วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020 น.เปโตร ดามีอานี พระสังฆราชและนักปราชญ์
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 16 มกราคม 2563 07:42
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 880
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยากอบอัครสาวก ยก 2:14-24,26
พี่น้องทั้งหลาย จะมีประโยชน์ใดหากผู้หนึ่งอ้างว่ามีความเชื่อแต่ไม่มีการกระทำ ความเชื่อเช่นนี้จะช่วยให้เขารอดพ้นได้หรือ ถ้าพี่น้องชายหญิงคนใดขัดสนเครื่องนุ่งห่ม และไม่มีอาหารประจำวัน แล้วท่านคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “จงไปเป็นสุขเถิด ขอให้อบอุ่นและอิ่มเถิด” แต่มิได้ให้สิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายแก่เขา จะมีประโยชน์ใดเล่า ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว
บางคนอาจพูดว่า “ท่านมีความเชื่อ ข้าพเจ้ามีการกระทำ” ถ้าเป็นเช่นนั้นจงแสดงความเชื่อที่ไม่มีการกระทำให้ข้าพเจ้าเห็นเถิด แล้วข้าพเจ้าจะแสดงความเชื่อให้ท่านเห็นด้วยการกระทำ ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวหรือ ดีแล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อเช่นนั้นและยังกลัวจนตัวสั่นด้วย คนเบาปัญญาเอ๋ย ท่านอยากรู้หรือไม่ว่าความเชื่อที่ปราศจากการกระทำนั้นไร้ประโยชน์ อับราฮัมบรรพบุรุษของเราได้รับความชอบธรรมเพราะการกระทำ เมื่อถวายอิสอัคบุตรของตนบนแท่นบูชามิใช่หรือ ท่านเห็นแล้วว่า ความเชื่อกับการกระทำของเขาดำเนินไปพร้อมๆ กัน และเพราะการกระทำนั้นความเชื่อจึงสมบูรณ์ ดังข้อความในพระคัมภีร์ว่า “อับราฮัมเชื่อพระเจ้า พระองค์ทรงคิดว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมของเขา” เขาจึงได้ชื่อว่า “เป็นมิตรของพระเจ้า”
ท่านทั้งหลายเห็นแล้วว่า มนุษย์จะเป็นผู้ชอบธรรมได้ก็ด้วยการกระทำ มิใช่ด้วยความเชื่อแต่อย่างเดียว ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณย่อมตายแล้วฉันใด ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำก็ย่อมตายแล้วฉันนั้น
สดด 112:1-3,4,5-6
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 8:34-9:1
เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงเรียกประชาชนและบรรดาศิษย์เข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็ให้เขาเลิกนึกถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น จะต้องสูญเสียชีวิตนั้น แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา และเพราะข่าวดี ก็จะรักษาชีวิตได้ มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะให้อะไรเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไป ถ้าผู้ใดอับอายเพราะเราและเพราะถ้อยคำของเราในยุคของคนไม่ซื่อสัตย์และชั่วร้ายนี้ บุตรแห่งมนุษย์ก็จะอับอายเพราะเขา เมื่อพระองค์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นเดียวกัน”
พระองค์ยังตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า บางท่านที่ยืนอยู่ที่นี่จะไม่ลิ้มรสความตายจนกว่าจะเห็นพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงพร้อมด้วยพระอานุภาพ”
ข้อคิด
น่าหัวเราะตนเอง เพราะลูกพูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง ลูกประกาศตนว่ามีความเชื่อเป็นศิษย์พระคริสต์ แต่ลูกไม่ได้เจริญชีวิตตามแบบอย่างของพระคริสต์ ลูกพอใจแต่ภาพของพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพและการประทับเบื้องขวาพระบิดา แต่ถูกปิดตากับภาพการแบกกางเขนและการถูกตรึงตายบนไม้กางเขนของพระองค์ ลูกภาวนาวอนขอความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นศิษย์ของพระองค์ และขอให้ความเชื่อได้บงการชีวิตของลูกด้วยเทอญ อาแมน
วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2020 ฉลองธรรมาสน์นักบุญเปโตร อัครสาวก
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 16 มกราคม 2563 07:40
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 944
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปโตรอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง 1 ปต 5:1-4
พี่น้องที่รัก โดยเหตุที่ข้าพเจ้าเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง เป็นพยานถึงพระทรมานของพระคริสตเจ้า และมีส่วนจะรับพระสิริรุ่งโรจน์ที่จะปรากฏในอนาคตด้วย ข้าพเจ้าขอร้องบรรดาผู้อาวุโส ในกลุ่มของท่านทั้งหลาย จงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน จงดูแลด้วยความเต็มใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า มิใช่ดูแลด้วยความจำใจ จงดูแลด้วยความสมัครใจ มิใช่ดูแลเพราะเห็นแก่อามิสสินจ้าง จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะ มิใช่เป็นเหมือนเจ้านายเหนือผู้ที่อยู่ใต้ปกครอง เมื่อพระคริสตเจ้าพระผู้เลี้ยงสูงสุดจะทรงสำแดงพระองค์ ท่านจะได้รับสิริรุ่งโรจน์เป็นมงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย
สดด 23:1-3,4,5,6
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 16:13-19
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟีลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง”
พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมนบุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านเป็นศิลา และบนศิลานี้ เราจะสร้างพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”
ข้อคิด
ถ้าพระเยซูทรงถามลูกว่า "เธอรู้ไหมว่าพระองค์คือใคร" ลูกไม่สามารถตอบได้อย่างทันทีทันใด ลูกยังไม่แน่ใจ ลูกยังขาดประสบการณ์ส่วนตัวกับพระองค์ คำตอบของลูกอาจเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูเพื่อให้พระองค์พอพระทัย ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอโทษที่ลูกอ่าน ลูกสวด ลูกฟังเรื่องของพระองค์เสมอมา แต่ชีวิตของลูกยังห่างไกลพระองค์ ขอโปรดชำระจิตใจของลูกให้บริสุทธิ์ ให้มีที่ว่างเพียงพอเพื่อให้พระองค์ประทับอยู่ และผลักดันให้ลูกได้ละม้ายคล้ายพระองค์ยิ่งขึ้น จนสามารถตอบพระองค์ได้ว่าพระองค์คือใครจากใจของลูกเอง อาแมน
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2020 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 16 มกราคม 2563 07:37
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 926
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยากอบอัครสาวก ยก 3:13-18
พี่น้องที่รัก ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม
สดด 19:7,8-9,14
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 9:14-29
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงจากภูเขาพร้อมกับศิษย์ทั้งสามคนมาพบศิษย์คนอื่น ทรงเห็นประชาชนจำนวนมากห้อมล้อมบรรดาศิษย์ ธรรมาจารย์บางคนกำลังถกเถียงกับเขาเหล่านั้น ทันทีที่เห็นพระองค์ ประชาชนทั้งหลายต่างประหลาดใจและและวิ่งเข้ามาทักทายพระองค์ พระองค์ตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “ท่านกำลังถกเถียงเรื่องอะไรหรือ” คนหนึ่งในกลุ่มชนตอบว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าพาบุตรชายที่ปีศาจสิงให้เป็นใบ้มาเฝ้าพระองค์ เมื่อปีศาจสิง มันผลักเขาให้ล้มลง น้ำลายฟูมปาก กัดฟัน และตัวแข็งทื่อ ข้าพเจ้าได้ขอให้ศิษย์ของพระองค์ขับไล่มัน แต่เขาทำไม่สำเร็จ” พระองค์ตรัสตอบว่า “คนหัวดื้อ เชื่อยาก เราจะต้องอยู่กับท่านอีกนานเท่าใด จะต้องทนท่านอีกนานเท่าใด จงพาเด็กมาพบเราเถิด” เขาจึงพาเด็กนั้นมาเฝ้าพระองค์ เมื่อเห็นพระองค์ ปีศาจก็ทำให้เด็กชักล้มลงกับพื้นดิน กลิ้งไปมา น้ำลายฟูมปาก พระเยซูเจ้าทรงถามบิดาของเด็กว่า “เป็นดังนี้นานเท่าไรแล้ว” เขาทูลตอบว่า “ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ ปีศาจได้ผลักเด็กลงในกองไฟหลายครั้ง บางครั้งผลักลงในน้ำเพื่อให้ตาย ถ้าพระองค์ทรงทำสิ่งใดได้ ก็ทรงกรุณาช่วยเราด้วยเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ถ้าทำได้น่ะหรือ ทุกสิ่งเป็นไปได้ทั้งนั้นสำหรับผู้มีความเชื่อ” ทันใดนั้นบิดาของเด็กก็ร้องว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ โปรดช่วยความเชื่อเล็กน้อยของข้าพเจ้าด้วยเถิด” เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนเข้ามามากยิ่งขึ้น พระองค์จึงตรัสสำทับปีศาจว่า “เจ้าปีศาจหนวกใบ้ เราสั่งเจ้าให้ออกจากเด็กคนนี้ และอย่ากลับเข้ามาอีกเลย” ปีศาจจึงร้องเสียงดังและทำให้เด็กมีอาการชักอย่างรุนแรง แล้วปีศาจก็ออกไป เด็กนอนนิ่งเหมือนคนตาย จนคนส่วนมากพูดกันว่า “เขาตายแล้ว” แต่พระเยซูเจ้าทรงจับมือเด็ก ทรงช่วยพยุงให้ลุกขึ้น เขาก็ยืนขึ้น เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า “ทำไมพวกเราจึงขับไล่มันไม่ได้” พระองค์ตรัสตอบว่า “ปีศาจชนิดนี้ขับไล่ออกไม่ได้เลย นอกจากด้วยการอธิษฐานภาวนาเท่านั้น”
ข้อคิด
เคล็ดลับการทำอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์ทุกครั้งก็คือ ความเชื่อ ซึ่งอาจจะเป็นความเชื่อของเจ้าตัวเองและความเชื่อที่มาจากผู้อื่น ปีศาจหรือความชั่วจะอยู่ลอยๆ ไม่ได้ มันต้องหาที่สิงสถิตด้วยพระเยซูคริสต์ทรงขับไล่ความชั่วร้ายด้วยพระวาจาของพระองค์ เป็นวาจาสิทธิ์เช่นเดียวกับพระวาจาที่ทรงสร้างโลกและสรรพสิ่ง ปีศาจมีอำนาจน่ากลัวก็จริง แต่พระเยซูทรงเอาชนะพวกมันได้โดยง่าย ขอพระเจ้าประทานความเชื่อศรัทธาให้ลูกมากยิ่งขึ้น เพื่อลูกจะได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์และห่างไกลจากปีศาจทั้งปวง อาแมน
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2020 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 16 มกราคม 2563 07:39
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1008
บทอ่านจากหนังสือเลวีนิติ ลนต 19:1-2,17-18
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส ให้บอกชุมชนชาวอิสราเอลทั้งปวงว่า
“ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เพราะเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะต้องไม่เก็บความเกลียดชังพี่น้องไว้ในใจ แต่จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา ท่านจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบบาปของเขา ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง 1 คร 3:16-23
พี่น้อง ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านก็คือพระวิหารนั้น
จงอย่าหลอกลวงตนเอง ถ้าท่านใดคิดว่าตนเองเป็นคนฉลาดในโลกนี้ ก็จงยอมเป็นคนโง่ จึงจะเป็นคนฉลาดอย่างแท้จริง เพราะความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ในโลกนี้เป็นความโง่เขลาเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “พระองค์ทรงจับคนฉลาดด้วยอุบายของเขาเอง” และยังมีเขียนไว้อีกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบว่าความคิดของคนฉลาดเป็นสิ่งไร้ประโยชน์” ฉะนั้น อย่าให้ใครยกเอามนุษย์มาอวด เพราะทุกสิ่งเป็นของพวกท่าน เปาโลก็ดี อปอลโล เคฟาส โลก ชีวิต ความตาย สิ่งปัจจุบัน หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็ดี ทุกสิ่งล้วนเป็นของท่าน แต่ท่านเป็นของพระคริสต์และพระคริสต์เป็นของพระเจ้า
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 5:38-48
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาอัครสาวกว่า“ท่านเคยได้ยินเขากล่าวว่า ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน
ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้าน จงเกลียดศัตรู แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน เพื่อท่านจะได้เป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า บรรดาคนเก็บภาษีมิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ถ้าท่านทักทายแต่พี่น้องของท่านเท่านั้น ท่านทำอะไรพิเศษเล่า คนต่างศาสนามิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด”
ข้อคิด
ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ลูกได้พบมาตรฐานใหม่ของการดำเนินชีวิตในฐานะที่เป็นศิษย์ของพระคริสต์ ลูกเข้าใจความแตกต่างระหว่างชุดความดีของคนทั่วไปกับชุดความดีที่พระยชูคริสต์นำเสนอ"ท่านทำอะไรพิเศษล่า" ถ้ารักเพื่อนบน แต่เกลียดศัตรู นี่คือมาตรฐานใหม่ที่ทำให้ลูกต้องขบคิด และต้องตั้งเป้าหมายชีวิตใหม่ให้ชัดเจนตามที่พระองค์บัญชา คือ "ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด" อาแมน
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2020 สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกุมภาพันธ์ 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 16 มกราคม 2563 07:35
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 860
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยากอบอัครสาวก ยก 4:1-10
พี่น้องที่รักยิ่ง การต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่ท่านนั้นมาจากที่ใด มิใช่มาจากกิเลสตัณหาซึ่งต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของท่านหรือ ท่านอยากได้ แต่ไม่ได้ จึงฆ่ากัน ท่านอยากได้ แต่ไม่สมหวัง จึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้วอนขอ ท่านวอนขอ แต่ไม่ได้รับ เพราะท่านวอนขอไม่ถูกต้อง คือวอนขอเพื่อนำไปสนองกิเลสตัณหาของท่าน ท่านที่ไม่ซื่อสัตย์ ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า ฉะนั้นผู้ใดต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้า ท่านคิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไร้สาระหรือว่า “พระเจ้าทรงรักจิตอย่างหวงแหน จิตที่พระองค์ประทานให้สถิตในเรา” พระองค์ยังประทานพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก ดังนั้น พระคัมภีร์จึงกล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน” ท่านทั้งหลายอยู่ใต้อำนาจพระเจ้า จงต่อต้านปีศาจ แล้วมันจะหลบหนีไปจากท่าน จงเข้าใกล้พระเจ้าแล้วพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลาย จงล้างมือให้สะอาด คนใจโลเลทั้งหลาย จงทำใจให้บริสุทธิ์เถิด จงคร่ำครวญ จงเป็นทุกข์โศกเศร้าและร้องไห้เถิด จงให้การหัวเราะของท่านกลายเป็นความเศร้าโศก จงให้ความยินดีของท่านกลายเป็นความเศร้าใจ จงถ่อมตนลงเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และพระองค์จะทรงยกย่องท่าน
สดด 55:6-8,9-10ก,23
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 9:30-37
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ผ่านแคว้นกาลิลี พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ ทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์ และตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย เขาจะประหารชีวิตพระองค์ แต่เมื่อถูกประหารแล้ว ในวันที่สามพระองค์จะกลับคืนชีพ” บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจพระวาจานี้ แต่ก็ไม่กล้าทูลถาม
พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อเสด็จเข้าไปในบ้าน พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านถกเถียงกันเรื่องอะไรขณะที่เดินทาง” เขาก็นิ่ง เพราะระหว่างทางเขาถกเถียงกันว่า ผู้ใดยิ่งใหญ่กว่ากัน พระองค์จึงประทับนั่ง แล้วทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากเป็นคนที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” ครั้นแล้วพระองค์ทรงจูงเด็กเล็กๆ คนหนึ่งมายืนกลางกลุ่มพวกเขา ทรงโอบเด็กนั้นไว้ ตรัสว่า “ผู้ใดที่ต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ก็ต้อนรับเรา และผู้ใดที่ต้อนรับเรา ก็มิใช่ต้อนรับเพียงเราเท่านั้น แต่ต้อนรับผู้ที่ทรงส่งเรามาด้วย”
ข้อคิด
การผจญที่ทำให้ชะตากรรมของมวลมนุษย์ต้องเปลี่ยนไปคือ การจองหองหรือต้องการเป็นใหญ่ซึ่งมิใช่แค่มนุษย์ด้วยกัน แต่ต้องการเป็นใหญ่เท่าเทียมพระเจ้า ซึ่งเป็นบาปแรกของมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากอาดัมและเอวา ภาพของพระเยซูเจ้าทรงจูงและโอบเด็กๆ ช่วยทำให้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างความจองหองกับความสุภาพถ่อมตน ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ลูกมีใจสุภาพถ่อมตน รับฟังและต้อนรับทุกคน ไม่แสวงหาการเป็นใหญ่และให้มีใจที่พร้อมจะรับใช้ผู้อื่น ถ้าลูกเป็นผู้นำ ขอให้ลูกได้เป็นผู้นำแบบผู้รับใช้เหมือนพระเยซูคริสต์ด้วยเทอญ อาแมน