มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า 30 ธันวาคม 2018

              ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

พระแม่มารีย์ และนักบุญโยเซฟ

30 ธันวาคม 2018

บทอ่าน ซมอ 1 : 20 - 22 ,24 - 28 ;   1 ยน  3:1-2, 21-24 ; ลก 2 : 41 - 52

พระวรสารสัมพันธ์กับ  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  472, 503, 517, 531, 534, 583, 2196, 2599 

ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)  259

จุดเน้น             การเดินในหนทางของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์  ต้องเลียนแบบความศักดิ์สิทธิ์  ความสุภาพ  ความอ่อนโยน  และการใส่ใจกันและกัน

            ในพระวรสารทั้ง 4 ฉบับ มีการให้รายละเอียดน้อยมากถึงชีวิตประจำวันของพระเยซูเจ้าในวัยเติบโตที่เมืองนาซาเรธ...  นักบุญโยเซฟ  ช่างไม้  เป็นคนถ่อมตน ( ไม่หรูหรา)  เป็นคนชั้นกลาง  สืบเชื้อสายตระกูลดาวิด  ทั้งโยเซฟ  ครอบครัว  และชุมชน  เป็นอยู่อย่างถ่อมตน

            พระวรสารในวันนี้  เรารู้จักกันว่าเป็นเรื่อง  การพบพระกุมารเยซูในพระวิหาร  เราคุ้นเคยกันมาก  ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ได้เดินทางไปกรุงเยซูซาเล็มเพื่อฉลองปัสกา  และเมื่อเดินทางกลับบ้าน (นาซาเร็ธ) นักบุญโยเซฟ  และพระมารดามารีย์ ตระหนักว่า พระเยซูเจ้าไม่อยู่ด้วย  การฉลองปัสกาเป็นวันฉลองสำคัญของชาวยิว  เพื่อระลึกถึงวันอิสรภาพจากการเป็นทาส  และฐานประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรร  พระวรสารนักบุญลูกา     เผยแสดงเอกลักษณ์ของพระเจ้า   ว่าพระองค์เป็นลูกของพระบิดา ทรงประทับท่ามกลางเรา  เพื่อตอบปัญหาสำคัญของประสบการณ์มนุษย์

            พ่อแม่มักใส่ใจความปลอดภัยของลูกๆของตน  เมื่อแม่พระและนักบุญโยเซฟเดินทางกลับกรุงเยรูซาเล็ม  เพื่อตามหาพระเยซู  พบพระองค์ในพระวิหาร  ซึ่งไม่มีเด็กวัยเดียวกันเลย  แต่อยู่กับหมู่อาจารย์  เราสามารถคิดมโนภาพได้ถึงอารมณ์  และความกังวลใจของทั้งสองก่อนจะพบพระองค์  และบรรเทาใจ  และยินดี  เมื่อทั้งสอง  พบว่าพระองค์ปลอดภัย

            อย่างไรก็ดี  พระวรสารตอนนี้  มิได้มีการอธิบายความมากเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว  แต่ก็เป็นพยานถึงความสำคัญในแผนการของพระเจ้าเพื่อโลกเมื่อได้พบประสบการณ์พระเยซูเจ้าทรงบังเกิด  พระนางมารีย์  และนักบุญโยเซฟ  ปฏิบัติตนตามพันธสัญญา  โดยไปนมัสการพระเจ้าตามธรรมเนียม พระเยซูเจ้าทรงเจริญขึ้นทั้งในพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า   เผชิญความลำบาก  และการท้าทายในชีวิต

            การฉลองวันนี้  สอนเราว่า  อาศัยพระเจ้าทรงช่วย แม้มีการท้าทายในชีวิต  เราก็สามารถเติบโตได้ในความดี  และความศักดิ์สิทธิ์  จงมโนภาพดูว่าอะไรคือความแตกต่างที่เราทำได้ในครอบครัว หากเราพยายามเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น  ตามที่นักบุญยอห์นได้เตือนใจเราในบทอ่านที่ 2  ว่า  เรามีศักดิ์ศรีเป็นบุตรพระเจ้า  และต้องเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ 

เราฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์  ขอพี่น้องเชิญพระเยซูคริสตเจ้ามาอยู่ที่บ้านของเราวันนี้  ช่วยผูกพันเราด้วยกัน  ขอพระองค์ช่วยรักษาการแตกแยกให้กลับมารักพระเจ้า และรักผู้อื่น  เพื่อเราจะเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าอย่างแท้จริง

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing

(ตุลาคม-ธันวาคม 2018) หน้า 595-596.

วันอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า 23 ธันวาคม 2018

วันอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

23 ธันวาคม 2018

บทอ่าน มคา  5:1-4ก  ;  ฮบ  10 :5-10  ;  ลก  1: 39 - 45

พระวรสารสัมพันธ์กับ  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  148, 448, 495, 523, 717, 2676, 2677 

จุดเน้น             ในเทศกาลแห่งมหัศจรรย์  ให้เรารำพึงถึงพระพรที่พระเยซูเจ้าทรงเป็น เพื่อเรา

วันนี้  เราเริ่มอาทิตย์ที่ 4 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า สั้นมาก  บทอ่านช่วยให้เราคิดเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า  พระพรของพระเจ้าสำหรับเราทุกคน   ประกาศกมีคาห์บอกชาวอิสราเอลว่าผู้ปกครองคนหนึ่งจะมาจากเบธเลเฮ็ม  ต้นกำเนิด ของเขามาจากอดีต... ผู้นั้นจะยืนขึ้น  และจะเลี้ยงดูฝูงแกะ  ประชากรของพระเจ้า  จดหมายถึงชาวฮีบรู  เตือนใจเราว่า  พระเยซูเจ้ามิได้เสด็จมา  เพื่อเครื่องเผาบูชา  และเครื่องบูชาชดเชยบาป  แต่มาเพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า  และที่สุด  นางเอลีซาเบธซึ่งได้เป็นหมัน  ได้ทักทายต้อนรับองค์พระผู้เป็นเจ้า  ซึ่งยังอยู่ในครรภ์ของพระนางมารีย์  พร้อมกับลูกในครรภ์ของนางด้วยก็ดิ้นด้วยความยินดี

            พระเยซูเจ้าทรงอยู่เกินที่เราจะคิดมโนภาพได้  ทั้งพลานุภาพ  และความสุภาพ  เรามั่นใจในบทอ่านต่างๆที่กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้า พระองค์ต้องเป็นผู้ปกครองอิสราเอลตลอดกาล  ด้วยความยิ่งใหญ่   นางเอลีซาเบธจำพระองค์ได้ว่า  ทรงเป็นบุตรพระเจ้า  ในครรภ์ของพระนางมารีย์

            แม้เราตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้า  เรารู้ว่าพระองค์เสด็จมาในโลกอย่างสุภาพและสงบเงียบเพียงไร  ทรงบังเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ  ในบรรดาหัวเมืองของยูดาห์  ทรงบังเกิดจากหญิงพรหมจรรย์  จากเมืองนาซาเร็ธ  พระองค์ทรงเชื่อฟังพระบิดา  ดำเนินชีวิตติดตามพระประสงค์พระเจ้า  แม้ถึงจุดแห่งความขัดแย้ง  และความทุกข์ทรมานบนไม้กางเขน  ดังที่เราทราบจากจดหมายถึงชาวฮีบรู  เดชะการถวายพระวรกายของพระองค์  เป็นการบูชาที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงกระทำ เพียงครั้งเดียว  โดยมีผลตลอดไป

            อาศัยพระเยซูเจ้า  ประชาชนได้รับการเจิมถวายแด่พระบิดา  เราจึงสามารถต่องานที่พระผู้ไถ่ได้เริ่ม  เมื่อทรงบังเกิดในรางหญ้า  บทอ่านต่างๆเตือนใจเราว่า  พระเจ้าสามารถทำงานโดยอาศัยเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง  อาศัยสตรีพรหมจารีคนหนึ่ง  อาศัยสตรีชรา (เอลีซาเบธ) ดูเหมือนจะเป็นหมัน  และทารถน้อยคนหนึ่ง   พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่  ผู้สร้างจักรวาลจากความว่างเปล่า  สามารถกระทำหลายสิ่งในชีวิตของเรา  โดยอาศัยทรัพยากรที่จำกัด   เวลา และความสามารถที่จำกัดของเรา

ดังนั้น  เมื่อเราฉลองของขวัญที่พระเจ้าได้ประทานให้เรา  โดยอาศัยการที่พระบุตรทรงรับสภาพมนุษย์  ให้เราอธิษฐานเพื่อให้เราสามารถเป็นของขวัญแก่กันและกัน  และแก่บรรดาผู้ที่พระเจ้าทรงส่งเราไปบริการ  ให้เราภาวนาเพื่อดวงใจนอบน้อม  จะได้พยายามรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา  และติดตามพระประสงค์นั้น   ให้เราภาวนาขอให้เราได้รักการส่องสว่างจากพระจิตเจ้า เหมือนนางเอลีซาเบธ  จะได้เห็นงานของพระเจ้าในสถานที่  และประชาชนที่เรามิได้คาดคิด

ให้เราภาวนา  เหมือนพระนางมารีย์  ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในสังคมปัจจุบัน  โดยผ่านทางเรา  พระเยซูเจ้าจะได้เป็นผู้เลี้ยงแกะในวิญญาณที่กำลังลำบาก  ที่เราจะพบในชีวิตประจำวัน  ให้เราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า  ไม่ว่าวิธีการใหญ่หรือเล็กๆ  ที่พระองค์ทรงเลือก

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing

(ตุลาคม-ธันวาคม 2018) หน้า 580-581.

วันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า 9 ธันวาคม 2018

วันอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

9 ธันวาคม 2018

บทอ่าน               บรค  5:1-9  ;  ฟป-1 :4-6,8-11  ;  ลก 3:1-6

พระวาสารสัมพันธ์กับ      คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   535

จุดเน้น           องค์พระผู้เป็นเจ้าจะชำระเราให้บริสุทธิ์  ให้สมบูรณ์ และเตรียมเราสำหรับพระองค์เอง

            พวกเราหลายคนคงเคยได้ยินวลีที่ว่า  “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม”  อาณาจักรโรมันเคยภาคภูมิใจในระบบถนน  ที่เชื่อมต่อกันทุกภาคของจักรวรรดิ  กับนครหลวง  ถนนเหล่านี้ทำด้วยหิน  ขยายออกไปทั่วทวีปยุโรป  เอเชีย  อาฟริกาเหนือ  และตะวันออกกลาง   ทาสเป็นผู้สร้าง  และบรรดาชาติต่างๆที่เป็นเมืองขึ้น  เป็นผู้จ่ายภาษี  ถนนเหล่านี้เป็นฝีมือของวิศวกรรม... ข้ามเนินและภูเขา.... ลอดใต้สะพานสำหรับวางท่อระบายน้ำ.....หลบหลีกอุปสรรคธรรมชาติ... เป็นทางตรง

            นักบุญยอห์น  บัปติส  คงเคยเดินทางผ่านถนนโรมัน  หลายครั้งในชีวิตตลอดจนผู้คนที่ออกมายังถิ่นทุรกันดาร   เพื่อฟังยอห์นเทศน์   ยอห์นบอกบรรดาศิษย์ให้สร้างทางสายใหม่  สำหรับบุตรของพระเจ้า  “จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า  จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรง”   ยอห์นมิได้บอกพวกเขาให้ใช้พลั่ว หรือ ขวาน  แต่เขาภาวนาให้บรรดาศิษย์ทำทางแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า  เพื่อเข้าในหัวใจ  และสัมผัสวิญญาณของพวกเขา

            ยอห์นเป็นประกาศกองค์สุดท้ายก่อนพระเยซูเจ้า  ศิษย์องค์แรกของท่านด้วย บรรดาผู้เต็มใจทำทางให้ตรงเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า  ยอห์น  บอกว่าพระเจ้าจะรับสภาพมนุษย์  เสด็จมาพบพวกเขา  พระองค์เสด็จมาเคียงข้างเรา  เพื่อช่วยเราในการทำถนน  และสร้างสะพาน  สร้างถนนให้ตรง  และราบเรียบ  ด้วยการให้อภัยบาปเรา   และ เคลื่อนย้ายอุปสรรคจากหนทางของเรา  “หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม  ภูเขา  และเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง”  องค์พระผู้เป็นเจ้า จะชำระเราให้บริสุทธิ์  สมบูรณ์  และเตรียมเราสำหรับพระองค์เอง

            งานสร้างถนนนี้ได้เริ่มในวันที่เราได้รับศีลล้างบาป  และยังต่อเนื่องจนถึงวันที่เราพบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเวลาเราสิ้นใจ   ดังที่นักบุญเปาโลได้บอกชาวฟิลิปปีว่า  “ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระเจ้าผู้ทรงเริ่มกิจการดีนี้ในท่านแล้ว  จะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จบริบูรณ์”  เพื่อช่วยสิ่งเหล่านี้  อัครสาวกเปาโลยังให้กำลังใจเรา  ให้ความรักทวียิ่งขึ้น  ทำให้เกิดความรู้  และวิจารญาณทุกเรื่อง  ท่านจะแยกได้ว่าสิ่งใดดีเยี่ยม  เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้   คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  มิใช่จำนวนของขวัญที่ปรากฏใต้ต้นคริสต์มาส  แต่ว่าเป็นพระพรของพระเจ้า  พระบุตรแต่องค์เดียวผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อเรา  และเพื่อความรอดพ้นของเรา

            ระหว่างเทศกาลนี้  เราทำหลายสิ่งเพื่อเตรี่ยมฉลองคริสต์มาสขอให้เราแน่ใจว่าเราออกแรงพยายามในเทศกาลรับเสด็จพระคริสตเจ้าทั้งการบังเกิดที่เบธเลเฮม  และการเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์  ฐานะ พระราชาของเรา  ในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้  เรามีส่วนในพระสัญญาที่มีเขียนในบันทึกของประกาศกอิสยาห์ว่า  “แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้า”  ขอให้เราเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า...ออกไป..ประกาศข่าวดีที่เราได้ยินและได้รับนี้

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing

(ตุลาคม-ธันวาคม 2018) หน้า 556-557.

วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า 16 ธันวาคม 2018

วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

16 ธันวาคม 2018

บทอ่าน ศฟย  3:14-18ก  ;  ฟป  4:4-7  ;  ลก 3:10-18

พระวาสารสัมพันธ์กับ   คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   535, 696, 2447

จุดเน้น             จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาเถิด  ข้าพเจ้าขอย้ำอีกว่า  จงชื่นชมเถิด

            วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ ตามธรรมเนียม  เราเรียกว่า อาทิตย์ชื่นชมยินดี  พระสงฆ์ประธานใส่อาภรณ์สีกุหลาบ  แสดงออกถึงการชื่นชม  และพระวาจา (2 บทอ่านแรก) ก็กล่าวเช่นนั้น  เรามามากกว่าครึ่งทางในเทศกาลเตรียมรับเสด็จและภาวนาอย่างพากเพียร  พร้อมฉลองการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าในประวัติศาสตร์  และรอการเสด็จมาอีกครั้งในสิริรุ่งโรจน์  สำหรับบรรดาคริสตชน  หัวข้อการชื่นชมยินดีอยู่ในแก่นความเชื่อของเรา  แม้เรากำลังต่อสู้กับเรื่องใหญ่ๆ ในชีวิต  เราก็ยังได้ชื่อว่าประชาชนแห่งความชื่นชมยินดี  และพร้อมจะแบ่งปันความชื่นชมยินดีนั้นแก่คนอื่นๆ

            ดังนั้น ความชื่นชมฝ่ายจิตนี้เหมือนอะไร  แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกับความพึงพอใจภาษามนุษย์  เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอารมณ์ที่ไม่นาน  เพราะเป็นสิ่งภายนอกที่เราได้รับประสบการณ์  ความปีติยินดีฝ่ายจิตเกิดจากชีวิตภายใน  เป็นความสัมพันธ์กับพระเจ้า  ความปีติยินดีฝ่ายจิตมาจากการต่อสู้ในชีวิตและกลายเป็นตราของคริสตชนแท้ๆ

            ประกาศกเศฟันยาห์บรรยายสรรเสริญพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ต่อพระสัญญา  นักบุญเปาโลก็เช่นกัน  ต้องการให้ชุมชนที่ฟิลิปปีชื่นชมยินดี  มิใช่แบบผิวเผิน  แต่เป็นความปีติยินดีที่มาจากพระเจ้า  ตามที่พวกเขารอพระเจ้าเสด็จกลับมาในสิริรุ่งโรจน์  เพื่อรักษาความยินดี  นักบุญเปาโลเตือนใจพวกเขาให้อธิษฐานภาวนาทุกเวลา

            แม้ในความชื่นชม  เรายังได้ยินนักบุญยอห์น บัปติส เตือนเราให้ กลับใจ และ ยุติธรรม  ประชาชนถามยอห์นว่า  เราจะต้องทำอะไร  เป็นคำถามภาคปฏิบัติ  และนักบุญยอห์นก็ตอบแบบปฏิบัติได้  ไม่ต้องคิดอะไรมาก  ให้พยายามดำเนินชีวิตแบบยุติธรรม  ไม่ใช่สวมเสื้อกระสอบ  โรยขี้เถ้าที่ศีรษะ  หรือไปสวดในพระวิหาร  แต่ว่องไวต่อความต้องการความยุติธรรม  รู้จักแบ่งปันมากกว่าแบมือรับ  บรรดาคนเก็บภาษีไม่ต้องลาออก  แต่จงยุติธรรม  บรรดาทหารไม่ต้องหนีหน้าที่  แต่จงใช้อำนาจอย่างดียุติธรรม  นี่เป็นพระวรสารของพลังประชาชนที่เปลี่ยนโฉมหน้าสังคมได้

            “และเราจะต้องทำอะไร” เราจะสามารถเปลี่ยนสังคมของเราได้อย่างไร  ในฐานะสามีภรรยาและสมาชิกในครอบครัว  เราพยายามรักกันเหมือนที่พระเจ้าทรงรักเรา  ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครอง  เราสอนลูกๆ ว่า คุณค่าแท้ในชีวิตไม่ได้ขึ้นกับวัตถุสิ่งของหรือมีโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด  หรือยี่ห้อดังๆ  แต่อยู่ที่การปฏิบัติต่อผู้อื่น  รับใช้ผู้ที่ลำบากกว่าเรา  ในฐานะประชาชน  เราต้องใช้เสรีภาพในการรับใช้ชุมชนส่วนรวม  ในฐานะนายจ้างและลูกจ้าง  ต้องจ่ายค่าจ้างอย่างยุติธรรมและขยันทำงาน  ในฐานะคริสตชน  เราต้องซื่อสัตย์ต่อพระวรสาร  ชื่นชมยินดีในพระเจ้าและพระสัญญา  มีอีกหลายหน้าที่  เพียงแต่เมื่อเราซื่อสัตย์ต่อพระคริสตเจ้า  เราจะรู้จักความยินดีแท้จริง  จะเข้าใจความหวังของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing

(ตุลาคม-ธันวาคม 2018) หน้า 568-570.

วันอาทิตย์แรก เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า 2 ธันวาคม 2018

 วันอาทิตย์แรก เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

2  ธันวาคม  2018

บทอ่าน ยรม 33:14-16  ;  1 ธส 3:12-4:2  ;  ลก  21:25-28, 34-36

พระวาสารสัมพันธ์กับ   คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   671, 697, 2612

จุดเน้น             ในการมุ่งหน้ารอการเสด็จกลับมาของพระคริสตเจ้าในสิริรุ่งโรจน์  หัวใจของเราเปี่ยมด้วยความหวังและการรอคอย

            ตามที่เรารับฟังบทอ่านวันนี้  มีการประจญ 2 สิ่ง คือ หนึ่ง เราอาจคิดว่าตั้งแต่เรารอพระคริสต์เสด็จกลับมา เป็นเวลานาน พระองค์คงจะไม่เสด็จมาในไม่ช้าและเราจะมีเวลามากสำหรับเตรียมตัว  ประการที่ 2 คือ เราอาจคิดว่า พระองค์จะเสด็จมาเดี๋ยวนี้  ดังนั้นเรามีชีวิตในความกลัววันนั้น  จนไม่มีความหวัง  หรือทำอะไรในชีวิต  เรามุ่งหน้ารอพระองค์เสด็จมา  เราใช้เวลาให้มีมีคุณค่า  ก้าวหน้าในความสัมพันธ์กับพระเจ้า  ด้วยความเข้าใจว่าโลกนี้มิใช่บ้านแท้ของเรา

            ในพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสถึงการพิพากษาและเราไม่ทราบว่าเมื่อไร  แต่เรารู้ว่ากำลังมาถึง  ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อม  ตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลา  นี่เป็นความเชื่อของเรา  มีการตัดสินพิพากษาแน่นอน  การไตร่ตรองชีวิต  ด้วยการเลือก  ด้านการเผยแสดง  และมีเมตตาของพระเจ้า

            ยังมีอีก 2 หัวข้อในพระวรสาร  ประการแรก  เรารู้ว่าพระผู้ไถ่กำลังเสด็จมา  ให้เรามั่นคงในความหวัง  มั่นคงในความเชื่อ  แม้มีการประจญ  ทดลองหลายครั้ง  เรารู้ว่าผลของการต่อสู้สุดท้ายระหว่างความดี และ ความชั่ว  พระคริสตเจ้าทรงชนะความตาย 

งานของเราต้องมั่นใจว่าเราอยู่ฝ่ายชนะ  ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมกับพระองค์  เราต้องไม่ฉวยโอกาส (ถือว่าพระเจ้าทรงเมตตาเสมอ จึงไม่สนใจปรับปรุงชีวิต)  แต่จะอุทิศตัวฟื้นฟูชีวิต  ด้วยความหวังภายในตัวเราและดำเนินชีวิตมั่นใจว่า  การไถ่กู้อยู่ใกล้แล้ว

ประการที่ 2  ฐานะคริสตชน  พระเรียกเราให้เผชิญกับข้อเท็จจริงว่าโลกกำลังป่วย  ต้องการการเยียวยารักษา  เราไม่หมดหวัง  เราทุกคนไม่สมบูรณ์ทุกอย่าง  แต่เรามีทางรักษาและรับการไถ่กู้  จะไม่มีใครเสียไป  จนกระทั่งถึงการพิพากษาสุดท้าย

เราเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า  เป็นช่วงเวลาเตรียมตัว  ให้เรามุ่งหน้ารอการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า  ให้เราตื่นเฝ้า  อธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ  เพื่อเหมาะสมจะยืนต่อหน้าพระองค์  เมื่อพระองค์เสด็จมาในสิริรุ่งโรจน์

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing

(ตุลาคม-ธันวาคม 2018) หน้า 545-546.

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown