มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2018 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่สอง                      2 พกษ 25:1-12
     ปีที่เก้าในรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ วันที่สิบเดือนสิบ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนทรงยกทัพมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็ม ทรงตั้งค่ายอยู่หน้าเมือง และทรงสร้างเนินดินขึ้นโดยรอบเพื่อปีนกำแพงเมือง เมืองถูกล้อมอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดในรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์ ปีนั้นเกิดความอดอยากอย่างสาหัสในเมืองจนไม่มีอาหารสำหรับประชาชนของแผ่นดิน วันที่เก้าเดือนสี่ ชาวบาบิโลนพังกำแพงเมืองลงส่วนหนึ่ง ในคืนนั้นทหารทุกคนต่างหลบหนีผ่านทางประตูระหว่างกำแพงใกล้พระราชอุทยาน ทั้งๆที่ ชาวเคลเดียกำลังล้อมเมืองอยู่ กษัตริย์เสด็จไปทางลุ่มแม่น้ำจอร์แดน กองทัพชาวเคลเดียไล่ตามกษัตริย์ไปทันที่บริเวณที่ราบใกล้เมืองเยรีโค ทหารของพระองค์ต่างละทิ้งพระองค์ไว้แล้วหลบหนีไป ชาวเคลเดียจับกุมพระองค์เป็นเชลยและนำไปเฝ้ากษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เมืองริบลาห์ พระองค์ทรงถูกพิพากษาที่นั่น พระโอรสของกษัตริย์เศเดคียาห์ถูกประหารชีวิตเฉพาะพระพักตร์พระบิดา กษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงสั่งให้ควักพระเนตรของกษัตริย์เศเดคียาห์ แล้วทรงพันธนาการนำไปยังกรุงบาบิโลน
     วันที่เจ็ดเดือนห้า ปีที่สิบเก้า ในรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ เป็นผู้แทนกษัตริย์แห่งบาบิโลน ยกพลเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม เขาเผาพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวังและบ้านเรือนทั้งหมดในกรุงเยรูซาเล็ม อาคารใหญ่ทุกหลังถูกเผาไฟ กองทหารชาวเคลเดียซึ่งอยู่กับผู้บัญชาการทหารองครักษ์ทำลายกำแพงรอบกรุงเยรูซาเล็ม เนบูซาระดาน ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ กวาดต้อนผู้คนที่เหลืออยู่ในเมือง รวมทั้งทุกคนที่หนีไปอยู่กับกษัตริย์แห่งบาบิโลนและประฃาชนที่เหลือไปเป็นเชลย แต่ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ปล่อยคนยากจนของแผ่นดินไว้บางส่วน เพื่อทำงานในสวนองุ่น และทำไร่ไถนา

สดด 137:1-3,4-6

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                 มธ 8:1-4
     เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขา ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ ทันใดนั้น คนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ กราบลงทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ก็ทรงรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” โรคเรื้อนก็หายไปทันที พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาอีกว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เลย จงไปแสดงตนแก่สมณะและถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแก่คนทั้งหลาย”

 

ข้อคิด
     โรคเรื้อนเป็นอาการ “ตายทั้งเป็น” ร่างกายถูกกัดกิน จิตใจช้ำชอก ไร้ศักดิ์ศรี สังคมรังเกียจ จะไปไหนมาไหนก็จะต้องสั่นกระดิ่งเพื่อเตือนคนรอบข้างให้ระวังตนเอง ใครสัมผัสเขาจะต้องเป็นมลทิน วันนี้การสัมผัสของพระเยซูเจ้าคืนศักดิ์ศรีความเป็นบุตรพระเจ้าให้แก่เขา ทรงรักษาและชี้ทางเขา ด้วยท่าทีสุภาพของคนโรคเรื้อน ขณะที่ปากของเขาวอนขอการรักษาจากพระเยซูเจ้า หัวใจของเขาก็เปิดรับความเชื่อในพระองค์ แตกต่างจากกษัตริย์เศเดคียาห์และชาวอิสราเอลในบทอ่านที่หนึ่ง ทั้งที่ตนไร้กำลังแต่ก็ยังปิดหัวใจไม่รับพระเจ้า จึงนำมาซึ่งความทุกข์สาหัส

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown