อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต

18 มีนาคม 2018

บทอ่าน ยรม 31:31-34 ;  ฮบ 5:7-9 ;  ยน 12:20-33

พระวาสารสัมพันธ์กับ   คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)      363, 434, 542, 550, 607, 662, 786, 1428, 2731, 2795, 2853

ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)       570

จุดเน้น             พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นพันธสัญญาใหม่

ในพันธสัญญาเดิม  การทำพันธสัญญา  ต้องประทับตรารับรองด้วยเลือด  และการบูชา  ในบทอ่านที่หนึ่งของวันนี้  ประกาศกเยเรมีย์ทำนายถึงพันธสัญญาใหม่ที่พระเจ้าจะทำกับประชากรของพระองค์  พลังอำนาจซึ่งสามารถทำให้ประชากรทั้งโลกเข้าเป็นอิสราแอลใหม่  พันธสัญญานี้ได้รับมาในพระบุคคลของพระเยซูเจ้า

            กิจการช่วยให้รอดพ้นที่สำคัญของพระเยซูคริสตเจ้า คือ การหลั่งโลหิต ที่เป็นเครื่องบูชาสำหรับเรา  คือการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  เพื่อเราจะได้มีส่วนร่วมในชีวิตของพระเจ้า  โดยอาศัยโลหิตแห่งพันธสัญญา  เราทุกคนทั้งชาวยิว และคนต่างความเชื่อ  ก็สามารถรับชีวิตพระเจ้าได้

            ในฐานะคริสตชน  เราสามารถเข้าในพันธสัญญาใหม่  ในพิธีมิสซานี้ในความสมบูรณ์ของพระเยซูคริสตเจ้า   ทั้งพระกายและพระโลหิต  พระวิญญาณและพระเทวภาพ  แสดงออกในพิธีบูชาขอบพระคุณ    พระเจ้าทรงมอบชีวิตของพระองค์แก่เรา  ช่วยให้เรามีโอกาสตอบสนอง  และเราก็ปฏิบัติ  เรารับพระกายของพระคริสตเจ้าจากพระแท่น  และดื่มพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้าจากถ้วยกาลิสแห่งความรอดพ้น ที่เราได้รับในบูชาของพระเยซูคริสตเจ้า

            สิ่งที่น่าตกใจคือ  เพื่อเติมให้เราเต็มด้วยพระโลหิตที่ให้ชีวิต  ทำให้พระเยซูเจ้าต้องสิ้นพระชนม์   นี่เป็นแก่นของมิสซา  หากปราศจากพระโลหิตแท้ของพระเยซูคริสตเจ้า  มิสซาก็ไม่มีคุณค่าอะไร  นอกจากพิธีว่างเปล่าไร้ความหมาย  แต่มิสซาเป็นการรวมกันระหว่างสวรรค์  และแผ่นดิน  เป็นการรวมกันของชีวิตพระกับชีวิตมนุษย์ 

            ในพันธสัญญาเดิม  พระเจ้าทรงเรียกมนุษย์ให้ฟังเสียงของบรรดาประกาศก นอบน้อมเชื่อฟัง  และปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระเจ้า  แต่การรวมกันยังอยู่ห่างไกล  บัดนี้เราได้รับการฟื้นฟู  โดยอาศัยพระโลหิตของพระคริสตเจ้า  ดังที่ในบทอ่านที่ 2  กล่าวว่า “ เมื่อทรงกระทำภารกิจของพระองค์สำเร็จบริบูรณ์แล้ว  ก็ทรงเป็นผู้บันดาลความรอดพ้นนิรันดร์แก่ทุกคนที่ยอมนอบน้อมเชื่อฟังพระองค์” (ฮบ  5:9)

            พี่น้อง เราคริสตชนเห็นพระเจ้า  โดยอาศัยเลนส์(แว่นตา)แห่งความรัก บางสิ่งลึกซึ้งมากกว่าแค่ความนอบน้อบเชื่อฟัง  การที่พระบุตรมารับสภาพร่างกายมนุษย์  ช่วยให้เรามีสัมพันธภาพแห่งความรัก  เราต้องรู้จักพระเจ้ามิใช่เพียงด้วยจิตปัญญาเท่านั้น  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า  คือด้วยหัวใจของเรา

            พระเจ้าทรงเป็นความรัก (1 ยน 4:8,16) และความรัก ย่อมแสวงหาความผูกพัน  ในพระเยซูคริสตเจ้า  ความผูกพันนี้จึงถูกทำให้สมบูรณ์  เป็นไปไม่ได้ที่ความตายจะทำลาย (ความรัก  ความผูกพันนี้ )  อันที่จริง  โดยอาศัย  การสละชีวิต สิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสตเจ้า  ทำให้เราพบ  ความผูกพันสูงสุดที่พระเจ้า  แสวงหากับเรา  นี่เป็นข้อเท็จจริงลึกซึ้งในพระทรมานการสิ้นพระชนม์  และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า  ผู้ทรงติดตามความผูกพันต่อเนื่องกับเรา  ด้วยการหลั่งโลหิตบนไม้กางเขน  ดึงดูดทุกคนเข้ามาหาพระองค์ (ยน 12:32)

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล

จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing          Vol. 51, No. 1 (มกราคม-มีนาคม  2018), หน้า 122-123.