มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                  ฮบ 11:32-40
     พี่น้อง ข้าพเจ้ายังจะต้องพูดอะไรอีกหรือ ข้าพเจ้าไม่มีเวลาจะเล่าเรื่องกิเดโอน บาราค แซมสัน เยฟธาห์ ดาวิด ซามูเอลและบรรดาประกาศก เพราะความเชื่อ เขาเหล่านี้จึงพิชิตอาณาจักร ปฏิบัติความยุติธรรม ได้รับพระสัญญา ปิดปากสิงโต ดับไฟร้อนแรง พ้นจากคมดาบ ได้รับพละกำลังพ้นจากความอ่อนแอ กลายเป็นผู้เข้มแข็งในสงครามและขับไล่กองทัพต่างชาติให้พ่ายไป หญิงบางคนได้รับผู้ตายของตนที่กลับคืนชีพ บางคนถูกทรมานจนตาย ไม่ยอมรับการปลดปล่อย เพื่อจะกลับคืนชีพมารับชีวิตที่ดีกว่า บางคนถูกสบประมาท ถูกโบยตีและยังถูกล่ามโซ่จำคุกอีกด้วย เขาถูกหินทุ่ม ถูกเลื่อยเป็นสองส่วน ตายด้วยคมดาบ บางคนนุ่งห่มหนังแกะหนังแพะร่อนเร่ไป ขัดสน ได้รับความยากลำบาก ถูกข่มเหง โลกนี้ไม่เหมาะกับเขาเหล่านี้ พวกเขาระหกระเหินไปในถิ่นทุรกันดาร ตามภูเขา ในถ้ำและตามโพรง คนเหล่านี้ทุกคน แม้ว่าพระเจ้าทรงยกย่องเขาเพราะความเชื่อแล้ว เขาก็ยังมิได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้ พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีกว่าไว้ให้เรา เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้รับความดีบริบูรณ์พร้อมกับพวกเรานั่นเอง

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                           มก 5:1-20
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ข้ามทะเลสาบมาถึงดินแดนของชาวเกราซา ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ชายคนหนึ่งซึ่งถูกปีศาจสิงออกมาจากบริเวณหลุมศพ เข้ามาเฝ้าพระองค์ทันที ชายคนนี้อาศัยอยู่ตามหลุมศพ ไม่มีใครล่ามเขาไว้ได้ แม้จะใช้โซ่ล่ามก็ตาม มีผู้ใช้โซ่ตรวนล่ามเขาหลายครั้ง เขาก็หักโซ่ตรวน ไม่มีใครทำให้เขาสยบได้ เขาอยู่ตามหลุมศพและตามภูเขาตลอดวันตลอดคืน ส่งเสียงร้องเอ็ดอึงและใช้หินทุบตีตนเอง เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าแต่ไกล เขาก็วิ่งเข้ามากราบเฉพาะพระพักตร์ ร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่พระเยซูบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านมายุ่งเกี่ยวกับข้าพเจ้าทำไม ข้าพเจ้าวอนขอท่านในพระนามของพระเจ้า อย่าทรมานข้าพเจ้าเลย” ทั้งนี้เพราะพระเยซูเจ้าตรัสสั่งปีศาจว่า “เจ้าปีศาจ จงออกจากชายผู้นี้” แล้วพระองค์ทรงถามว่า “เจ้าชื่ออะไร” มันตอบว่า “ชื่อกองพล เพราะเราอยู่กันจำนวนมาก” และมันพร่ำวอนพระองค์มิให้ขับไล่มันออกจากบริเวณนั้น หมูฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่บนเนินเขาที่นั่น พวกปีศาจจึงอ้อนวอนพระองค์ว่า “ขอได้โปรดส่งพวกเราเข้าไปในหมูฝูงนั้นเถิด” พระองค์ก็ทรงอนุญาต พวกปีศาจจึงออกไปสิงอยู่ในร่างหมู หมูฝูงนั้นซึ่งมีประมาณสองพันตัวก็พากันวิ่งกระโจนจากหน้าผาลงไปในทะเลสาบ และจมน้ำตายทั้งหมด คนเลี้ยงหมูต่างวิ่งหนีไปเล่าเรื่องนี้ตามเมืองและตามชนบท ประชาชนออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้า ก็แลเห็นคนที่เคยถูกปีศาจกองพลสิงนั่งอยู่ สวมเสื้อผ้า มีสติดี พวกเขาต่างมีความกลัว ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกปีศาจสิงและเล่าเรื่องหมูให้ฟัง ประชาชนจึงขอร้องพระเยซูเจ้าให้เสด็จออกไปจากเขตแดนของเขา เมื่อพระองค์เสด็จลงเรือ ผู้ที่เคยถูกปีศาจสิงขออนุญาตตามเสด็จด้วย แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่า “จงกลับบ้าน ไปหาญาติพี่น้องของท่าน เล่าให้เขาฟังถึงเหตุการณ์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำและแสดงพระเมตตาต่อท่าน” ชายนั้นจากไป เริ่มประกาศในแคว้นทศบุรีถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำต่อตน ทุกคนที่ได้ฟังต่างประหลาดใจ


ข้อคิด
     ด้วย“ความเชื่อ” เราจะเป็นอิสระจากการครอบครองของปีศาจทั้งกองพล เพราะ “ความเชื่อ” เราจะผ่านพ้นอุปสรรคและการประจญต่างๆ จนบรรลุถึงสิ่งที่พระเป็นเจ้าทรงสัญญาและจัดเตรียมไว้ให้ในความดีอันบริบูรณ์ร่วมกับบรรดาประกาศกและบรรพชน “จงชื่นชมยินดีเถิดเพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก บรรดาประกาศกก่อนหน้าท่านก็เคยถูกเบียดเบียนเช่นเดียวกัน” (มธ 5:12)​

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 ฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                   ฮบ 2:14-18
     บุตรทุกคนมีเลือดเนื้อร่วมกันฉันใด พระองค์ก็ทรงมีเลือดเนื้อร่วมกับมนุษย์ทุกคนด้วยฉันนั้น เพื่อว่าโดยการสิ้นพระชนม์ พระองค์จะทรงทำลายมารผู้มีอำนาจเหนือความตายลงได้ เพื่อทรงปลดปล่อยผู้ตกเป็นทาสอยู่ตลอดชีวิตเพราะความกลัวตายให้เป็นอิสระได้ โดยแท้จริงแล้ว พระองค์มิได้เอาพระทัยใส่บรรดาทูตสวรรค์ แต่เอาพระทัยใส่ต่อเชื้อสายของอับราฮัม จึงจำเป็นที่พระองค์จะต้องทรงเป็นเหมือนกับบรรดาพี่น้องทุกประการ เพื่อพระองค์จะทรงเป็นมหาสมณะที่เพียบพร้อมด้วยพระกรุณาและทรงน่าเชื่อถือในการติดต่อกับพระเจ้า ไถ่โทษชดเชยบาปของประชากรได้ ในฐานะที่พระองค์ทรงรับการทรมานและทรงผ่านการผจญมาแล้ว พระองค์จึงทรงช่วยเหลือผู้ที่ถูกผจญได้ด้วย

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                  ลก 2:22-32
     เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทิน ตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่พระเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่หรือนกพิราบสองตัวตามที่มีกำหนดไว้ในธรรมบัญญัติของพระเจ้า เวลานั้น ที่กรุงเยรูซาเล็ม ชายผู้หนึ่งชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เขารอคอยความรอดพ้นของอิสราเอล พระจิตเจ้าสถิตอยู่กับเขา และทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารเข้ามาปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้าว่า
     “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์”

 

ข้อคิด
     พระเยซูคริสตเจ้าทรงผ่านการผจญ ทรงรับทนทรมานจนถึงการสิ้นพระชนม์ด้วยเลือดเนื้อเช่นมนุษย์ ร่วมกับมนุษย์ทุกคน..เพื่อชดเชยบาปและปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความตาย ทรงช่วยเราให้รอดพ้น ทรงเป็นแสงสว่างและเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับนานาประชาชาติ...ด้วยพระกรุณาพระองค์ทรงปลดปล่อยเราให้เป็นสุข.. “ผู้มีใจยากจนย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา” (มธ 5:3)

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                   ฮบ 12:18-19,21-24
      พี่น้อง ท่านทั้งหลายมิได้เข้าใกล้สิ่งที่ประสาทสัมผัสได้ หรือสิ่งที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง หรือสิ่งที่มีความมืดมัวและมืดมิดหรือพายุ หรือเสียงแตรหรือพระสุรเสียง ซึ่งทำให้ทุกคนที่ได้ยินพากันร้องขอให้ยุติ ภาพที่เห็นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก จนโมเสสถึงกับพูดว่า “ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น” แต่ท่านเข้ามาถึง ภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าผู้ทรงชีวิต คือ นครเยรูซาเล็มในสวรรค์ ซึ่งมีทูตสวรรค์เหลือคณานับ ท่านเข้ามาถึงที่ชุมนุมฉลองชัยและมาถึงชุมนุมของบุตรคนแรกที่ได้รับการลงชื่อไว้ในสวรรค์แล้ว มาถึงองค์พระเจ้า พระตุลาการของมนุษย์ทุกคน ร่วมกับบรรดาจิตของผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว และยังเข้ามาถึงองค์พระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                            มก 6:7-13
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จไปทรงสั่งสอนตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในบริเวณนั้น ทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามาพบ และทรงเริ่มส่งเขาเป็นคู่ ๆ ประทานอำนาจเหนือปีศาจ ทรงกำชับเขามิให้นำสิ่งใดไปด้วย นอกจากไม้เท้าเท่านั้น ไม่ให้มีอาหาร ไม่ให้มีย่าม ไม่ให้มีเศษเงินใส่ไถ้ ให้สวมรองเท้าได้ แต่ไมให้เอาเสื้อสำรองไปด้วย พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ถ้าท่านเข้าไปในบ้านใด จงพักอยู่ที่นั่นจนกว่าจะออกเดินทางต่อไป ถ้าที่ใดไม่ต้อนรับท่าน หรือไม่ฟังท่าน จงออกจากที่นั่น พลางสลัดฝุ่นจากเท้าไว้เป็นพยานปรักปรำเขา” บรรดาอัครสาวกจึงไปเทศน์สอนคนทั้งหลายให้กลับใจ ขับไล่ปีศาจจำนวนมาก เจิมน้ำมันผู้เจ็บป่วยหลายคน และรักษาเขาให้หายจากโรคภัย

 

ข้อคิด
      เงื่อนไขและพันธะผูกมัดทางกายประการต่างๆ รวมทั้งตัวตน อัตตา ของเรา เป็นอุปสรรคในการติดตามพระคริสตเจ้า ดังนั้นเราจึงต้องปลดวางเงื่อนไข ต้องทำงานร่วมกัน เสริมสร้างกันและกันในกิจการดีนานา ร่วมกับจิตของบรรดาผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว เพื่อการเข้าถึงองค์พระเยซูเจ้าและการติดตามพระองค์

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2021 น.บลาซีโอ พระสังฆราชและมรณสักขี น.อันสการ์ พระสังฆราช

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                  ฮบ 12:4-7,11-15
     พี่น้อง ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนของพระเจ้า อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย
     เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
     จงพยายามอยู่อย่างสันติกับทุกคน จงมีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจำเป็นเพื่อจะได้เห็นพระเจ้า จงระวังอย่าให้มีผู้ใดขาดพระหรรษทานของพระเจ้า และอย่าให้มีรากแห่งความขมขื่นใด ๆ งอกขึ้นมาก่อความวุ่นวายซึ่งอาจจะเป็นพิษแก่คนจำนวนมาก

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                           มก 6:1-6
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นกลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ บรรดาศิษย์ติดตามไปด้วย ครั้นถึงวันสับบาโตพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในศาลาธรรม ผู้ฟังมากมายต่างประหลาดใจ และพูดว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน ปรีชาญาณที่เขาได้รับมานี้คืออะไร อะไรคืออัศจรรย์ที่สำเร็จด้วยมือของเขา คนนี้เป็นช่างไม้ ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ โยเสท ยูดาและซีโมนไม่ใช่หรือ พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” คนเหล่านั้นรู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ นอกจากทรงปกพระหัตถ์รักษาผู้เจ็บป่วยบางคนให้หายจากโรคภัย พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ

 

ข้อคิด
     เพื่อต่อสู้กับบาป เราต้องอดทนฝึกฝนตนเอง อ่อนน้อมยอมรับบทเรียน การทดลอง การเฆี่ยนตีสั่งสอนจากพระเจ้าในฐานะบุตร เพื่อพระหรรษทานที่จะเสริมกำลังของเราให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงในหนทางของพระองค์ “ที่ใดบาปทวีขึ้น ที่นั่นพระหรรษทานก็ยิ่งทวีขึ้นมากกว่า” (รม 5:20) “พระหรรษทานของเราเพียงพอสำหรับท่าน เพราะพระอานุภาพแสดงออกเต็มที่เมื่อมนุษย์มีความอ่อนแอ” (2คร 12:9)

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021 ระลึกถึง น.อากาทา พรหมจารีและมรณสักขี

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                    ฮบ 13:1-8
     พี่น้อง ท่านทั้งหลายจงรักกันฉันพี่น้องต่อไป อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะเมื่อต้อนรับแขกแปลกหน้า บางคนได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว จงระลึกถึงผู้ที่ถูกจองจำประหนึ่งว่าท่านกำลังถูกจองจำร่วมกับเขาด้วย จงระลึกถึงผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะท่านก็มีร่างกายเช่นเดียวกัน จงให้การสมรสเป็นที่นับถือจากทุกคน สามีภรรยาจงซื่อสัตย์ต่อกัน เพราะพระเจ้าจะทรงตัดสินลงโทษผู้ผิดประเวณีและผู้เป็นชู้ อย่าให้ความโลภทรัพย์สินเงินทองครอบงำชีวิตของท่าน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมี พระเจ้าตรัสว่า “เราจะไม่ละเลยหรือทอดทิ้งเจ้า” โดยเหตุนี้ เราจึงพูดด้วยความมั่นใจได้ว่า “พระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้”
     จงระลึกถึงผู้นำของท่าน ซึ่งประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้กับท่าน จงพิจารณาว่าเขาเหล่านั้นดำเนินชีวิตและตายอย่างไร จงประพฤติตามอย่างความเชื่อของเขา พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นองค์เดียวเสมอ ทั้งอดีต ปัจจุบันและตลอดไป

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                              มก 6:14-29
     เวลานั้น กษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า เพราะพระนามของพระเยซูเจ้าเลื่องลือไป บางคนพูดว่า “ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างได้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว ดังนั้นเขาจึงมีอำนาจทำอัศจรรย์ได้” บางคนพูดว่า “เขาคือเอลียาห์” บางคนก็พูดว่า “เขาเป็นประกาศกคนหนึ่งเหมือนกับประกาศกคนอื่น” แต่เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเช่นนี้ ก็ตรัสว่า “ยอห์นคนที่เราให้ตัดศีรษะ ได้กลับคืนชีพมาอีก”
     กษัตริย์เฮโรดองค์นี้ทรงสั่งให้จับกุมยอห์น และล่ามโซ่ขังคุกไว้ เพราะเรื่องของนางเฮโรเดียส ภรรยาของฟีลิปพระอนุชา ซึ่งกษัตริย์เฮโรดทรงรับมาเป็นมเหสี ยอห์นเคยทูลกษัตริย์เฮโรดว่า “ไม่ถูกต้องที่พระองค์ทรงรับภรรยาของน้องชายมาเป็นมเหสี” นางเฮโรเดียสจึงโกรธแค้นและปรารถนาจะฆ่ายอห์นเสีย แต่ฆ่าไม่ได้ เพราะกษัตริย์เฮโรดยังทรงเกรงยอห์นอยู่ ทรงทราบว่ายอห์นเป็นคนชอบธรรมและศักดิ์สิทธิ์ จึงทรงป้องกันไว้ เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงฟังคำพูดของยอห์น ทรงรู้สึกสับสน แต่ก็ทรงยินดีที่จะฟัง
นางเฮโรเดียสได้โอกาสเมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงจัดให้มีงานเลี้ยงขุนนางกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่และคนสำคัญในแคว้นกาลิลีในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ บุตรหญิงของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำเป็นที่พอพระทัยของกษัตริย์เฮโรด และเป็นที่พอใจของผู้รับเชิญ กษัตริย์จึงตรัสกับหญิงคนนั้นว่า “ท่านอยากได้อะไรก็ขอมาเถิด เราจะให้” และยังทรงสาบานอีกว่า “ท่านขออะไรเราก็จะให้ แม้จะเป็นครึ่งหนึ่งของอาณาจักรของเราก็ตาม” หญิงสาวจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี” มารดาตอบว่า “จงขอศีรษะของยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง” หญิงสาวจึงรีบกลับมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “หม่อมฉันขอศีรษะของยอห์นผู้ทำพิธีล้างใส่ถาดมาให้เดี๋ยวนี้” กษัตริย์ทรงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แต่เพราะได้ทรงสาบานไว้ และเพราะทรงเห็นแก่ผู้รับเชิญ ไม่ทรงปรารถนาจะขัดใจหญิงสาว จึงทรงสั่งเพชฌฆาตไปตัดศีรษะของยอห์นมาทันที เพชฌฆาตไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก ใส่ถาดนำมาให้หญิงสาว หญิงสาวจึงนำไปให้มารดา เมื่อบรรดาศิษย์ของยอห์นรู้เรื่อง จึงมารับศพของยอห์น นำไปฝังไว้ในคูหา

 

ข้อคิด
     “ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรมย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา” (มธ 5:10) ยอห์นถูกเบียดเบียนเพราะความชอบธรรม เราจงระลึกถึงการประกาศพระวาจาของท่าน ประพฤติตามอย่างความเชื่อของท่าน เตรียมทางสำหรับพระเยซูคริสตเจ้าองค์เดียวเสมอทั้งอดีต ปัจจุบัน และตลอดไป เช่นเดียวกันกับท่าน

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown