มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2021 แม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                        ปฐก 2:18-25
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มนุษย์อยู่เพียงคนเดียวนั้น ไม่ดีเลย เราจะสร้างผู้ช่วยที่เหมาะกับเขาให้” องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงเอาดินมาปั้นสัตว์ป่าทุกชนิดและนกทุกชนิดในท้องฟ้า ทรงนำสัตว์เหล่านี้มาให้มนุษย์ เพื่อดูว่าเขาจะตั้งชื่อมันว่าอย่างไร สัตว์แต่ละตัวจะมีชื่อตามที่มนุษย์ตั้งให้ มนุษย์จึงตั้งชื่อให้สัตว์เลี้ยง นกในอากาศ และสัตว์ป่าทั้งหมด แต่มนุษย์ยังไม่พบผู้ช่วยที่เหมาะกับตน
ดังนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้มนุษย์หลับสนิท และขณะที่เขากำลังนอนหลับ ก็ทรงเอากระดูกซี่โครงของเขาออกมาหนึ่งซี่ และทรงบันดาลให้เนื้อปิดสนิท องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเอาซี่โครงนั้นมาสร้างหญิง แล้วทรงนำมาให้มนุษย์ มนุษย์จึงพูดว่า “นี่คือกระดูกจากกระดูกของฉัน และเนื้อจากเนื้อของฉัน นางจะมีชื่อว่าหญิง เพราะนางมาจากชาย” เพราะฉะนั้น ชายจะละบิดามารดาของตนไปผูกพันกับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน
เขาทั้งสองคือมนุษย์และภรรยาต่างเปลือยกายอยู่ แต่ไม่อายกัน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                           มก 7:24-30
     เวลานั้น พระองค์เสด็จออกจากที่นั่น เข้าไปในเขตเมืองไทระและเสด็จเข้าในบ้านหลังหนึ่ง ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ แต่ทรงซ่อนพระองค์ไม่ได้ ทันใดนั้น หญิงคนหนึ่งมีบุตรหญิงถูกปีศาจสิงได้ยินพูดถึงพระองค์ ก็มากราบพระบาท นางไม่ใช่ชาวยิวเป็นชาวซีโรฟีนีเซียโดยกำเนิด นางทูลอ้อนวอนพระองค์ให้ทรงขับไล่ปีศาจออกจากบุตรหญิง พระองค์ตรัสกับนางว่า “ให้ลูก ๆ กินอิ่มเสียก่อน เพราะไม่สมควรที่จะเอาอาหารของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” หญิงนั้นทูลตอบว่า “ถูกแล้ว พระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขที่อยู่ใต้โต๊ะก็ยังได้กินเศษอาหารของลูก ๆ” พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “เพราะถ้อยคำนี้ จงไปเถิด ปีศาจออกจากลูกสาวของเธอแล้ว” เมื่อกลับมาถึงบ้าน นางก็พบลูกนอนอยู่บนเตียง ปีศาจออกไปแล้ว

 

ข้อคิด
     ด้วยความรักของแม่คนหนึ่งทั้งที่เป็นคนต่างชาติไม่ใช่ชาวยิว นางแสวงหาพระเยซูเจ้าเพื่อกราบวิงวอนขอให้ทรงช่วยขับไล่ปีศาจที่สิงบุตรหญิงของนาง..แม้พระองค์จะทดลองใจด้วยคำพูดที่เจ็บช้ำน้ำใจ แต่นางก็ยังคงวิงวอนจนได้รับพระเมตตา..เราจึงควรเลียนแบบนาง..ภาวนาวิงวอนขอโดยไม่ถอดใจ..

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                       ปฐก 3:1-8
     งูเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์ที่สุดในบรรดาสัตว์ป่าที่ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง มันถามหญิงว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่าอย่ากินผลจากต้นไม้ใด ๆ ในสวนนี้” หญิงจึงตอบงูว่า “ผลของต้นไม้ต่าง ๆ ในสวนนี้ เรากินได้ แต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนเท่านั้น” พระเจ้าตรัสห้ามว่า “อย่ากินหรือแตะต้องเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องตาย” งูบอกกับหญิงว่า “ท่านจะไม่ตายดอก พระเจ้าทรงทราบว่า ท่านกินผลไม้นั้นวันใด ตาของท่านจะเปิดในวันนั้น ท่านจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือรู้ดีรู้ชั่ว” หญิงเห็นว่า ต้นไม้นั้นมีผลน่ากิน งดงามชวนมอง ทั้งยังน่าปรารถนาเพราะให้ปัญญา นางจึงเด็ดผลไม้มากิน แล้วยังให้สามีซึ่งอยู่กับนางกินด้วย เขาก็กิน ทันใดนั้น ตาของทั้งสองคนก็เปิดและเห็นว่าตนเปลือยกายอยู่ จึงเอาใบมะเดื่อมาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างไว้
      เย็นวันนั้นมนุษย์และภรรยา ได้ยินเสียง องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังทรงพระดำเนินในสวน จึงหลบไปซ่อนให้พ้นจากพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าในหมู่ต้นไม้ของสวน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                            มก 7:31-37
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากเขตเมืองไทระผ่านเมืองไซดอน ไปยังทะเลสาบกาลิลีกลางดินแดนทศบุรี มีผู้นำคนใบ้หูหนวกคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ ทูลขอร้องให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ พระองค์ทรงแยกคนใบ้หูหนวกคนนั้นไปจากกลุ่มชน ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ยอนหูของเขา ทรงใช้พระเขฬะแตะลิ้นของเขา ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ถอนพระทัย แล้วตรัสว่า “เอฟฟาธา” แปลว่า “จงเปิดเถิด” ทันใดนั้นหูของเขากลับได้ยิน สิ่งที่ขัดลิ้นอยู่ก็หลุด เขาพูดได้ชัดเจน พระเยซูเจ้าทรงห้ามประชาชนเหล่านั้นมิให้พูดเรื่องนี้กับผู้ใด แต่ยิ่งห้าม ก็ยิ่งเล่าลือกันมากขึ้น ต่างก็ประหลาดใจมาก กล่าวว่า “คนคนนี้ทำสิ่งใดดีทั้งนั้น เขาทำให้คนหูหนวกกลับได้ยิน และคนใบ้กลับพูดได้”

 

ข้อคิด
     พระเจ้าทรงสร้างชายและหญิงให้มาผูกพันช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการดำเนินชีวิตท่ามกลางสรรพสิ่งทรงสร้าง เมื่อมีชีวิตก็พบอุปสรรค ผจญการล่อลวง หากความปรารถนาภายในรุนแรงกว่าความนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า การพ่ายแพ้ต่อกลลวงของปีศาจจนต้องหลบซ่อนจากพระพักตร์ของพระเจ้าก็เกิดขึ้น..เราจึงต้องร้องทูลขอต่อพระเจ้า เพื่อโปรดประทานให้เราหลุดพ้นจากทุพพลภาพทางใจ

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือเลวีนิติ                                         ลนต 13:1-2,44-46
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่โมเสสและอาโรนว่า “ถ้าผู้ใดมีแผลที่ผิวหนัง เป็นฝี เป็นผื่น หรือพุพอง ซึ่งอาจลามเป็นโรคผิวหนังติดต่อได้ ให้นำผู้นั้นไปหาอาโรน หรือสมณะอื่นผู้สืบเชื้อสายจากเขา
     สมณะจะตรวจดูและถ้าเห็นว่ามีจุดแดงช้ำบนศีรษะที่ล้านแล้ว ลักษณะคล้ายกับโรคผิวหนังที่ติดต่อได้บนส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ผู้นั้นก็เป็นโรคผิวหนังติดต่อได้ มีมลทิน สมณะจะประกาศว่าเขามีมลทิน เพราะมีโรคผิวหนังติดต่อได้บนศีรษะ
ผู้ใดเป็นโรคผิวหนังติดต่อได้ ต้องสวมเสื้อผ้าขาดไม่โพกศีรษะและปิดหน้าส่วนล่าง ร้องตะโกนว่า “มีมลทิน มีมลทิน” เขาจะมีมลทินตลอด เวลาที่เป็นโรคผิวหนังติดต่อได้ และเพราะมีมลทิน เขาจะต้องแยกไปอยู่นอกค่าย

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง      1 คร 10:31-11:1
     พี่น้อง เมื่อท่านจะกินจะดื่มหรือจะทำอะไรก็ตาม จงกระทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด อย่าทำสิ่งใดให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก หรือชุมชนของพระเจ้า ข้าพเจ้าได้พยายามกระทำทุกสิ่งเพื่อเป็นที่พอใจของทุกคน มิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แต่เห็นแก่ประโยชน์ของทุกคน เพื่อเขาจะได้รับความรอดพ้น
จงยึดถือข้าพเจ้าเป็นแบบอย่างเหมือนกับที่ข้าพเจ้าได้ยึดถือพระคริสตเจ้าเป็นแบบอย่างเถิด

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                          มก 1:40-45
     เวลานั้น ผู้เป็นโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ คุกเข่าอ้อนวอนว่า ‘ถ้าพระองค์พอพระทัย พระองค์ย่อมสามารถรักษาข้าพเจ้าให้หายได้’ พระเยซูเจ้าทรงสงสารตื้นตันพระทัย จึงทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า ‘เราพอใจ จงหายเถิด! ทันใดนั้น โรคเรื้อนก็หายไป เขากลับเป็นปกติ พระเยซูเจ้าทรงให้เขาไปทันที ทรงกำชับอย่างแข็งขันว่า ‘ระวัง อย่าบอกอะไรให้ใครทราบเลย แต่จงไปแสดงตนแก่สมณะ และถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นหลักฐานแก่คนทั้งหลายว่าท่านหายจากโรคแล้ว’ แต่เมื่อชายผู้นั้นจากไป เขาก็ป่าวประกาศกระจายข่าวไปทั่ว จนพระองค์ไม่อาจเสด็จเข้าไปในเมืองได้อย่างเปิดเผยอีกต่อไป พระองค์จึงประทับอยู่นอกเมืองในที่เปลี่ยว ถึงกระนั้น ประชาชนจากทุกทิศก็ยังมาเฝ้าพระองค์

 

ข้อคิด
     ตามธรรมบัญญัติ บุคคลผู้เป็นโรคผิวหนังติดต่อได้จะต้องแยกตนออกจากสังคม ปิดคลุมศีรษะ และร้องว่าตนมีมลทิน เพื่อผู้อื่นทราบจะได้ไม่ต้องสัมผัสกัน..แต่ด้วยความสงสาร ตื้นตันใจ พระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัส รักษาคนโรคเรื้อนให้หาย ทรงปฏิบัติด้วยความรัก..เราจึงควรยึดพระคริสตเจ้าเป็นแบบอย่าง จะทำอะไรก็ตามจงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เพื่อประโยชน์ของทุกคนจะได้รับความรอดพ้น

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                       ปฐก 3:9-24
     องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกมนุษย์ ตรัสถามว่า “ท่านอยู่ไหน” มนุษย์ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวน ก็กลัวเพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ จึงได้ซ่อนตัว” พระองค์ตรัสถามว่า “ใครบอกท่านว่าท่านเปลือยกายอยู่ ท่านได้กินผลจากต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กินนั้นหรือ” มนุษย์ทูลตอบว่า “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพเจ้าได้ให้ผลจากต้นไม้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับหญิงว่า “ท่านทำอะไรไปนี่” หญิงทูลตอบว่า “งูหลอกลวงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน”
      องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสกับงูว่า “เพราะเจ้าทำเช่นนี้ เจ้าจงถูกสาปแช่ง ในบรรดาสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าทั้งปวง เจ้าจะต้องใช้ท้องเลื้อยไปตามพื้นดิน และกินฝุ่นเป็นอาหารทุกวันตลอดชีวิต เราจะทำให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของนางเป็นศัตรูกันด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และเจ้าจะกัดส้นเท้าของเขา”
      พระเจ้าตรัสกับหญิงว่า “เราจะเพิ่มความทุกข์ทรมานในการคลอดบุตรแก่ท่าน ท่านจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด ท่านจะใฝ่หาสามี แต่เขาจะเป็นนายเหนือท่าน”
      พระองค์ตรัสกับมนุษย์ว่า “เพราะท่านได้ฟังเสียงของภรรยา และกินผลจากต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กิน แผ่นดินจะถูกสาปแช่งเพราะท่าน ท่านจะต้องหากินจากแผ่นดินด้วยความทุกข์ยากทุกวันตลอดชีวิต แผ่นดินจะผลิตต้นหนามและกอหนาม และท่านจะกินพืชที่งอกในทุ่งนา ท่านจะมีอาหารกินก็ด้วยหยาดเหงื่อบนใบหน้า จนกว่าท่านจะกลับเป็นดินอีก เพราะท่านถูกปั้นมาจากดิน ท่านเป็นฝุ่นดิน และจะกลับไปเป็นฝุ่นดินอีก”
     มนุษย์เรียกภรรยาของตนว่า “เอวา” เพราะนางเป็นมารดาของผู้มีชีวิตทั้งหลาย องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าทรงเอาหนังสัตว์มาทำเสื้อให้มนุษย์และภรรยาสวมปกปิดกาย แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า “ดูซิ มนุษย์มารู้ดีรู้ชั่ว เหมือนเราผู้หนึ่งแล้ว บัดนี้อย่าปล่อยให้เขายื่นมือมาเด็ดผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินแล้วมีชีวิตตลอดไปด้วย” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขับไล่เขาออกจากสวนเอเดน ให้ออกไปเพาะปลูกในที่ดินซึ่งเขาถูกปั้นมา พระองค์ทรงขับไล่มนุษย์และทรงตั้งบรรดาเครูบผู้ถือดาบเพลิง ส่องแสงแปลบปลาบไว้ทางตะวันออกของสวนเอเดน เพื่อเฝ้าทางไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                            มก 8:1-10
     ครั้งนั้น ประชาชนมากมายชุมนุมกันอีก และไม่มีอะไรกิน พระองค์จึงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามา ตรัสกับเขาว่า “เราสงสารประชาชนเพราะเขาอยู่กับเรามาสามวันแล้ว และเวลานี้ไม่มีอะไรกิน ถ้าเราให้เขากลับบ้านโดยไม่ได้กินอะไร เขาจะหมดเรี่ยวแรงขณะเดินทาง เพราะมีหลายคนเดินทางมาจากที่ไกล” บรรดาศิษย์จึงทูลตอบว่า “ใครจะหาอาหารในที่เปลี่ยวเช่นนี้มาให้คนเหล่านี้กินจนอิ่มได้” พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อน” พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นดิน ทรงหยิบขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงบิขนมปัง ประทานให้บรรดาศิษย์ไปแจกจ่าย เขาก็แจกจ่ายขนมปังให้ประชาชน เขายังมีปลาตัวเล็ก ๆ อยู่บ้าง พระองค์ทรงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า ทรงสั่งให้แจกจ่ายปลาเช่นเดียวกัน ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า ผู้ที่กินขนมปังและปลามีประมาณสี่พันคน พระองค์ทรงส่งเขากลับไป แล้วพระองค์เสด็จลงเรือพร้อมกับบรรดาศิษย์ไปยังบริเวณเมืองดาลมานูธาทันที

 

ข้อคิด
     เมื่อไม่เชื่อฟัง..เราจึงต้องเหินห่างจากพระเจ้า ต้องถูกขับออกจากสถานรื่นรมย์ ต้องประสบกับยากลำบาก ทั้งชายและหญิงต่างต้องเผชิญความทุกข์ ความเจ็บปวดจากการดำเนินชีวิตในรูปแบบของตน..กระนั้นก็ดี พระเจ้ามิได้ทอดทิ้ง เฝ้าติดตาม ทรงสงสาร ทรงเลี้ยงดู ประทานอาหาร..ทรงยึดมั่นในพระสัญญา ทรงส่งพระบุตรมาเพื่อช่วยให้รอดพ้น

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2021 สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                       ปฐก 4:1-15,25
     มนุษย์มีเพศสัมพันธ์กับเอวา ภรรยาของตน นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดกาอิน เอวาพูดว่า “ดิฉันได้ลูกชายมาเดชะองค์พระผู้เป็นเจ้า” ต่อมานางก็ให้กำเนิดน้องชายของกาอินชื่ออาแบล อาแบลเป็นคนเลี้ยงแกะ ส่วนกาอินเป็นคนเพาะปลูก วันหนึ่ง กาอินนำผลที่เกิดจากแผ่นดินมาถวายเป็นบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนอาแบลนำแกะที่เกิดจากฝูงรุ่นแรกและไขมันแกะมาถวายด้วย องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยอาแบลและเครื่องบูชาของเขา แต่ไม่พอพระทัยกาอินและเครื่องบูชาของเขา กาอินโกรธมากหน้าตาบึ้งตึง องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามกาอินว่า “ท่านโกรธหน้าตาบึ้งตึงทำไม ถ้าท่านทำดี ท่านย่อมเงยหน้าขึ้นได้ แต่ถ้าท่านทำไม่ดี บาปกำลังหมอบอยู่ที่ประตู คอยตะครุบตัวท่าน แต่ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้” กาอินพูดกับอาแบลน้องชายว่า “เราจงไปในทุ่งนากันเถิด” ขณะที่ทั้งสองคนอยู่ในทุ่งนา กาอินก็ลงมือทำร้ายอาแบลน้องชายและฆ่าเสีย
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามกาอินว่า “อาแบลน้องชายท่านอยู่ที่ไหน” เขาทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ทราบ ข้าพเจ้าเป็นผู้ดูแลน้องหรือ” พระองค์ตรัสว่า “ท่านทำอะไรลงไป เลือดของน้องชายของท่านจากพื้นดินร้องดังมาถึงเรา บัดนี้ท่านจะต้องถูกสาปแช่งให้ออกไปจากแผ่นดินที่อ้าปากรับโลหิตของน้องชายที่ท่านฆ่า เมื่อท่านเพาะปลูก แผ่นดินจะไม่ให้ผลแก่ท่านอีก ท่านจะต้องเร่ร่อนหลบหนีไปบนแผ่นดิน” กาอินทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โทษของข้าพเจ้าหนักเกินกว่าจะรับอภัยได้ ดูซิ วันนี้พระองค์ทรงขับไล่ข้าพเจ้าออกจากแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าต้องหลบซ่อนจากพระพักตร์ของพระองค์ เร่ร่อนหนีหน้าผู้คนบนแผ่นดิน ใครพบข้าพเจ้าก็จะฆ่าข้าพเจ้าเสีย” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “ไม่ได้ ใครฆ่ากาอิน จะถูกแก้แค้นเป็นเจ็ดเท่า” และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเครื่องหมายไว้ที่ตัวกาอินเพื่อเตือนคนที่พบไม่ให้ฆ่าเขา
     อาดัมมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาอีก นางให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เรียกชื่อว่าเสท นางพูดว่า “เพราะพระเจ้าประทานบุตรชายอีกคนหนึ่งแก่ข้าพเจ้าแทนอาแบล ซึ่งถูกกาอินฆ่า”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                            มก 8:11-13
      เวลานั้น ชาวฟาริสีเข้ามาโต้เถียงกับพระองค์ ขอให้ทรงแสดงเครื่องหมายจากฟ้าเพื่อทดสอบ พระองค์ถอนพระทัยลึก ๆ ตรัสว่า “คนยุคนี้แสวงหาเครื่องหมายอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่ออะไร เราบอกความจริงกับท่านว่า คนยุคนี้จะไม่ได้รับเครื่องหมายอย่างใดเลย” แล้วพระองค์ทรงแยกจากคนเหล่านั้น เสด็จลงเรือข้ามไปอีกฟากหนึ่ง

 

ข้อคิด
     “…ถ้าท่านทำไม่ดี บาปกำลังหมอบอยู่ที่ประตู คอยตะครุบตัวท่าน แต่ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้” (ปฐก 4:7) เพราะความอิจฉาและขาดการควบคุมตนเอง เป็นเหตุให้กาอินพี่ชาย ฆ่าอาแบลน้องชายของตน จนต้องประสบเคราะห์กรรมเร่ร่อนหลบหนีไปจากแผ่นดินที่เคยอาศัยทำการเพาะปลูก แต่พระเจ้าก็ยังประทานโอกาสให้กลับใจเอาชนะบาปทั้งยังทรงปกป้องจากผู้คนที่คิดทำร้ายอีกด้วย..เราก็เช่นกัน พระเจ้าทรงประทานเวลาและโอกาสให้กลับใจและเอาชนะบาปให้จงได้...

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown