มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันพฤหัสศักดิิ์สิทธิ์

พระคริสตเจ้า สงฆ์สูงสุด ทรงตั้งศีลมหาสนิท
 

การตั้งศีลมหาสนิทให้เป็นพิธีระลึกถึงพันธสัญญาใหม่ เป็นทรรศนะที่เราแลเห็นได้ชัดแจ้งที่สุดของพิธีกรรมในวันนี้ โดยเรียกร้องให้คริสตชนได้รำลึกถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สื่อความหมายของการช่วยให้รอดในการรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสตเจ้า นอกนั้น พระศาสนจักร ยังเชิญชวนให้เราได้ทำการรำพึงถึงทรรศนะอีก 2 ทรรศนะของธรรมล้ำลึกที่เราทำการฉลองในวันนี้อีกด้วยคือ การตั้งศีลบวชเป็นพระสงฆ์ และให้การบริการฉันท์พี่น้องในความรัก

การเป็นสงฆ์และความรักได้รับการผูกพันเข้าไว้ด้วยกันในศีลมหาสนิทนี้
 
พระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าของพวกอัครสาวกคือพฤติกรรมแสดงความรัก
 

 
การที่นักบุญยอห์นได้เล่าเหตุการณ์ในชั่วโมงสุดท้ายๆ แห่งชีวิตของพระเยซูเจ้ากับสานุศิษย์ของพระองค์ รวมทั้งได้บันทึกและรวบรวมสุนทรพจน์ของพระองค์ในระหว่างการทานเลี้ยงมื้อสุดท้ายด้วยโดยที่ไม่ได้เล่าถึงพฤติกรรมทางจารีตพิธีของปังและเหล้าองุ่น เช่นผู้นิพนธ์พระวรสารท่านอื่นๆ แม้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นข้อมูลที่ตายตัวและเก่าแก่ที่สุดของธรรมประเพณีที่กลุ่มคริสตชนเดิมมีอยู่แล้ว ดังที่ปรากฏอยู่ในเอกสารฉบับแรกที่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ คือจดหมายของนักบุญเปาโลที่เขียนถึงชาวโครินธ์ แต่เราก็เชื่อว่านักบุญยอห์นคงมีเหตุผลในกรทำเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม นักบุญยอห์นให้ความสนใจเป็นพิเศษกับพฤติกรรมของพระเยซูเจ้าที่ได้ล้างเท้าของพวกอัครสาวก ทั้งได้กำชับให้พวกเขาทำเช่นเดียวกันด้วย และนี่เป็นเหมือนพินัยกรรมและแบบอย่างที่พระองค์ได้ให้กับบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ (ยน 13:1-5)

พระองค์มิได้สั่งให้พวกเขาประกอบจารีตพิธีนี้แบบซ้ำๆ ซากๆ อย่างเครื่องจักร แต่พระองค์ได้กำชับให้พวกเขาทำเหมือนกับที่พระองค์ได้ทำ (ยน 13:15) นั่นคือให้พวกเขาได้รู้จักให้บริการแก่กันและกันในทุกๆ โอกาสและในทุกๆ สถานที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระคริสต์ได้ทรงรักพวกเขา (มนุษย์ทุกคน) จนถึงที่สุด

ดังนั้นพฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งความรักทุกๆ พฤติกรรมจึงเป็น “ศีลศักดิ์สิทธิ์” อย่างหนึ่ง เพราะว่าเป็นพฤติกรรมของความเป็นจริงอันหนึ่งอันเดียวที่เรามนุษย์สามารถแลเห็นได้นั่นก็คือความรักของพระบิดาเจ้าในพระคริสต์ และความรักของบรรดาคริสตชนในพระคริสต์ด้วย
 
การที่พระเยซูเจ้าประทานพระองค์เองให้เป็นอาหารสำหรับเรามนุษย์
คือศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งความรัก

 
 
บูชามิสซาซึ่งเป็นการรำลึกถึงยัญบูชาพระเยซูเจ้า คริสตชนสามารถจะมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อจะเป็นการรำลึกถึงความเสียสละของเราแต่ละคนด้วย

การสถิตย์อยู่อย่างแท้จริงในปังและในเหล้าองุ่นของพระผู้ได้สิ้นพระชนม์และได้กลับคืนชีพน่าจะได้ขยายวงกว้างออกไปในบรรดาผู้ที่เจริญชีวิตอยู่รอบๆ ตัวเรา เป็นต้นในบรรดาผู้ที่น่าสงสาร และผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากเรา

ใครก็ตามที่แยกชั้นวรรณะ ใครก็ตามที่ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ใครก็ตามที่ทำให้สังคมแตกแยก บุคคลผู้นั้นเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับรู้พระกายของพระคริสตเจ้าบูชามิสซาที่บุคคลดังกล่าวร่วมถวายด้วยนั้น ไม่ใช่การรับอาหารค่ำของพระคริสตเจ้า แต่ว่าเป็นพิธีที่ว่างเปล่า พิธีที่จะตัดสินลงโทษเขา

สังฆภาพที่เกิดจากศีลมหาสนิทคือพระคุณสำหรับเอกภาพ
 
ในสังคมของคริสตชน ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันได้รับการปลูกฝังค่านิยมโดยการให้บริการ มิใช่โดยการใช้อำนาจ และพวกเขาจะพบการแสดงออกดังกล่าวอย่างสมบูรณ์แบบก็ในเวลาที่พวกเขามาร่วมกันถวายบูชามิสซา

ผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมคริสตชนจะต้องเป็นประธานในการถวายบูชามิสซา คือผู้ที่เป็นปรานจะต้องเป็นผู้ที่รวบรวมบรรดาคริสตชนให้สวดภาวนาพร้อมๆ กัน

ดังนั้น พระสังฆราชและบรรดาพระสงฆ์ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดพระคริสต์ ผู้รับใช้ จะต้องรู้จักอุทิศชีวิตของตนให้กับงานของพระศาสนจักร

พระสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของพระสงฆ์ผู้เป็นศาสนบริกร และการถวายบูชามิสซาในทรรศนะที่ต่างๆ กันดังนี้

“พระสงฆ์…ร่วมเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระคริสตเจ้า พระสงฆ์สูงสุดนิรันดร์ ท่านได้รับอภิเษกเพื่อประกาศพระวรสาร เพื่อเป็นชุมพาบาลเลี้ยงดูสัตบุรุษ และเพื่อถวายคารวะกิจต่อพระเจ้าในฐานะเป็นพระสงฆ์แท้แห่งพันธสัญญาใหม่”

“พระสงฆ์มีส่วนร่วมตามลำดับชั้นของท่านในภารกิจของพระคริสตเจ้า คนกลางแต่ผู้เดียว ท่านประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ทุกคน ท่านปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ เฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจศักดิ์สิทธิ์คือการถวายบูชามิสซา ในพิธีกรรมนี้ ท่านสวมองค์พระคริสตเจ้าโดยการประกาศธรรมล้ำลึกของพระองค์ ท่านนำเอาคำภาวนาของสัตบุรุษมาร่วมกับบูชาขององค์พระประมุขของพวกเขา ท่านบันดาลให้อุบัติขึ้นใหม่ และประยุกต์บูชาแต่อันเดียวของพันธสัญญาใหม่ กล่าวคือบูชาขององค์พระคริสตเจ้าซึ่งได้ทรงถวายพระองค์ท่านเองเป็นบูชาอันนิรมลแด่พระบิดาครั้งเดียวสำหรับเรื่อยไป ท่านปฏิบัติดังนี้ในบูชามิสซาตลอดไป จนกว่าจะถึงวันพระคริสตเจ้าเสด็จมา…..” 

“พระสงฆ์โดยการปฏิบัติภารกิจของพระคริสตเจ้า องค์ชุมพาบาลและองค์พระประมุข ก็ทำการรวบรวมครอบครัวของพระเจ้า พลางกระตุ้นเตือนพวกเขาให้มีภราดรภาพอันหนึ่งอันเดียวกัน และนำพวกเขาไปหาพระบิดาเจ้าโดยอาศัยพระคริสตเจ้าในพระจิตเจ้า….”

“พระสงฆ์ต้องบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะ ท่านต้องปกครองและรับใช้กลุ่มสัตบุรุษในท้องถิ่นของท่าน จนกระทั่งกลุ่มดังกล่าวนี้ สมได้รับนามที่หมายถึงประชากรของพระเจ้าประชากรเดียว และประชากรทั้งครบ นั่นคือพระศาสนจักรของพระเจ้า” (LG28)
 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown