วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2021 ระลึกถึง น.โยอากิม และ น.อันนา บิดามารดาของพระนางมารีย์พรหมจารี
- รายละเอียด
- หมวด: กรกฎาคม 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 670
บทอ่านจากหนังสืออพยพ อพย 32:15-24,30-34
ในครั้งนั้น โมเสสกลับลงมาจากภูเขาถือแผ่นศิลาจารึกสองแผ่นที่จารึกพระบัญญัติไว้ทั้งสองด้าน คือด้านหน้าและด้านหลัง ศิลาจารึกนั้นเป็นฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า ตัวอักษรที่จารึกนั้นเป็นตัวอักษรที่พระเจ้าทรงจารึกลงบนแผ่นศิลา
โยชูวาได้ยินเสียงประชากรร้องตะโกน ก็บอกโมเสสว่า “มีเสียงรบกันดังมาจากค่าย” โมเสสตอบว่า “นั่นไม่ใช่เสียงร้องของผู้ชนะ ไม่ใช่เสียงคร่ำครวญของผู้แพ้ แต่ข้าพเจ้าได้ยินเสียงเพลงฉลอง”
เมื่อโมเสสเข้ามาใกล้ค่าย เขาก็เห็นรูปลูกโคและเห็นประชากรกำลังเต้นรำ โมเสสโกรธมาก ทุ่มแผ่นศิลาที่ถืออยู่ลงไปจนแตกที่เชิงเขา เขาเอารูปลูกโคที่ประชาชนหล่อมาเผา แล้วบดเป็นผงละเอียด โปรยลงในน้ำและบังคับให้ชาวอิสราเอลดื่มน้ำนั้น โมเสสถามอาโรนว่า “ประชาชนเหล่านี้ทำอะไรท่าน ท่านจึงทำให้เขาทำบาปหนักเช่นนี้” อาโรนตอบว่า “ขอเจ้านายอย่าได้โกรธข้าพเจ้าเลย ท่านรู้แล้วว่า ประชากรนี้มีความโน้มเอียงจะทำชั่วอยู่เสมอ” เขาบอกข้าพเจ้าว่า “จงสร้างเทวรูปให้เราสักองค์หนึ่ง เพื่อเป็นผู้นำทางพวกเราเถิด เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโมเสสคนนั้น ผู้ที่นำเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์” ข้าพเจ้าจึงบอกเขาว่า “ใครมีทองคำบ้าง” คนที่มีทองคำเป็นเครื่องประดับ ก็ถอดมาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเอาทองหลอมในไฟ ก็ได้ลูกโคตัวนี้ออกมา”
วันรุ่งขึ้น โมเสสกล่าวแก่ประชากรว่า “ท่านทั้งหลายได้ทำบาปหนักมาก บัดนี้ข้าพเจ้าจะขึ้นไปเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า บางทีคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าจะทำให้พระองค์ทรงอภัยบาปของท่าน” โมเสสกลับขึ้นไปเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ทูลว่า “ประชากรนี้ได้ทำบาปหนักมาก เขาได้เอาทองคำมาสร้างเทวรูป บัดนี้ ขอพระองค์ทรงอภัยบาปให้เขาทั้งหลายเถิด มิฉะนั้นขอทรงลบชื่อของข้าพเจ้าออกจากหนังสือที่พระองค์ทรงเขียนไว้เถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่โมเสสว่า “คนที่ทำบาปต่อเราต่างหาก ที่เราจะลบชื่อของเขาออกจากหนังสือของเรา บัดนี้ ท่านจงไปนำประชากรไปยังสถานที่ที่เราสั่งท่านเถิด ทูตสวรรค์ของเราจะนำหน้าท่าน แต่เมื่อถึงเวลากำหนด เราจะลงโทษเขาทั้งหลายที่ทำบาป”
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 13:31-35
เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับเมล็ดมัสตาร์ดซึ่งมีผู้นำไปหว่านในนา และเป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล็ดทั้งหลาย แต่เมื่อเมล็ดงอกขึ้นเป็นต้นแล้ว กลับมีขนาดโตกว่าต้นผักอื่น ๆ และกลายเป็นต้นไม้ จนกระทั่งนกในอากาศมาทำรังอาศัยบนกิ่งได้”
พระองค์ยังตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้กับเชื้อแป้งที่หญิงคนหนึ่งนำมาเคล้าผสมกับแป้งสามถัง จนแป้งทั้งหมดฟูขึ้น”
พระเยซูเจ้าตรัสเรื่องทั้งหมดนี้แก่ประชาชนเป็นอุปมา พระองค์ไม่ตรัสสิ่งใดกับเขาโดยไม่ใช้อุปมา ทั้งนี้ เพื่อให้พระดำรัสที่ตรัสไว้ทางประกาศกเป็นความจริงว่า
“เราจะเปิดปากกล่าวเป็นอุปมา
เราจะกล่าวเรื่องที่ยังไม่เคยเปิดเผยตั้งแต่สร้างโลก”
ข้อคิด
อาณาจักรสวรรค์ไม่เหมือนอาณาจักรทั้งหลายในโลก เป็นอาณาจักรที่ไม่มีพื้นที่ขอบเขต เป็นอาณาจักรด้านจิตใจที่มีข่าวดีของพระเจ้าเป็นหลัก ทุกครั้งที่เราให้ข่าวดีของพระเจ้าเป็นใหญ่ในชีวิตและส่งผลไปถึงการดำเนินชีวิตแต่ละวันและการกระทำ เมื่อนั้นเราอยู่ในพระอาณาจักรสวรรค์ ทุกครั้งที่เราให้ความรักเป็นใหญ่ในชีวิตและสะท้อนความรักออกมาในท่าทีและการแสดงออกในความสัมพันธ์ เมื่อนั้นเราอยู่ในพระอาณาจักรสวรรค์ ข่าวดีที่พระเยซูเจ้าทรงประกาศ ไม่ใช่เป็นข่าวใหญ่ที่คนพาตื่นเต้นกันฮือฮา หากแต่เป็นข่าวดีของการดำเนินชีวิตในความรักของพระเจ้าและในความรักต่อกันและกันที่แทรกซึมเข้าในทุกอณูแห่งชีวิตกลายเป็นพลวัตขับเคลื่อนทำเกิดการเติบโตและกลายเป็นศักยภาพไปรอบด้าน