วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2023 ระลึกถึง น.มาร์ธา มารีย์ และลาซารัส
- รายละเอียด
- หมวด: กรกฎาคม 2023
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1004
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์น ฉบับที่หนึ่ง 1 ยน 4:7-16
ท่านที่รักทั้งหลาย เราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรัก ย่อมเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้ คือ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น ความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า
ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักกัน พระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ในเราก็จะสมบูรณ์ เรารู้ว่าเราดำรงอยู่ในพระองค์ และพระองค์ทรงดำรงอยู่ในเรา เพราะพระองค์ประทานพระพรของพระจิตเจ้าให้เรานั่นเอง เราเห็นและเราเป็นพยานได้ว่า พระบิดาทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ไถ่โลก ผู้ใดยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา และเขาย่อมอยู่ในพระเจ้า เรารู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก ผู้ใดดำรงอยู่ในความรัก ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 11:19-27
เวลานั้น ชาวยิวจำนวนมากมาหามารธาและมารีย์เพื่อปลอบใจนางในการตายของพี่ชาย เมื่อมารธารู้ว่าพระเยซูเจ้ากำลังเสด็จมา นางก็ออกไปรับเสด็จ ส่วนมารีย์ยังคงนั่งอยู่ที่บ้าน มารธาทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย แต่บัดนี้ดิฉันรู้ดีว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงวอนขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะประทานให้” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “พี่ชายของท่านจะกลับคืนชีพ” มารธาทูลว่า “ดิฉันรู้ว่าเขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษย์ทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย”
พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ”
มารธาทูลตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า ดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้”
ข้อคิด
วิธีดำเนินชีวิตเป็นสมาชิกบุตรพระเจ้า
1. เชื่อศรัทธาในพระเป็นเจ้า และถือตามพระบัญญัติของพระองค์ ที่จริงความเชื่อเป็นนามธรรม แต่เรา
จำเป็นพอจะทราบถึงระดับความเชื่อของเรา ก็โดยอาศัยกิจศรัทธาที่พระศาสนจักรกำหนดไว้และสม่ำเสมอในภาคปฏิบัติทุกๆ วัน ที่ผู้มีความเชื่อทั้งหลายย่อมกระทำ
2. ความรักต่อพระเป็นเจ้าสุดจิตใจ ยกตัวอย่างถ้าเรารักคนใดคนหนึ่ง เราย่อมจะคิดถึงและทำทุกอย่างที่เขาต้องการ ความรักต่อพระเป็นเจ้ามักเริ่มต้นด้วยความสำนึกขอบพระคุณถึงชีวิตที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ ขอบคุณสำหรับพ่อแม่ผู้มีพระคุณและสิ่งสร้างทั้งมวลที่พระกำหนดไว้ให้เรา ขอบคุณสำหรับสติปัญญา พละกำลังฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณที่ทำให้เรามีพลังดูแลตนเองและผู้อื่น.... เรายังต้องขอพรสำหรับอนาคตที่ดีกว่าขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป
3. รู้จักรักผู้อื่นเหมือนพระทรงรักเรา ความรักสร้างความหวัง สร้างอนาคตและสร้างมิตรภาพให้ขยายออก ยิ่งมีอายุมากขึ้น ยิ่งมีลูกมีหลาน มีเพื่อนร่วมงาน ร่วมประเทศ และร่วมโลก เหมือนกับนกที่มีปีกแข็งแรงย่อมบินได้ไกลและทำหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่านกที่ไม่บิน ความรัก ยิ่งรักคนอื่น ยิ่งทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมพระเจ้าจึงทรงรักเราถึงเพียงนี้