่า “จงขอองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของพระองค์ ให้ทรงส่งเครื่องหมายจากที่ลึกของแดนผู้ตาย หรือจากที่สูงเบื้องบนเถิด”
แต่กษัตริย์อาคัสตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทูลขอ เราจะไม่ทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ประกาศกอิสยาห์จึงทูลว่า “ราชวงศ์กษัตริย์ดาวิดเอ๋ย จงฟังเถิด ท่านทำให้มนุษย์เอือมระอายังไม่พออีกหรือ ทำไมท่านจึงทำให้พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเอือมระอาอีกเล่า ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานเครื่องหมายให้ท่านด้วยพระองค์เอง หญิงสาวผู้หนึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชาย และนางจะเรียกเขาว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า “พระเจ้าสถิตกับเรา”

 

เพลงสดุดี                                                             สดด 24:1-2,3-4,5-6
      ก) แผ่นดินและสรรพสิ่งบนแผ่นดินเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
โลกและผู้อาศัยอยู่ในโลกก็เช่นเดียวกัน
พระองค์ทรงวางฐานของโลกไว้เหนือทะเล
ทรงตรึงยึดไว้มั่นคงบนกระแสน้ำไหล
      ข) ใครจะขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้
ใครจะยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ผู้มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์
ผู้ไม่ใฝ่หารูปเคารพ
ผู้ไม่สาบานเพียงเพื่อหลอกลวง
      ค) บุคคลเช่นนี้จะได้รับพระพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
จะได้รับความเป็นธรรมจากพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาให้รอดพ้น
นี่คือพงศ์พันธุ์ที่แสวงหาพระองค์
แสวงหาพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบ

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 1:1-7
      จากเปาโล ผู้รับใช้ของพระคริสตเยซู ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกมาเป็นอัครสาวก และทรงมอบหมายให้ประกาศข่าวดีซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้ทางประกาศกในพระคัมภีร์
       ข่าวดีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระบุตรของพระองค์ ซึ่งโดยธรรมชาติมนุษย์ ทรงบังเกิดในราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด และโดยทางพระจิตเจ้าผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระบุตรผู้ทรงอำนาจของพระเจ้าโดยการกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย พระองค์คือพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ด้วยเดชะพระเยซู คริสตเจ้านี้ เราได้รับพระหรรษทาน และภารกิจการเป็นอัครสาวกเพื่อนำประชาชาติทั้งหลายให้มาปฏิบัติตามความเชื่อ ทั้งนี้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระนามพระองค์ และท่านทั้งหลายก็อยู่ในบรรดาบุคคลเหล่านี้ ท่านเป็นของพระเยซูคริสตเจ้าแล้วเพราะพระองค์ทรงเรียก
ถึงทุกท่านในกรุงโรมผู้ที่พระเจ้าทรงรักและทรงเรียกให้เป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
      ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิตกับท่านทั้งหลายเถิด

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                               มธ 1:18-24
       เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า
หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชาย
ซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล”
แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” 24เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย

 

ข้อคิด

      เราต้องยอมรับว่า การประทับอยู่ของพระเจ้าหายไปจากชีวิตและโลกปัจจุบันของเราพอสมควร ที่ไหนขาดพระเจ้าที่นั่นมีความวุ่นวาย ดังนั้นเราต้องแสวงหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง พระวาจาจึงสรุปอยู่ที่คำว่า ข่าวดีใหม่ พระศาสนจักรในประเทศไทยกำลังฟื้นฟูความเชื่อ พร้อมกับการดำเนินชีวิตด้วยพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธิ์ ทั้งในระดับส่วนตัวและระดับชุมชน เพื่อจะได้เป็นพยานถึงข่าวดีใหม่อีกครั้งหนึ่ง ขอให้เราจริงจังในการกลับใจ ในความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันเสมอ

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2019 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่สอง                           2 ซมอ 7:1-5,8-12,14ก,16
      เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงเข้าไปประทับในพระราชวังและองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสงบจากศัตรูโดยรอบ กษัตริย์ตรัสกับประกาศกนาธันว่า “ดูซิ เราอยู่ในวังสร้างด้วยไม้สนสีดาร์ แต่หีบของพระเจ้ากลับอยู่ในกระโจม” นาธันทูลตอบว่า “พระองค์ทรงคิดจะทำอะไร ก็โปรดทำเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพระองค์”
แต่ในคืนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่นาธันว่า “จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ท่านจะไม่เป็นผู้สร้างวิหารให้เราอยู่ บัดนี้ ท่านจงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมจักรวาลตรัสดังนี้ เราให้ท่านเลิกเลี้ยงแกะในทุ่งหญ้ามาเป็นผู้นำอิสราเอลประชากรของเรา เราอยู่กับท่านไม่ว่าท่านไปที่ใด เรากำจัดศัตรูทั้งปวงที่ท่านเผชิญหน้า เราจะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเหมือนกับผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เราจะเลือกที่แห่งหนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเราตั้งหลักแหล่ง เขาจะอยู่ที่นั่นโดยไม่มีใครรบกวน จะไม่มีคนชั่วคอยกดขี่ข่มเหงเขาเหมือนในอดีต เมื่อเราเคยแต่งตั้งผู้วินิจฉัยให้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา เราจะให้ท่านได้พักจากศัตรูทั้งหลายของท่าน เรา องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศแก่ท่านว่า เราจะสร้างราชวงศ์ให้ท่าน เมื่อท่านสิ้นชีวิตในวัยชรา และถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษแล้ว เราจะตั้งเชื้อสายคนหนึ่งของท่าน ซึ่งเป็นบุตรของท่านให้เป็นกษัตริย์ต่อจากท่าน เราจะพิทักษ์รักษาอาณาจักรของเขาให้มั่นคง เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป’”

 

สดด 89:1-2,3-4,26,28

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                ลก 1:67-79
      เวลานั้น เศคาริยาห์ ผู้เป็นบิดาได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม จึงกล่าวพยากรณ์ดังนี้ ขอถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล เพราะพระองค์เสด็จเยี่ยมและทรงกอบกู้ประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงบันดาลให้พระผู้ทรงอำนาจเกิดจากราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด ผู้รับใช้พระองค์ ตามที่ทรงสัญญาไว้ โดยปากของบรรดาประกาศกผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตั้งแต่โบราณกาลว่า จะให้เรารอดพ้นจากศัตรู จากเงื้อมมือของผู้ที่เกลียดชังเรา ทรงสัญญาว่าจะทรงแสดงพระกรุณาแก่บรรพบุรุษของเรา ทรงระลึกถึงพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และคำปฏิญาณที่ทรงให้ไว้แก่อับราฮัม บรรพบุรุษของเรา ว่าจะทรงช่วยเราให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรู เพื่อรับใช้พระองค์โดยปราศจากความหวาดกลัวใดๆ ให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์พระองค์ตลอดชีวิตของเรา ส่วนเจ้า ทารกเอ๋ย เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นประกาศกของพระผู้สูงสุด เจ้าจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเตรียมทางสำหรับพระองค์ เพื่อให้ประชากรของพระองค์รู้ว่า เขาจะรอดพ้น เพราะบาปของเขาได้รับการอภัย เดชะพระเมตตากรุณาของพระเจ้าของเรา พระองค์จะเสด็จมาเยี่ยมเราจากเบื้องบน ดังแสงอรุโณทัย ส่องแสงสว่างให้ทุกคนที่อยู่ในความมืดและในเงาแห่งความตาย เพื่อจะนำเท้าของเราให้ดำเนินไปตามทางแห่งสันติสุข


ข้อคิด

     ความหวังดีและความรักที่ดาวิดมีต่อพระเจ้านั้นช่างเข้มแข็งยิ่งนัก พระองค์คิดจะสร้างพระวิหารถวายแด่พระเจ้า แต่พระเจ้าไม่ทรงต้องการ แต่พระองค์ทรงยืนยันถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อราชวงศ์ดาวิด บทเพลงของเศคาริยาห์ สรรเสริญความรักของพระเจ้า เพราะพระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งประชากรของพระองค์ ความรักที่มั่นคงของพระเจ้าสำคัญกว่าความรักของเรา ให้เรามีความมั่นใจในความรักนี้เสมอ เราอาจล้มเหลวได้ แต่พระเจ้าไม่มีวันล้มเหลว ถ้าเรารอคอยและเชื่อในพระองค์

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2019 น.ยอห์น แห่งเคนตี้ พระสงฆ์

บทอ่านจากหนังสือประกาศกมาลาคีมลค 3:1-4,23-24

      องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ดูซิ เราจะส่งผู้ถือสารของเราเพื่อเตรียมทางไว้ต่อหน้าเรา ทันใดนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านแสวงหาจะเสด็จเข้ามาในพระวิหารของพระองค์ ทูตแห่งพันธสัญญาซึ่งท่านปรารถนา ดูซิ กำลังมาแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลตรัส ใครจะทนวันที่เขามาได้ และใครจะยืนหยัดอยู่ได้เมื่อเขาปรากฏ เพราะเขาจะเป็นเหมือนไฟของช่างถลุงโลหะ และเหมือนสบู่ของคนซักฟอก เขาจะนั่งลงเหมือนช่างหลอมและช่างถลุงเงิน เขาจะชำระบุตรหลานของเลวีให้บริสุทธิ์ จะถลุงเขาเหมือนถลุงทองคำและถลุงเงิน เพื่อเขาจะถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความชอบธรรม เครื่องบูชาของยูดาห์และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนในสมัยโบราณ เหมือนในปีก่อนๆ โน้น

“ดูซิ เราจะส่งประกาศกเอลียาห์มาหาท่าน ก่อนที่วันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง เขาจะทำให้ใจของพ่อกลับมาหาลูก และใจของลูกกลับไปหาพ่อ เพื่อเราจะไม่ต้องมาทำลายล้างแผ่นดิน”

 

สดด 25:4-6,8-10,14

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกาลก 1:57-66

      เมื่อครบกำหนดคลอด นางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง

      เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำพิธีสุหนัตให้ เขาต้องการเรียกเด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา แต่มารดาของเด็กค้านว่า “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อยอห์น” คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” เขาเหล่านั้นจึงส่งสัญญาณถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่งแล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น” ทุกคนต่างประหลาดใจ ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า เพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้สึกกลัว และเรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับเขา

 

ข้อคิด

      บทอ่านในวันนี้ ทำให้เราเห็นว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางของพระองค์ โดยส่งผู้นำสารของพระองค์มา นำความยินดีและการกลับใจมาสู่ทุกคน ยอห์นบัปติสต์คืออีกคนหนึ่งที่พระเจ้าส่งมา ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็อยู่กับเขา เขาทำให้ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิม เพื่อต้อนรับเสด็จพระคริสตเจ้า เราก็เช่นกันจงทำให้ชีวิตเรามีเส้นทาง มีถนน มีทางเข้าทางออกบ้าง เพื่อเราจะได้พบกับพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์สามารถเข้ามาพบเราได้เช่นกัน

ข้อคิด บทอ่านในวันนี้ ทำให้เราเห็นว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางของพระองค์ โดยส่งผู้นำสารของพระองค์มา นำความยินดีและการกลับใจมาสู่ทุกคน ยอห์นบัปติสต์คืออีกคนหนึ่งที่พระเจ้าส่งมา ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็อยู่กับเขา เขาทำให้ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิม เพื่อต้อนรับเสด็จพระคริสตเจ้า เราก็เช่นกันจงทำให้ชีวิตเรามีเส้นทาง มีถนน มีทางเข้าทางออกบ้าง เพื่อเราจะได้พบกับพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์สามารถเข้ามาพบเราได้เช่นกัน

 

วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2019 วันสมโภชพระคริสตสมภพ

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                             อสย 52:7-10
       เท้าของผู้นำข่าวดีมาประกาศบนภูเขาช่างงามยิ่งนัก เขาประกาศสันติภาพ นำข่าวดี ประกาศความรอดพ้น กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ปกครอง” บรรดาทหารยามของท่านร้องเสียงดัง ร้องตะโกนพร้อมกันด้วยความยินดี เพราะเขาได้เห็นกับตาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จกลับสู่ศิโยน ซากปรักหักพังแห่งกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องเพลงยินดีพร้อมกันเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์ และทรงไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระอานุภาพต่อหน้าประชาชาติทั้งปวง ชนชาติทั้งหลายจากสุดปลายแผ่นดินจะได้เห็นว่า พระเจ้าของเราประทานความรอดพ้นให้แก่เรา

 

สดด 89:1,2-3กข,3ค-4,5-6

 

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                 ฮบ 1:1-6
      ในอดีต พระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นสมัยนี้เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสกับเราโดยทางพระบุตร พระเจ้าทรงสถาปนาพระบุตรให้เป็นทายาทครอบครองทุกสิ่ง พระองค์ทรงสร้างจักรวาลเดชะพระบุตรนี้ พระบุตรทรงเป็นรังสีแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า ทรงเป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ขององค์พระเจ้า พระบุตรทรงผดุงจักรวาลไว้ด้วยพระวาจาทรงฤทธิ์ บัดนี้ พระบุตรทรงลบล้างมลทินแห่งบาปเสร็จสิ้นแล้ว จึงเสด็จสู่สวรรค์ ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระมหิทธานุภาพ ดังนั้น พระบุตรทรงอยู่เหนือบรรดาทูตสวรรค์ เช่นเดียวกับพระนามที่ทรงได้รับนั้นประเสริฐกว่านามของบรรดาทูตสวรรค์
     พระเจ้าเคยตรัสแก่ทูตสวรรค์องค์ใดบ้างว่า “ท่านเป็นบุตรของเรา เราให้กำเนิดท่านในวันนี้”
หรือว่า “เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา”
หรืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าทรงส่งพระโอรสองค์แรกมาสู่โลกมนุษย์ พระองค์ตรัสว่า “ให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระเจ้ากราบนมัสการพระองค์เถิด”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                               ยน 1:1-5,9-14
      เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำรงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์เป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยู่กับพระเจ้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ชีวิตอยู่ในพระองค์ และชีวิตเป็นแสงสว่างสำหรับมนุษย์ แสงสว่างส่องในความมืด และความมืดชนะแสงสว่างนั้นไม่ได้
      แสงสว่างแท้จริงซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคน กำลังจะมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลก และโลกถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์ แต่โลกไม่รู้จักพระองค์ พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์ แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์ คือผู้ที่เชื่อในพระนามพระองค์ พระองค์ประทานอำนาจให้ผู้นั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า เขามิได้เกิดจากสายเลือด มิได้เกิดจากความปรารถนาตามธรรมชาติ มิได้เกิดจากความต้องการของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และเสด็จมาประทับอยู่ในหมู่เรา เราได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิริรุ่งโรจน์ที่ทรงรับจากพระบิดา ในฐานะพระบุตรเพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง

 

ข้อคิด

      พี่น้อง บทอ่านวันนี้พูดถึงการเผยแสดงของพระเจ้าในบทอ่านที่หนึ่ง ประกาศกอิสยาห์พูดถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเสด็จกลับสู่ศิโยน และความทุกข์โศกของชาวยิวกำลังหมดไป บทอ่านที่สองพูดถึงวาระสุดท้ายนี้พระเจ้าพูดกับเราโดยทางพระบุตร ไม่ใช่ด้วยวิธีการเก่าๆอีกแล้ว และในพระวรสาร พระคริสตเจ้าแสงสว่างแท้จริงได้มาสู่โลกแล้ว ทั้งหมดนี้แสดงแก่เราถึงสารแห่งความยินดี เด็กน้อยผู้นี้คือการปลอบโยน ความสัมพันธ์ใหม่และชีวิตใหม่สำหรับเราทุกคนที่มีความเชื่อ

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown