มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2021 น.เทเรซา เบเนติกตา แห่งไม้กางเขน พรหมจารีและมรณสักขี

บทอ่านจากหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ                           ฉธบ 10:12-22
     บัดนี้ ชาวอิสราเอลทั้งหลายเอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านทรงประสงค์สิ่งใดจากท่านเล่า พระองค์ทรงประสงค์ให้ท่านยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้เดินตามทุกวิถีทางของพระองค์ ให้รักและรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจและสุดวิญญาณ ให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า และข้อกำหนดที่ข้าพเจ้ามอบให้ท่านในวันนี้ เพื่อความดีของท่าน
     ดูซิ สวรรค์ และสวรรค์สูงสุด เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน แผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นก็เป็นของพระองค์ด้วย แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักบรรพบุรุษของท่านยิ่งกว่าผู้อื่น ทรงรักเขาและต่อมาทรงเลือกบุตรหลานของเขาคือท่านทั้งหลายจากชนชาติทั้งปวง ดังที่ทรงรักท่านจนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้น จงเข้าสุหนัตในใจ และอย่าดื้อรั้นอีกต่อไป เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าเหนือเทพเจ้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทรงเป็นเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งปวง ทรงเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงพระอานุภาพและน่าสะพรึงกลัว พระองค์ไม่ทรงลำเอียง ไม่ทรงรับสินบน ทรงให้ความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้าและหญิงม่าย ทรงรักคนต่างด้าว ประทานอาหาร และเสื้อผ้าแก่เขา ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงรักคนต่างด้าวเถิด เพราะครั้งหนึ่ง ท่านก็เคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์ด้วย จงยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านและรับใช้พระองค์เพียงพระองค์เดียว จงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และจงสาบานในพระนามพระองค์เท่านั้น จงสรรเสริญพระองค์เถิด เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน พระองค์ทรงกระทำการยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว ที่ท่านได้เห็นกับตา เมื่อบรรพบุรุษของท่านลงไปยังประเทศอียิปต์ มีจำนวนเพียงเจ็ดสิบคนเท่านั้น แต่บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ทรงบันดาลให้ท่านทวีจำนวนมากมายดุจดวงดาวในท้องฟ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                              มธ 17:22-27
       เวลานั้น เมื่อบรรดาศิษย์ชุมนุมอยู่กับพระเยซูเจ้าในแคว้นกาลิลี พระองค์ตรัสแก่เขาว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย และถูกประหารชีวิต แต่ในวันที่สาม บุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพ” บรรดาศิษย์รู้สึกเป็นทุกข์ยิ่งนัก
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ ผู้เก็บภาษีบำรุงพระวิหารเข้ามาหาเปโตร ถามว่า “อาจารย์ของท่านไม่เสียเงินบำรุงพระวิหารหรือ”
      เปโตรตอบว่า “เสียซิ” เมื่อเปโตรเข้าไปในบ้าน พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาก่อนว่า “ซีโมน ท่านมีความเห็นอย่างไร กษัตริย์ในโลกนี้ทรงเก็บภาษีจากใคร จากโอรสธิดาหรือจากคนอื่น” เปโตรทูลตอบว่า “จากคนอื่น” พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ถ้าเช่นนั้นโอรสธิดาย่อมได้รับการยกเว้น แต่เพื่อมิให้ใครตำหนิเรา ท่านจงไปที่ทะเล หย่อนเบ็ดลงไป จับปลาตัวแรกที่ตกได้ เปิดปากปลา ท่านจะพบเงินหนึ่งเหรียญ จงนำเงินนั้นไปเสียภาษีเพื่อเราและท่านเถิด”

 

ข้อคิด
      “ภาษีบำรุงพระวิหาร” ไม่ได้มีความสำคัญเฉพาะสำหรับการดูแลพระวิหารและดำเนินกิจการต่างๆที่เกี่ยวกับพิธีกรรมทั้งหลายเท่านั้น แต่เรายังอาจตีความได้ว่า เป็นการชำระหนี้ของเราที่มีต่อพระเจ้าด้วย ในเมื่อพระองค์ประทานความเชื่อที่งดงามและมีคุณค่ายิ่งนี้ให้แก่เรา การได้นมัสการพระเจ้าในพระวิหารจึงเป็นการแสดงออกของความรักและความรู้คุณที่มีต่อพระองค์ การนับถือศาสนาและการปฏิบัติศาสนกิจจึงมิใช่การต่อรอง หรือการเสนอบางสิ่งเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่เราต้องการ ราวกับว่าเมื่อปฏิบัติแล้ว พระเจ้าจะติดหนี้เรา และหากพระองค์ไม่ให้ตามที่เราต้องการแล้ว เราก็จะลงโทษพระองค์โดยละทิ้งพระองค์ไป นอกจากนี้ การรับใช้พระเจ้าต้องมาจากความพยายามและความพากเพียรของเรามนุษย์ มิใช่จะเอาแต่รอคอยของประทานจากสวรรค์อย่างอัศจรรย์ แต่ย่อมต้องมาจาก “น้ำพักน้ำแรงของมนุษย์” “จงไปที่ทะเล หย่อนเบ็ดลง จับปลา ท่านจะพบเงิน”

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown