วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต
- รายละเอียด
- หมวด: กุมภาพันธ์ 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 858
บทอ่านจากหนังสือเอสเธอร์ อสธ 4:17K-17M,17R-17U
พระราชินีเอสเธอร์ทรงเป็นทุกข์แทบจะสิ้นพระชนม์ จึงทรงแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พระนางทรงเปลื้องฉลองพระองค์ที่หรูหราออก แล้วทรงชุดไว้ทุกข์แสดงความโศกเศร้า ทรงโปรยขี้เถ้าและฝุ่นดินบนพระเศียรแทนเครื่องหอมมีค่า ไม่สนพระทัยที่จะประดับพระกายให้งดงามอย่างที่เคย แต่ทรงสยายพระเกศาให้ยุ่งเหยิง แล้วทรงอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระมหากษัตริย์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า โปรดทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าอยู่คนเดียว ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือข้าพเจ้านอกจากพระองค์เท่านั้น ข้าพเจ้าทำลังเผชิญอันตรายเสี่ยงชีวิต ตั้งแต่เป็นเด็ก ข้าพเจ้าเคยได้ยินจากบุคคลในครอบครัว เล่าว่าพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเลือกสรรชาวอิสราเอลจากชนชาติทั้งหลาย ทรงเลือกบรรพบุรุษของข้าพเจ้าจากบรรพบุรุษของเขา เป็นมรดกถาวรของพระองค์ พระองค์ทรงกระทำตามที่ทรงสัญญาไว้กับเขาทุกประการ
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงระลึกถึงข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด โปรดทรงสำแดงพระองค์ในเวลาที่ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความทุกข์ โปรดให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญเถิด ข้าแต่กษัตริย์ของบรรดาเทพเจ้า พระองค์ทรงพระอานุภาพเหนือผู้มีอำนาจทุกคน โปรดทรงใส่ถ้อยคำจูงใจไว้ในปากของข้าพเจ้า เมื่อต้องเผชิญกับสิงโต โปรดทรงเปลี่ยนใจของเขาให้เกลียดชังศัตรูที่ต่อสู้กับข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อเขากับพวกจะพินาศ โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นอันตรายด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ โปรดทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าอยู่คนเดียว ไม่มีผู้ใดช่วยเหลือนอกจากพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงรอบรู้ทุกอย่าง ทรงทราบว่าข้าพเจ้าชังเกียรติยศจากคนอธรรม และรังเกียจการร่วมเตียงกับผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตและคนต่างชาติ”
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 7:7-12
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ ท่านใดที่ลูกขออาหารแล้ว จะให้ก้อนหิน ถ้าลูกขอปลาท่านจะให้งูหรือ แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่ว ยังรู้จักให้ของดีๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานของดีๆ แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ
ท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด นี่คือธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศก”
ข้อคิด
ฤทธิ์เดชของคำภาวนาพระศาสนจักรให้เราอ่านบทอ่านจากหนังสือเอสเธอร์ เพื่อดูความเชื่อของพระราชินีชาวยิว ที่ภาวนาขอพระเจ้าดังนี้ “ข้าแต่พระเจ้า โปรดระลึกถึงลูกทั้งหลายเถิดโปรดทรงสำแดงพระองค์ในเวลาที่พวกลูกทั้งหลายมีความทุกข์ โปรดให้พวกลูกมีความกล้าหาญเถิด โปรดช่วยให้ลูกทั้งหลายให้รอดพ้นอันตรายด้วยพระหัตถ์ของพระองค์...” ทั้งนี้ เพราะในขณะนั้นข้าราชบริพารในวังชื่อฮานัน ร่วมกับผู้กบฎต้องการสังหารชาวยิวทั้งหมดในเวลานั้น แต่แล้ว เพราะคำภาวนาของเอสเธอร์ แผนการทั้งหมดของพวกเขาล้มเหลว บรรดากบฏทั้งหมดถูกประหารชีวิต แต่ชาวยิวไม่ถูกประหารชีวิตเลย
พระเยซูเจ้าตรัสเรื่องคำภาวนาว่า เมื่อเราพูดกับพระเจ้า พระองค์ฟังทุกถ้อยคำ และโปรดประทานพระพรที่บางครั้งเราไม่ได้ขอ แต่พระองค์เห็นว่าจำเป็นจึงประทานให้ เราท่านน่าจะยกมือท่วมหัวและขอบพระคุณพระองค์ด้วยจริงใจ