วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2019 น.เปาโล แห่งโนลา พระสังฆราช น.ยอห์น ฟิชเชอร์ และ น.โทมัส โมร์ มรณสักขี
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนมิถุนายน 2019
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 1003
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง 2 คร 12:1-10
พี่น้อง ข้าพเจ้าจำเป็นต้องโอ้อวด แม้จะไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด แต่ข้าพเจ้าจะเล่าถึงนิมิตและการเปิดเผยที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ ข้าพเจ้ารู้จักมนุษย์คนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสตเจ้า เมื่อสิบสี่ปีมาแล้วเขาถูกดึงตัวขึ้นสวรรค์ชั้นที่สาม แต่จะไปในร่างกายหรือนอกร่างกาย ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ พระเจ้าทรงทราบ ข้าพเจ้ารู้จักมนุษย์ผู้นี้ จะอยู่ในร่างกาย หรือนอกร่างกาย ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ พระเจ้าทรงทราบ เขาถูกดึงตัวขึ้นสรวงสวรรค์และได้ยินวาจาซึ่งอธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ และไม่มีมนุษย์คนใดพูดได้ สำหรับคนนี้ ข้าพเจ้าโอ้อวดได้ แต่สำหรับข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจะไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากความอ่อนแอของข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าอยากจะโอ้อวด ข้าพเจ้าก็มิใช่คนโง่เขลา เพราะข้าพเจ้าจะพูดความจริง แต่ข้าพเจ้าระงับไว้เพื่อมิให้ผู้ใดตีราคาข้าพเจ้าเกินกว่าที่เห็นในตัวข้าพเจ้าและที่ได้ฟังจากข้าพเจ้า เพื่อมิให้การเปิดเผยยิ่งใหญ่นี้ทำให้ข้าพเจ้ายกตนเกินไป พระเจ้าทรงให้มีหนามทิ่มแทงเนื้อหนังของข้าพเจ้า ดุจทูตของซาตานที่คอยตบตีข้าพเจ้ามิให้ข้าพเจ้ายกตนเกินไป เรื่องนี้ข้าพเจ้าวอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสามครั้ง ขอให้พ้นไปจากข้าพเจ้า แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “พระหรรษทานของเราเพียงพอสำหรับท่าน เพราะพระอานุภาพแสดงออกเต็มที่เมื่อมนุษย์มีความอ่อนแอ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเต็มใจที่จะโอ้อวดเรื่องความอ่อนแอ เพื่อให้พระอานุภาพของพระคริสตเจ้าพำนักอยู่ในข้าพเจ้า ฉะนั้นเพราะความรักต่อพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าจึงพอใจความอ่อนแอต่างๆ เมื่อถูกสบประมาท เมื่อมีความคับแค้น เมื่อถูกข่มเหงและอับจน เพราะข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็ย่อมเข้มแข็งเมื่อนั้น
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 6:24-34
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”
“ฉะนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่าจะกินอะไร อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร ชีวิตย่อมสำคัญกว่าอาหาร และร่างกายย่อมสำคัญกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ จงมองดูนกในอากาศเถิด มันมิได้หว่าน มิได้เก็บเกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงมัน ท่านทั้งหลายมิได้มีค่ามากกว่านกหรือ ท่านใดบ้างที่กังวลแล้วต่ออายุของตนให้ยาวออกไปอีกสักหนึ่งวันได้ ท่านจะกังวลถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม จงสังเกตดูดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงเครื่องอย่างหรูหรา ก็ยังไม่งดงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง แม้แต่หญ้าในทุ่งนา ซึ่งมีชีวิตอยู่วันนี้ รุ่งขึ้นจะถูกโยนทิ้งในเตาไฟ พระเจ้ายังทรงตกแต่งให้งดงามเช่นนี้ พระองค์จะไม่สนพระทัยท่านมากกว่านั้นหรือ ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า ‘เราจะกินอะไร หรือจะดื่มอะไร หรือเราจะนุ่งห่มอะไร’ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้ จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้”
“ดังนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว”
ข้อคิด
ความกังวลคือสิ่งหนึ่งที่มีผลกระทบอย่างมากกับสุขภาพจิตของผู้คน เมื่อเรามีความกังวลกับสิ่งต่างๆในชีวิตมากเกินไป ชีวิตก็เดินต่อไปได้ยาก และความกังวลเหล่านี้อาจนำเราไปสู่ความกลัวได้อีกด้วย แม้วิทยาศาสตร์และวิทยาการต่างๆจะพยายามช่วยให้เราควบคุมและจัดการสิ่งต่างๆในชีวิตได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่เราจะได้ไม่กังวลใดๆ ทว่าเราก็ยังควบคุมไม่ได้ทุกอย่าง ดังนั้นมิติของความเชื่อยังคงสำคัญและจำเป็นอยู่ การวางใจในพระเจ้าจะช่วยเราขจัดความกังวลต่อสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดี