วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2021 น.ฌาน ฟรังซัวส์ เดอ ชังตาล นักบวช
- รายละเอียด
- หมวด: สิงหาคม 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 853
บทอ่านจากหนังสือโยชูวา ยชว 3:7-10ก,11,13-17
ในครั้งนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่โยชูวาว่า ‘วันนี้เอง เราจะทำให้ท่านยิ่งใหญ่ในสายตาของอิสราเอล เพื่อพวกเขาจะรู้ว่า เหมือนกับที่เราได้อยู่กับโมเสส เราจะอยู่กับท่าน เวลานี้ จงสั่งพวกสมณะที่แบกหีบพันธสัญญาว่า “เมื่อพวกท่านถึงริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน พวกท่านจะต้องหยุดอยู่ในแม่น้ำ”’ แล้วโยชูวากล่าวกับชาวอิสราเอลว่า ‘จงเข้ามาใกล้ และฟังพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน’ โยชูวากล่าวว่า ‘ด้วยสิ่งนี้ พวกท่านจะรู้ว่าพระเจ้าผู้ทรงชีวิตสถิตอยู่กับพวกท่าน และโดยไม่มีข้อสงสัย ดูเถิด หีบพันธสัญญาของพระเจ้าแห่งสากลพิภพกำลังจะเคลื่อนนำหน้าพวกท่านลงไปในแม่น้ำจอร์แดน ทันทีที่พวกสมณะผู้แบกหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลพิภพ ก้าวเหยียบลงในแม่น้ำจอร์แดน น้ำในแม่น้ำจอร์แดนจะแยกออก น้ำที่ไหลลงมาจากตอนบนจะหยุดไหลเหมือนกับเป็นมวลใหญ่เดียวกัน’
เหตุการณ์ได้เป็นไปตามนั้น เมื่อประชาชนออกจากค่ายเพื่อข้ามแม่น้ำจอร์แดน พวกสมณะได้แบกหีบพันธสัญญาขึ้นนำหน้าประชาชน ทันทีที่ผู้แบกหีบพันธสัญญาถึงแม่น้ำจอร์แดน และเท้าของพวกสมณะที่แบกหีบพันธสัญญาแตะน้ำ -แม่น้ำจอร์แดนจะเต็มฝั่งตลอดฤดูเก็บเกี่ยว - น้ำตอนบนก็หยุดนิ่ง และรวมตัวขึ้นเป็นมวลเดียวเป็นระยะทางไกลตรงที่เรียกว่าอาดัม ใกล้เมืองศาเรธาน ในขณะที่น้ำส่วนที่ไหลลงสู่ทะเลอาราบาห์ ทะเลเกลือได้ถูกแยกออกอย่างสิ้นเชิง ประชาชนได้ข้ามแม่น้ำที่บริเวณตรงข้ามกับเยริโค พวกสมณะที่แบกหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้หยุดยืนบนพื้นดินแห้งกลางแม่น้ำจอร์แดน ขณะที่ชาวอิสราเอลได้ข้ามแม่น้ำบนแผ่นดินแห้งจนกระทั่งชนทั้งชาติได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนจนครบทุกคน
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 18:21-19:1
เวลานั้น เปโตรเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือไม่” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าต้องยกโทษให้เจ็ดครั้ง แต่ต้องยกโทษให้เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง
อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ทรงประสงค์จะตรวจบัญชีหนี้สินของผู้รับใช้ ขณะที่ทรงเริ่มตรวจบัญชีนั้น มีผู้นำชายผู้หนึ่งเข้ามา ชายผู้นี้เป็นหนี้อยู่เป็นพันล้านบาท เขาไม่มีสิ่งใดจะชำระหนี้ได้ กษัตริย์จึงตรัสสั่งให้ขายทั้งตัวเขา บุตรภรรยาและทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ ผู้รับใช้กราบพระบาททูลอ้อนวอนว่า ‘ขอทรงพระกรุณาผลัดหนี้ไว้ก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้ทั้งหมด’ กษัตริย์ทรงสงสารจึงทรงปล่อยเขาไปและทรงยกหนี้ให้ ขณะที่ผู้รับใช้ออกไป ก็พบเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกันซึ่งเป็นหนี้เขาอยู่ไม่กี่พันบาท เขาเข้าไปคว้าคอบีบไว้แน่น พูดว่า ‘เจ้าเป็นหนี้ข้าอยู่เท่าไร จงจ่ายให้หมด’
เพื่อนคนนั้นคุกเข่าลงอ้อนวอนว่า ‘กรุณาผลัดหนี้ไว้ก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้’ แต่เขาไม่ยอมฟัง นำลูกหนี้ไปขังไว้จนกว่าจะชำระหนี้ให้หมด เพื่อนผู้รับใช้อื่น ๆ เห็นดังนั้นต่างสลดใจมาก จึงนำความทั้งหมดไปทูลกษัตริย์ พระองค์จึงทรงเรียกชายผู้นั้นมา ตรัสว่า ‘เจ้าคนสารเลว ข้ายกหนี้สินของเจ้าทั้งหมดเพราะเจ้าขอร้อง เจ้าต้องเมตตาเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกัน เหมือนกับที่ข้าได้เมตตาเจ้ามิใช่หรือ’ กษัตริย์กริ้วมาก ตรัสสั่งให้นำผู้รับใช้นั้นไปทรมานจนกว่าจะชำระหนี้หมดสิ้น พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะทรงกระทำต่อท่านทำนองเดียวกัน ถ้าท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจจริง”
เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสเรื่องนี้จบแล้ว จึงเสด็จออกจากแคว้นกาลิลีเข้าไปในแคว้นยูเดีย อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน
ข้อคิด
“หนี้พันล้านบาท” กับ “หนี้ไม่กี่พันบาท” นำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย แต่กระนั้น หนี้พันล้านบาทยังเป็นหนี้ที่สามารถยกให้ได้ เรื่องนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นความเมตตายิ่งใหญ่มากของพระเจ้าต่อมนุษย์คนบาปแล้ว ยังบ่งบอกถึงความหนักหนาสาหัสของบาปผิดที่มนุษย์กระทำต่อพระพักตร์พระเจ้าด้วย ที่เราควรต้องสำนึกผิดและหลีกเลี่ยงเสมอ นอกจากนี้ ยังสอนเราด้วยว่า หากเรายังไม่สามารถยกหนี้ไม่กี่พันบาท เราจะไปยกหนี้พันล้านบาทได้อย่างไร เราจึงต้องฝึกจิตที่จะให้อภัยต่อความผิดเล็กๆน้อยๆของเพื่อนมนุษย์ในแต่ละวันจนเป็นนิสัย จนกลายเป็นฤทธิ์กุศลก็ว่าได้ การให้อภัยเรียกร้องความสุภาพ และต่อสู้กับความจองหองของเรา นักบุญออกัสตินเตือนใจว่า “เป็นความจองหองที่เปลี่ยนเทวดาเป็นปีศาจ แต่เป็นความสุภาพที่ทำให้มนุษย์เป็นเหมือนเทวดา” นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตาสอนว่า “ถ้าเราต้องการจริงๆที่จะรัก เราต้องเรียนรู้วิธีที่จะให้อภัย” ฉะนั้น เราจงฝึกหัดการให้อภัยในแต่ละวัน