มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันอังคารที่ 20 มิถุนายน 2023 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง                  2 คร 8:1-9

          พี่น้องทั้งหลาย เราใคร่จะให้ท่านรู้เรื่องพระหรรษทาน ซึ่งพระเจ้าประทานให้พระศาสนจักรต่างๆ ในแคว้นมาซิโดเนีย แม้เขาต้องทนทุกข์แสนสาหัส เขาก็ยังมีความสุขอย่างยิ่ง แม้จะยากจนแสนเข็ญ เขาก็ยังมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างล้นเหลือ ข้าพเจ้าเป็นพยานได้ว่าเขาบริจาคด้วยความสมัครใจตามกำลังความสามารถ และเกินกำลังความสามารถอีกด้วย เขายังอ้อนวอนเราหลายครั้งให้เขามีสิทธิ์ร่วมรับใช้บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย เขาทำยิ่งกว่าที่เราคาดหมายไว้ เขาถวายตนแด่พระเจ้าก่อน แล้วจึงมอบตนให้เราตามพระประสงค์ของพระเจ้า เราจึงขอร้องทิตัสให้จัดการกุศลนี้ต่อไปจนสำเร็จในหมู่ท่านทั้งหลายดังที่เขาได้เริ่มไว้แล้ว เมื่อท่านมีทุกสิ่งบริบูรณ์ คือความเชื่อ การพูด ความรู้ ความกระตือรือร้นและความรักที่ท่านมีต่อเรา ท่านก็ควรจะดีพร้อมในการกุศลนี้ด้วย ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้มิใช่เป็นการบังคับ แต่เป็นการเล่าถึงความกระตือรือร้นของผู้อื่น เพื่อพิสูจน์ว่าความรักของท่านนั้นมีจริง ท่านรู้แล้วถึงพระกรุณาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา แม้ทรงร่ำรวย พระองค์ก็ยังทรงยอมกลายเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่าน เพื่อท่านจะได้ร่ำรวยเพราะความยากจนของพระองค์

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                                      มธ 5:43-48

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า

         “ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้าน จงเกลียดศัตรู แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน เพื่อท่านจะได้เป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า บรรดาคนเก็บภาษีมิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ถ้าท่านทักทายแต่พี่น้องของท่านเท่านั้น ท่านทำอะไรพิเศษเล่า คนต่างศาสนามิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด”

 

 

ข้อคิด
     "บัญญัติเอกคือบัญญัติแห่งความรัก" เพื่อเราจะเป็นลูกของพระอย่างแท้จริง เราต้องเป็นเหมือนพระเจ้าพระบิดาให้จงได้ และเป็นธรรมชาติ ภาษาละติน Misericodes sicut Pater (มิเชรีคอร์แดส ซีคุต ปาแตร์ แปลว่า จงเป็นผู้เมตตาเหมือนพระบิดา) คำว่า "พระบิดา Pater" ครบครันอยู่แล้วในความรักไม่สิ้นสุดในการให้อภัยไม่สิ้นสุด และไม่มีขอบเขตในความรัก นี่คือต้นแบบที่เราคริสตชน "ลูกของพระเจ้าพระบิดา" ต้องเดินตามในหนทางของพระองค์โดยทางพระเยซูเจ้า และที่สำคัญยิ่งคือทุกคนแม้พี่น้องต่างความเชื่อ คือ ลูกของพระบิดา และเป็น "พี่น้องของเรา" ไม่ว่าจะเป็นคนบกพร่อง คนบาป สักเพียงใด เราคริสตชนพึงต้อนรับด้วย "ดุจหัวใจของพระบิดาเสมอ" นี่คือ "บัญญัติแห่งความรัก" สำหรับเราทุกคน

 

วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2023 น.โรมูอัลโด เจ้าอธิการ

บทอ่านจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง                  2 คร 6:1-10

       พี่น้อง ในฐานะผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราขอร้องท่านทั้งหลาย อย่าเพียงแต่รับพระหรรษทานของพระองค์ไว้โดยไม่เกิดผล พระองค์ตรัสว่า “ในเวลาที่เหมาะสม เราได้รับฟังท่าน และในวันแห่งความรอดพ้น เราได้ช่วยเหลือท่าน” ขณะนี้คือเวลาที่เหมาะสม ขณะนี้คือวันแห่งความรอดพ้น เราไม่เป็นอุปสรรคกีดขวางทางของใคร เพื่อมิให้ใครตำหนิงานรับใช้ของเรา แต่เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกกรณีด้วยความอดทนอย่างมาก ในความทุกข์ยาก ความขัดสน ความคับแค้น การถูกโบยตี การถูกจองจำ การจลาจล ความเหน็ดเหนื่อยจากการงาน การอดนอน การอดอาหาร เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความรู้ ความเพียรอดทน ความใจดี ความช่วยเหลือของพระจิตเจ้า ความรักที่ไม่เสแสร้ง ถ้อยคำสัตย์จริงและด้วยพระอานุภาพของพระเจ้า โดยใช้ความชอบธรรมเป็นอาวุธทั้งมือซ้ายและมือขวา ทั้งยามมีเกียรติและยามไร้เกียรติ ทั้งเมื่อถูกกล่าวร้ายและกล่าวดี เราถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหลอกลวง แต่เราก็พูดความจริง เราถูกกล่าวหาว่าไม่มีใครรู้จัก แต่เราก็มีคนรู้จักมาก เหมือนกับคนกำลังจะตาย แต่เราก็ยังมีชีวิต เหมือนคนถูกลงโทษ แต่เราก็ไม่ถูกประหารชีวิต เหมือนกับเป็นคนมีความทุกข์ แต่เราก็ยินดีเสมอ เหมือนกับเป็นคนยากจน แต่เราก็ทำให้คนจำนวนมากมั่งมี เหมือนกับคนที่ไม่มีอะไรเลย แต่เราก็มีทุกอย่าง

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                                       มธ 5:38-42

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า

       “ท่านเคยได้ยินเขากล่าวว่า ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน”

 

 

ข้อคิด
     นักบุญเปาโลยืนยันถึงชีวิตศิษย์ของพระคริสตเจ้า ย้ำว่า "ในทุกกรณี" คือ "ในความทุกข์ยากความขัดสน ความคับแค้น การถูกโบยตี การถูกจองจำ การจลาจล ความเหน็ดเหนื่อยจากการงาน การอดนอนการอดอาหาร เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ" เราเป็นศิษย์ เป็น "ผู้รับใช้ของพระเจ้านี่คือบทบาทสำคัญที่สุดที่เราคริสตชนจะสามารถเลียนแบบพระเยซูเจ้า พระองค์ได้ชื่อว่า เป็น "ServusDomini" (แซร์วูส ดอมีนี คือ ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า) และอันที่จริง พระเยซูเจ้าในพันธสัญญาใหม่ พระองค์คือ "องค์พระผู้เป็นเจ้า" ดังนั้น ชีวิตคริสตชนมีหัวใจสำคัญในการตอบรับพระเจ้า คือ "ในทุกกรณีของชีวิต เราจะเป็นผู้รับใช้ดังเช่นพระเยซูเจ้า..." ต่อเพื่อนพี่น้องรอบข้าง รับใช้ด้วยความรักดังเช่นพระองค์

 

วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2023 ระลึกถึงดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                                 อสย 61:10-11

          ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในองค์พระผู้เป็นเจ้า วิญญาณของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ประทานความรอดพ้นแก่ข้าพเจ้าเป็นเสมือนอาภรณ์ที่ทรงสวมให้ ประทานความชอบธรรมให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนเสื้อคลุม ข้าพเจ้าเป็นเหมือนเจ้าบ่าวที่โพกศีรษะอย่างงดงาม เหมือนเจ้าสาวประดับตนด้วยเพชรนิลจินดา เพราะแผ่นดินบังเกิดพืชผล  และสวนทำให้เมล็ดพืชงอกขึ้นฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าก็ทรงบันดาลให้เกิดความชอบธรรมและการสรรเสริญต่อหน้านานาชาติฉันนั้น

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                       ลก 2:41-51

          โยเซฟพร้อมกับพระมารดาของพระเยซูเจ้าเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกปี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุสิบสองพรรษา โยเซฟพร้อมกับพระมารดาก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มตามธรรมเนียมของเทศกาลนั้น เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลง ทุกคนก็เดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้ายังประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยที่บิดามารดาไม่รู้ เพราะคิดว่า พระองค์ทรงอยู่ในหมู่ผู้ร่วมเดินทาง เมื่อเดินทางไปได้หนึ่งวันแล้ว โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ตามหาพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก เมื่อไม่พบจึงกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อตามหาพระองค์ที่นั่น

             ในวันที่สาม โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์พบพระองค์ในพระวิหาร ประทับนั่งอยู่ในหมู่อาจารย์ ทรงฟังและทรงไต่ถามพวกเขา ทุกคนที่ได้ฟังพระองค์ต่างประหลาดใจในพระปรีชาที่ทรงแสดงในการตอบคำถาม เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์เห็นพระองค์ก็รู้สึกแปลกใจ พระมารดาจึงตรัสถามพระองค์ว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำกับเราเช่นนี้ ดูซิ พ่อกับแม่ต้องกังวลใจตามหาลูก” พระองค์ตรัสตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม พ่อแม่ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก” โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ไม่เข้าใจที่พระองค์ตรัส

                พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสองคน พระมารดาทรงเก็บเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ไว้ในพระทัย

 

 

ข้อคิด
     พระแม่มารีย์ได้สมญานามมากที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์และบรรดานักบุญ เพราะพระแม่มีหัวใจ(ดวงหทัย) ใกล้ชิดกับพระเยซู พระบุตรของพระแม่... แม่พระทรงเก็บเรื่องทั้งหมด คือ "พระเยซู พระประสงค์ของพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้า" ทรงเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "to ponder" (ทู พอนเดอร์) ถ้าเราจะตีความชัดๆ หัวใจของพระแม่เปรียบเหมือนบ่อน้ำที่เป็นบ่อดินขนาดใหญ่ และน้ำในบ่อนั้นคือน้ำพระทัยของพระเจ้า คือ "พระเยซูผู้เสด็จมาตามน้ำพระทัย" ดวงหทัยของพระแม่ชุ่มชื่น ชุ่มชื้น มีชีวิตพืชขึ้นมากมายเกิดผล เพราะ....ดวงหทัยของพระแม่ ตอบรับพระหฤทัยของพระเยซู น้ำทรงชีวิต" แม่พระจึงฉ่ำชื่นด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ขอให้ใจเราเปี่ยมล้นด้วยพระเจ้าเช่นกัน

 

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2023 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสืออพยพ                                            อพย 19:2-6ก

           ครั้งนั้น ชาวอิสราเอลออกเดินทางจากเรฟีดิมมาถึงถิ่นทุรกันดารซีนาย ตั้งค่ายอยู่ในถิ่นทุรกันดารด้านหน้าภูเขา

          โมเสสขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าบนภูเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสเรียกเขาจากภูเขาว่า “จงบอกชาวอิสราเอลลูกหลานของยาโคบว่าดังนี้ ท่านทั้งหลายเห็นแล้วว่า เราได้ทำต่อชาวอียิปต์อย่างไร และเรานำท่านมาหาเราที่นี่เหมือนนกอินทรีที่พยุงลูกอ่อนขึ้นไว้บนปีก แผ่นดินทั้งหมดเป็นของเรา บัดนี้ถ้าท่านเชื่อฟังเราและรักษาพันธสัญญาของเราไว้ ในบรรดาประชาชาติทั้งมวล ท่านจะเป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ท่านจะเป็นอาณาจักรสมณะ เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์สำหรับเรา”

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม                       รม 5:6-11

          พี่น้อง ขณะที่เรายังอ่อนแอ พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อคนบาปตามเวลาที่กำหนด ยากที่จะหาคนที่ยอมตายเพื่อคนชอบธรรม บางครั้งอาจจะมีคนยอมตายแทนคนดีจริงๆ ได้ แต่พระเจ้าทรงพิสูจน์ว่าทรงรักเรา เพราะพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ขณะที่เรายังเป็นคนบาป บัดนี้ เมื่อเราได้รับความชอบธรรมโดยอาศัยพระโลหิตของพระองค์แล้ว เดชะพระองค์ เราก็ยิ่งจะได้รับความรอดพ้นจากการถูกพระเจ้าลงโทษ ถ้าเรากลับคืนดีกับพระเจ้าเดชะการสิ้นพระชนม์ของพระบุตรขณะที่เรายังเป็นศัตรูอยู่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อกลับคืนดีแล้ว เราก็จะรอดพ้นเดชะพระชนมชีพของพระองค์ด้วย มิใช่เพียงเท่านั้น เรายังภูมิใจในพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เดชะพระองค์ บัดนี้พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระเจ้าแล้ว

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว                                 มธ 9:36-10:8

             เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”

                พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สิบสองคนเข้ามาพบ ประทานอำนาจให้เขาขับไล่ปีศาจ ให้รักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด

              อัครสาวกสิบสองคนมีนามดังนี้ คนแรกคือซีโมน ผู้มีสมญาว่าเปโตร กับอันดรูว์น้องชายของเขา ยากอบบุตรของเศเบดีกับยอห์นน้องชาย ฟีลิปและบาร์โธโลมิว โทมัสและมัทธิวคนเก็บภาษี ยากอบบุตรอัลเฟอัสและธัดเดอัส ซีโมนจากกลุ่มชาตินิยม และยูดาสอิสคาริโอท ต่อมายูดาสผู้นี้ทรยศต่อพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงส่งอัครสาวกสิบสองคนนี้ออกไป ทรงสั่งเขาว่า “อย่าเดินตามทางของคนต่างชาติ อย่าเข้าไปในเมืองของชาวสะมาเรีย แต่จงไปหาแกะพลัดฝูงของวงศ์วานอิสราเอลก่อน จงไปประกาศว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บไข้ จงปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทน ก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย”

 

 

ข้อคิด
     "พระเจ้าทรงเลี้ยงดู" หนังสืออพยพยืนยันการทรงนำของพระเจ้า การดูแลของพระเจ้าไม่สิ้นสุดกล่าวได้ว่าตลอดการเดินทางในถิ่นทุรกันดาร พระเจ้าทรงเฝ้าดูแลประชากรของพระองค์ เราอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้าเสมอ ในพระวรสารชี้ให้เราเห็น "พระเนตรของพระเยซู" ทรงทอดพระเนตร ทรงสงสาร และทรงเรียกบรรดาศิษย์มาเพื่ออะไร คำตอบสำคัญที่สุด เพื่อ "ดูแลเอาใจใส่ เพื่อเลี้ยงดูประชากรของพระเจ้า" ในศาสนาของเรา ผู้อภิบาล และมิติชีวิตคริสตชนประการที่ขาดไม่ได้ คือ การเอาใจใส่ การมองดู เห็นใจ ช่วยเหลือพื่อนพี่น้องรอบข้าง... ขาดไม่ได้ ถ้าขาดสิ่งนี้เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าเราเป็นศิษย์ของพระเยซู

 

วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2023 สมโภชพระหฤทัยพระเยซูเจ้า

บทอ่านจากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ                         ฉธบ 7:6-11

         ครั้งนั้น โมเสสได้กล่าวกับประชาชนว่า “ท่านเป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านทรงเลือกท่านไว้เป็นประชากรของพระองค์ เป็นสมบัติพิเศษจากประชากรทั้งหมดบนแผ่นดิน

         องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีความผูกพันกับท่านและเลือกสรรท่าน มิใช่เพราะท่านเป็นชนชาติที่มีจำนวนประชากรมากกว่าชนชาติอื่นๆ ท่านเป็นเพียงชนชาติเล็กที่สุดในหมู่ประชาชาติ แต่เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่าน และทรงต้องการจะรักษาพระสัญญาที่ทรงสาบานไว้กับบรรพบุรุษของท่าน องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงใช้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์นำท่านออกมา และทรงปลดปล่อยท่านให้พ้นจากการเป็นทาส และพ้นจากอำนาจของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ จงรู้เถิดว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าโดยแท้จริง ทรงเป็นพระเจ้าผู้ซื่อสัตย์ ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักและปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ถึงพันชั่วอายุคน แต่พระองค์ทรงลงโทษและทำลายผู้ที่เกลียดชังพระองค์ทันที พระองค์ไม่ทรงรีรอที่จะลงโทษเขาโดยตรง ดังนั้น ท่านจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ ข้อกำหนด และกฎเกณฑ์ที่ข้าพเจ้ามอบให้ท่านในวันนี้อย่างเคร่งครัด

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง        1 ยน 4:7-16

        ท่านที่รักทั้งหลาย เราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรัก ย่อมเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้ คือ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น ความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า

          ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักกัน พระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ในเราก็จะสมบูรณ์ เรารู้ว่าเราดำรงอยู่ในพระองค์ และพระองค์ทรงดำรงอยู่ในเรา เพราะพระองค์ประทานพระพรของพระจิตเจ้าให้เรานั่นเอง เราเห็นและเราเป็นพยานได้ว่า พระบิดาทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ไถ่โลก ผู้ใดยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา และเขาย่อมอยู่ในพระเจ้า เรารู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก ผู้ใดดำรงอยู่ในความรัก ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว         มธ 11:25-30

          เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ที่ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้มีปรีชาและรอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต่ำต้อย ถูกแล้ว พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้จักพระบุตร นอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดา นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรเปิดเผยให้รู้

         ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพ อ่อนโยน และถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน เพราะว่าแอกของเราอ่อนนุ่มและภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา”

 

 

ข้อคิด
     ถ้าพระเจ้าเป็นความรัก และพระเยซูคือความรักนิรันดร์ของพระเจ้าที่เราสามารถได้เรียนรู้ความจริงที่ว่า "Deus Caritas Est" (เดอูส การีตัส แอสต์ คือ พระเจ้าเป็นความรัก) วันที่เราสมโภชพระหฤทัยนี้มีความหมายอย่างยิ่งจากพระวาจาของพระเจ้ายืนยันว่า การเป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้านั้นคือการเป็นประชากรแห่งความรักของพระเจ้า และสำหรับคริสตชน ประชากรใหม่ในพระคริสตเจ้า เราไม่สามารถปฏิเสธความจริงในความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุดกับพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต โดยที่หัวใจสำคัญที่เราได้เรียนรู้ "พระหฤทัย" ความรักของพระเจ้า คือ พลังขับเคลื่อนและนำความรอดพ้นนิรันดรมาสู่เราทุกคน

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown