มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2017 น.เปโตร คานีซีอัส พระสงฆ์และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร

บทอ่านจากหนังสือเพลงซาโลมอน                                พซม 2:8-14
     ฟังซิ เสียงที่รักของดิฉัน เขากำลังมา กำลังกระโดดอยู่บนภูเขา กำลังกระโดดข้ามเนินเขา ที่รักของดิฉันเป็นเหมือนละมั่งหรือเหมือนลูกกวาง ดูซิ เขากำลังยืนอยู่หลังกำแพงของเรา มองเข้ามาทางหน้าต่าง ลอบมองผ่านลูกกรงเข้ามา ที่รักของดิฉันเริ่มพูดกับดิฉันว่า “ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถอะ คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด ดูซิ ฤดูหนาวผ่านไปแล้ว ฝนก็วายและจบสิ้นไปแล้ว
ดอกไม้ต่างๆ ปรากฏขึ้นมาบนแผ่นดิน เวลาสำหรับร้องเพลงมาถึงแล้ว เสียงคูของนกเขาก็ได้ยินในแผ่นดินของเรา ต้นมะเดื่อเทศกำลังผลิผล เถาองุ่นผลิดอกบานส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด คนสวยของฉันเอ๋ย จงมาเถิด นกพิราบของฉันเอ๋ย เธอซ่อนตัวอยู่ในซอกผา ในซอกลึกของหน้าผา ขอให้ฉันได้ยินเสียงของเธอสักหน่อยเถิด เพราะเสียงของเธอนั้นไพเราะ และใบหน้าของเธอก็งดงาม”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                  ลก 1:39-45
     หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”

 

ข้อคิด
     การรำพึงรำพันฝันหาบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นช่วงเวลาอารมณ์สุนทรีย์มีความสุข ในยุคของโลกาภิวัฒน์ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทันสมัย การสื่อสารที่รวดเร็วทันใจ ไม่เหมือนสมัยก่อน ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ร่ำรวยมั่งคั่ง แม้ทุกวันนี้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว เห็นภาพทางหน้าจอ ได้ยินเสียงที่ชัดเจน แต่ก็ดูเหมือนว่ามันขาดอะไรไปสักอย่างคือ "ตัวตน" แบบอย่างของแม่พระถือว่าเป็นแบบอย่างของการสื่อสารและความสัมพันธ์ใหม่ที่สมบูรณ์ แม้จะต้องใช้เวลานานในการเดินทาง ไม่สะดวกสบายเหมือนยุคนี้สมัยนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นพระพรจริงๆ พระพรในการเยี่ยมเยียน พระพรในการปรนนิบัติรับใช้ และความสุขก็เริ่มขึ้น เมื่อเราทำดีต่อผู้อื่นด้วยความรัก

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2017 สัปดาห์ที่ เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่หนึ่ง                          1 ซมอ 1:24-28
     ในครั้งนั้น เมื่อเด็กหย่านมแล้ว นางก็พาเขาขึ้นไปที่วิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เมืองชิโลห์ นำโคหนุ่มอายุสามปีตัวหนึ่ง แป้งประมาณสองถังและเหล้าองุ่นหนึ่งถุงหนังไปด้วย ขณะนั้นเขายังเด็กมาก บิดามารดาฆ่าโคถวายบูชาและพาเด็กไปพบเอลี นางฮันนาห์กล่าวแก่เอลีว่า “นายเจ้าขา จำดิฉันได้ไหม ดิฉันเป็นหญิงที่เคยยืนอธิษฐานทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าที่นี่ต่อหน้าท่าน ดิฉันทูลขอเด็กคนนี้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ประทานให้ดิฉันตามคำทูลขอ บัดนี้ ดิฉันจึงขอถวายเขาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าตราบเท่าที่เขามีชีวิต” แล้วบิดามารดาก็นมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าที่นั่น

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                 ลก 1:46-56
      เวลานั้น พระนางมารีย์ตรัสว่า “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้ทรงกอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า พระนามพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป”
พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ

 

ข้อคิด
     ความสุขจะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่อยู่ที่ว่าเรามีเท่าไหร่ แต่ความสุขอยู่ที่เราเป็น เราจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เรามีและเราเป็น นางฮันนาห์ไม่เคยลืมคำมั่นสัญญาที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ตามคำทูลขอ บัดนี้ "เขาจะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าตราบเท่าที่เขามีชีวิต" แม่พระก็เช่นเดียวกันมีความสุข เพราะพระนางเชื่อว่าพระเป็นเจ้าจะทรงปฏิรูปสังคมเราให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน เช่น ด้านศีลธรรม เศรษฐกิจ สังคม-การเมือง แต่เราก็ต้องช่วยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น โดยการใช้สิ่งที่เรามีและเราเป็น เพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าจะเกิดขึ้นจริง

วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2017 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่สอง                            2 ซมอ 7:1-5,8-11,16
     เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงเข้าไปประทับในพระราชวังและองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความสงบจากศัตรูโดยรอบ กษัตริย์ตรัสกับประกาศกนาธันว่า “ดูซิ เราอยู่ในวังสร้างด้วยไม้สนสีดาร์ แต่หีบของพระเจ้ากลับอยู่ในกระโจม” นาธันทูลตอบว่า “พระองค์ทรงคิดจะทำอะไร ก็โปรดทำเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพระองค์”
     แต่ในคืนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่นาธันว่า “จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ ท่านจะไม่เป็นผู้สร้างวิหารให้เราอยู่ บัดนี้ ท่านจงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมจักรวาลตรัสดังนี้ เราให้ท่านเลิกเลี้ยงแกะในทุ่งหญ้ามาเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา เราอยู่กับท่านไม่ว่าท่านไปที่ใด เรากำจัดศัตรูทั้งปวงที่ท่านเผชิญหน้า เราจะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเหมือนกับผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เราจะเลือกที่แห่งหนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเราตั้งหลักแหล่ง เขาจะอยู่ที่นั่นโดยไม่มีใครรบกวน จะไม่มีคนชั่วคอยกดขี่ข่มเหงเขาเหมือนในอดีต เมื่อเราเคยแต่งตั้งผู้วินิจฉัยให้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา เราจะให้ท่านได้พักจากศัตรูทั้งหลายของท่าน เรา องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศแก่ท่านว่า เราจะสร้างราชวงศ์ให้ท่าน ราชวงศ์และอาณาจักรของท่านจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไป อำนาจปกครองของท่านจะตั้งมั่นอยู่ตลอดไป”’

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 16:25-27
     ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระผู้โปรดให้ท่านทั้งหลายมั่นคงตามข่าวดีของข้าพเจ้า และตามการประกาศสอนเรื่องพระเยซูคริสตเจ้า เป็นการเปิดเผยธรรมล้ำลึก ที่เก็บเป็นความลับตลอดเวลานานมาแล้ว แต่บัดนี้เปิดเผยให้ปรากฏแล้ว ตามข้อเขียนของบรรดาประกาศก ตามพระบัญชาของพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดร ให้นานาชาติได้รู้ เพื่อจะได้นำพวกเขามายอมรับความเชื่อ ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้าผู้ทรงพระปรีชาญาณแต่เพียงพระองค์เดียว โดยทางพระเยซูคริสตเจ้า ขอพระองค์ทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ตลอดนิรันดร อาเมน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                     ลก 1:26-38
     เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่กับท่าน”
     เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมากทรงถามพระองค์เองว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพระบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย”
     พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไรเพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี” ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่านและพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้”
พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป

 

ข้อคิด
      คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งการให้ เริ่มจาก “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์...” เมื่อพระเจ้าทรงเป็นผู้ให้และประชากรของพระเจ้าเรียนรู้ที่จะให้เช่นกัน นั่นคือคริสต์มาส คริสต์มาสจึงเป็นการฉลองแห่งการให้ คำถามที่ตามมาคือ เราจะให้อะไรและจะให้อย่างไร เราจะทำให้การฉลองคริสต์มาสมีความหมายสำหรับเราอย่างไร ข่าวดีวันนี้ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้คือ "ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด"

วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2017 น.ยอห์น แห่งเคนตี้ พระสงฆ์

บทอ่านจากหนังสือประกาศกมาลาคี                              มลค 3:1-4,23-24
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า “ดูซิ เราจะส่งผู้ถือสารของเราเพื่อเตรียมทางไว้ต่อหน้าเรา ทันใดนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านแสวงหาจะเสด็จเข้ามาในพระวิหารของพระองค์ ทูตแห่งพันธสัญญาซึ่งท่านปรารถนา ดูซิ กำลังมาแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลตรัส ใครจะทนวันที่เขามาได้ และใครจะยืนหยัดอยู่ได้เมื่อเขาปรากฏ เพราะเขาจะเป็นเหมือนไฟของช่างถลุงโลหะ และเหมือนสบู่ของคนซักฟอก เขาจะนั่งลงเหมือนช่างหลอมและช่างถลุงเงิน เขาจะชำระบุตรหลานของเลวีให้บริสุทธิ์ จะถลุงเขาเหมือนถลุงทองคำและถลุงเงิน เพื่อเขาจะถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความชอบธรรม เครื่องบูชาของยูดาห์และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนในสมัยโบราณ เหมือนในปีก่อนๆ โน้น
ดูซิ เราจะส่งประกาศกเอลียาห์มาหาท่าน ก่อนที่วันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง เขาจะทำให้ใจของพ่อกลับมาหาลูก และใจของลูกกลับไปหาพ่อ เพื่อเราจะไม่ต้องมาทำลายล้างแผ่นดิน”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                  ลก 1:57-66
     เมื่อครบกำหนดคลอด นางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง
     เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำพิธีสุหนัตให้ เขาต้องการเรียกเด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา แต่มารดาของเด็กค้านว่า “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อยอห์น” คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” เขาเหล่านั้นจึงส่งสัญญาณถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่งแล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น” ทุกคนต่างประหลาดใจ ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า เพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้สึกกลัว และเรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับเขา

 

ข้อคิด
     ชื่อนั้นสำคัญอย่างไร ชื่อ"ยอห์น"เป็นนามพระราชทานจากพระเจ้าตามที่ทูตสวรรค์กล่าวกับเศคาริยาห์ว่า “ท่านจะตั้งชื่อเขาว่ายอห์น” เมื่อน้อมรับนามพระราชทาน ย่อมเท่ากับว่าท่านทั้งสองเชื่อและมีความกตัญญูต่อพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณาประทานบุตรชาย อันนำมาซึ่งความปีติยินดีชนิดไม่คาดฝันเพราะ “นางเอลีซาเบธเป็นหมัน และทั้งสองคนชรามากแล้ว” และทันทีที่ตั้งชื่อบุตรชายว่า “ยอห์น” เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เด็กทุกคนเกิดมาถือว่าเป็นของประทานจากพระเจ้าซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้

วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2017 วันสมโภชพระคริสตสมภพ

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                                อสย 52:7-10
     เท้าของผู้นำข่าวดีมาประกาศบนภูเขาช่างงามยิ่งนัก เขาประกาศสันติภาพ นำข่าวดี ประกาศความรอดพ้น กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ปกครอง” บรรดาทหารยามของท่านร้องเสียงดัง ร้องตะโกนพร้อมกันด้วยความยินดี เพราะเขาได้เห็นกับตาว่า พระยาห์เวห์เสด็จกลับสู่ศิโยน ซากปรักหักพังแห่งกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องเพลงยินดีพร้อมกันเถิด เพราะพระยาห์เวห์ทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์ และทรงไถ่กู้กรุงเยรูซาเล็มแล้ว พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระอานุภาพต่อหน้าประชาชาติทั้งปวง ชนชาติทั้งหลายจากสุดปลายแผ่นดินจะได้เห็นว่า พระเจ้าของเราประทานความรอดพ้นให้แก่เรา

 

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู                                        ฮบ 1:1-6
     ในอดีต พระเจ้าตรัสกับบรรพบุรุษของเราโดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นสมัยนี้เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสกับเราโดยทางพระบุตร พระเจ้าทรงสถาปนาพระบุตรให้เป็นทายาทครอบครองทุกสิ่ง พระองค์ทรงสร้างจักรวาล เดชะพระบุตรนี้ พระบุตรทรงเป็นรังสีแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า ทรงเป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ขององค์พระเจ้า พระบุตรทรงผดุงจักรวาลไว้ด้วยพระวาจาทรงฤทธิ์ บัดนี้ พระบุตรทรงลบล้างมลทินแห่งบาปเสร็จสิ้นแล้ว จึงเสด็จสู่สวรรค์ ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระมหิทธานุภาพ ดังนั้น พระบุตรทรงอยู่เหนือบรรดาทูตสวรรค์ เช่นเดียวกับพระนามที่ทรงได้รับนั้นประเสริฐกว่านามของบรรดาทูตสวรรค์
     พระเจ้าเคยตรัสแก่ทูตสวรรค์องค์ใดบ้างว่า “ท่านเป็นบุตรของเรา เราให้กำเนิดท่านในวันนี้” หรือว่า “เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา”
หรืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าทรงส่งพระโอรสองค์แรกมาสู่โลกมนุษย์ พระองค์ตรัสว่า “ให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระเจ้ากราบนมัสการพระองค์เถิด”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น                              ยน 1:1-5,9-14
     เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำรงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์เป็นพระเจ้า พระองค์ประทับอยู่กับพระเจ้าแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้าง โดยทางพระวจนาตถ์ ชีวิตอยู่ในพระองค์ และชีวิตเป็นแสงสว่างสำหรับมนุษย์ แสงสว่างส่องในความมืด และความมืดชนะแสงสว่างนั้นไม่ได้
แสงสว่างแท้จริง ซึ่งส่องสว่างแก่มนุษย์ทุกคนกำลังจะมาสู่โลก พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในโลก และโลกถูกสร้างโดยอาศัยพระองค์ แต่โลกไม่รู้จักพระองค์ พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์ แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์ คือผู้ที่เชื่อในพระนามพระองค์ พระองค์ประทานอำนาจให้ผู้นั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า เขามิได้เกิดจากสายเลือด มิได้เกิดจากความปรารถนาตามธรรมชาติ มิได้เกิดจากความต้องการของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า พระวจนาตถ์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ และเสด็จมาประทับอยู่ในหมู่เรา เราได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ เป็นพระสิริรุ่งโรจน์ที่ทรงรับจากพระบิดา ในฐานะพระบุตรเพียงพระองค์เดียว เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและความจริง

 

ข้อคิด
     วันคริสต์มาสเป็นวันพิเศษที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์และเราแต่ละคน เป็นวันที่เราเฉลิมฉลองการบังเกิดของพระกุมารเยซู ซึ่งเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ที่เสด็จมาในโลกเพื่อช่วยเราให้รอด พระองค์เกิดในสภาพที่ยากจนเข็ญใจ เพื่อแสดงถึงความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระประสงค์ของพระเจ้า ในการสร้างอาณาจักรของพระเจ้าในโลก ข่าวดีแห่งการบังเกิดของพระกุมารเยซูจึงเป็นความชื่นชมยินดีของโลกทั้งมวล เป็นการเผยแสดงที่สมบูรณ์ที่สุดในพระธรรมใหม่ โดยผ่าทางบุคคล(Kenosis) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่บอกทุกคนให้ทราบว่า พระผู้ไถ่โลกได้บังเกิดแล้ว

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown