วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2020 สัปดาห์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนพฤศจิกายน 2020
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1258
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นอัครสาวก ฉบับที่สอง 2 ยน 1:4-9
ข้าพเจ้ามีความปีติมากที่รู้ว่า บุตรบางคนของท่านดำเนินชีวิตตามความจริงตลอดมา โดยปฏิบัติตามที่เราได้รับพระบัญชาจากพระบิดา เวลานี้ ข้าพเจ้าเขียนมาขอให้ท่านทั้งหลายที่เป็นพระศาสนจักรทำสิ่งหนึ่ง สิ่งนี้ไม่ใช่บทบัญญัติใหม่ แต่เป็นบทบัญญัติที่เรามีมาตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นคือ เราจงรักกันเถิด
ความรักคือการดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติ บทบัญญัตินี้ท่านเรียนรู้มาแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม คือให้ดำเนินชีวิตในความรัก
คนหลอกลวงจำนวนมากออกไปทั่วโลก พวกนี้ไม่ยอมรับว่าพระเยซูคริสตเจ้าเสด็จมาเป็นมนุษย์ คนเหล่านี้คือคนหลอกลวงและเป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสตเจ้า ท่านจงระวังไว้ มิฉะนั้นงานทุกอย่างของเราจะสูญเปล่า และท่านจะไม่ได้รับค่าตอบแทนอย่างสมบูรณ์ ผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในคำสอนของพระคริสตเจ้า และออกไปจากคำสอนนั้น เขาไม่มีพระเจ้าอยู่กับตน แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในสิ่งที่ทรงสอนเท่านั้นมีพระบิดาและพระบุตรอยู่ด้วย
สดด 119:1-2,10-11,17-19
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 17:26-37
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาสาวกว่า “เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในสมัยของโนอาห์ฉันใด ก็จะเกิดขึ้นในสมัยของบุตรแห่งมนุษย์ ฉันนั้น ผู้คนกิน ดื่ม แต่งงานเป็นสามีภรรยากันจนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ น้ำวินาศก็ได้ท่วมเขาเหล่านั้นจนตายสิ้น ในสมัยของโลทก็เช่นเดียวกัน ผู้คนกิน ดื่ม ซื้อขาย ปลูกพืช สร้างบ้าน แต่ในวันที่โลทออกจากเมืองโสโดม ไฟและกำมะถันได้ตกจากท้องฟ้ามาเผาผลาญเขาเหล่านั้นจนตายสิ้น ในวันที่บุตรแห่งมนุษย์จะทรงสำแดงองค์ ก็จะเป็นเช่นเดียวกันด้วย
ในวันนั้น คนที่อยู่บนดาดฟ้าและมีข้าวของอยู่ในบ้าน จงอย่าลงมาเอาของเหล่านั้นเลย คนที่อยู่ในทุ่งนาก็เช่นเดียวกัน จงอย่าหวนกลับมาอีก ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงเรื่องภรรยาของโลทไว้เถิด ผู้ใดที่พยายามรักษาชีวิตของตนไว้ ก็จะสูญเสียชีวิตนั้น และผู้ใดที่เสียชีวิตของตน ก็จะรักษาชีวิตนั้นไว้ได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในคืนนั้น สองคนที่นอนเตียงเดียวกัน คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำลังโม่แป้งอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้” บรรดาศิษย์จึงทูลถามว่า “เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นที่ใด พระเจ้าข้า” พระองค์ทรงตอบว่า “ที่ใดมีซากศพ ที่นั่นบรรดาแร้งจะมาชุมนุมกัน”
ข้อคิด
คำทำนายถึงวาระสุดท้ายนั้นปรากฏอยู่ในหลายโอกาสและหลายตอนในพระคัมภีร์ คำทำนายนั้นบ่งบอกถึงความเร่งด่วน ความไม่แน่นอน และเน้นถึงการเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อศิษย์ถามพระเยซูว่า"เหตุการณ์นั้นจะมาในเวลาใด" เราทุกคนก็เช่นเดียวกันที่อยากจะรู้ว่า วาระสุดท้ายนั้นจะมาเวลาใด แต่เมื่อการรอคอยกลับกลายเป็นความเย็นชา ความเร่งด่วนในการเตรียมรับเสด็จนั้นก็เงียบเหงาซบเซาไป ซึ่งที่จริงแล้ว เราไม่ได้เป็นผู้รอคอยการเสด็จมาขององค์พระคริสตเจ้าอีกต่อไป แต่เราเป็นผู้ที่นำพระคริสตเจ้ามาในโลก เราทำให้การรอคอยที่ยืดยาวน่าเบื่อนั้น กลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี ทำให้สัมผัสองค์พระคริสตเจ้าได้โดยผ่านทางชีวิต กิจการ และแบบอย่างแห่งชีวิตของเรา เราคริสตชนต้องไม่ดำเนินชีวิตเป็นดั่งผู้รอคอยการเสด็จกลับมาขององค์พระคริสตเจ้า แต่เป็นผู้ที่รู้จักพระองค์ ได้สัมผัสพระองค์ เป็นการดำเนินชีวิตในพระองค์ ในโลกหยุดการรอคอยการเสด็จมา แต่ร่วมเฉลิมฉลองชีวิตของพระคริสตเจ้าให้เป็นปัจจุบันในทุกๆ วันแห่งชีวิตเรา