วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2021 ฉลองนักบุญมารีย์ ชาวมักดาลา
- รายละเอียด
- หมวด: กรกฎาคม 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 838
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง 2 คร 5:14-17
พี่น้อง เพราะความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเรา เราแน่ใจว่า ถ้าคนหนึ่งตายเพื่อทุกคน ก็เหมือนกับว่าทุกคนได้ตายด้วย พระองค์สิ้นพระชนม์แทนทุกคน เพื่อผู้ที่มีชีวิตจะได้ไม่มีชีวิตเพื่อตนเองอีกต่อไป แต่มีชีวิตเพื่อพระองค์ผู้ได้สิ้นพระชนม์ และทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อเขา
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราจะไม่พิจารณาผู้ใดตามมาตรฐานมนุษย์อีก แม้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยพิจารณาพระคริสตเจ้าตามมาตรฐานมนุษย์ แต่บัดนี้เราไม่พิจารณาพระองค์ตามมาตรฐานนี้อีกต่อไป ดังนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่ สภาพเก่าผ่านพ้นไป สภาพใหม่เกิดขึ้นแล้ว
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 20:1,11-18
เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว
มารีย์ยังคงยืนร้องไห้อยู่นอกพระคูหา ขณะที่ร้องไห้นั้น นางก้มลงมองในพระคูหา ก็เห็นทูตสวรรค์สององค์สวมเสื้อขาวนั่งอยู่ตรงที่ที่เขาวางพระศพของพระเยซูเจ้าไว้ องค์หนึ่งนั่งอยู่ทางเบื้องพระเศียร อีกองค์หนึ่งนั่งอยู่ทางเบื้องพระบาท ทูตสวรรค์ทั้งสององค์ถามนางว่า “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม” นางตอบว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าของดิฉันไปแล้ว ดิฉันไม่รู้ว่า เขานำพระองค์ไปไว้ที่ใด” เมื่อตอบดังนี้แล้ว นางก็หันกลับมา และเห็นพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ที่นั่น แต่ไม่รู้ว่าเป็นพระเยซูเจ้า
พระองค์ตรัสถามนางว่า “นางเอ๋ย ร้องไห้ทำไม กำลังเสาะหาผู้ใด” นางคิดว่าพระองค์เป็นคนสวน จึงตอบว่า “นายเจ้าขา ถ้าท่านนำพระองค์ไป ช่วยบอกดิฉันว่าท่านนำพระองค์ไปไว้ที่ไหน ดิฉันจะได้ไปนำพระองค์กลับมา”
พระเยซูเจ้าตรัสเรียกนางว่า “มารีย์” นางจึงหันไปทูลพระองค์เป็นภาษาฮีบรูว่า “รับโบนี ซึ่งแปลว่า พระอาจารย์”
พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้เลย เพราะเรายังไม่ได้ขึ้นไปเฝ้าพระบิดา แต่จงไปหาพี่น้องของเรา และบอกเขาว่า เรากำลังขึ้นไปเฝ้าพระบิดาของเรา และพระบิดาของท่านทั้งหลาย ไปเฝ้าพระเจ้าของเรา และพระเจ้าของท่านทั้งหลาย” มารีย์ ชาวมักดาลาจึงไปแจ้งข่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ดิฉันได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” และเล่าเรื่องที่พระองค์ตรัสกับนาง
ข้อคิด
นักบุญยอห์นบอกว่ามารีย์ชาวมักดาลาออกไปยังพระคูหาตอนยังมืด แต่ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว ดูแล้วจะขัดแย้งกัน ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ยอห์นต้องการจะบอกถึงจิตใจของมารีย์ในตอนที่ไปยังพระคูหา จิตใจของเธอยังอยู่ในความมืด เธอยังไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าจะทรงกลับคืนชีพ ความตั้งใจของเธอจึงไปเพื่อทำสิ่งที่พึงทำสำหรับศพของพระอาจารย์ที่มีการนำไปไว้ในคูหาด้วยความรีบเร่ง เธอจึงไปที่พระคูหาเพื่อพบคนตาย ไม่ได้ไปเพื่อพบคนเป็น เธอรู้สึกผิดหวังและเสียใจที่ไม่ได้พบพระศพ ซึ่งแทนที่เธอจะถือว่านั่นเป็นการยืนว่าสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ได้เป็นความจริงแล้ว จนกระทั่งพระองค์ทรงเรียกชื่อเธอ พระองค์ยังทรงเรียกชื่อเราแต่ละคนทุกครั้งที่เราดำเนินชีวิตราวกับพระองค์ยังตายอยู่