วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2016 น.อัลเบิร์ต พระสังฆราชและนักปราชญ์
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนพฤศจิกายน 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 1045
บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์ วว 3:1-6,14-22
จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของพระศาสนจักรที่เมืองซาร์ดิสว่า “พระองค์ผู้ทรงมีจิตทั้งเจ็ดของพระเจ้าและทรงมีดาวเจ็ดดวง ตรัสว่า เรารู้จักกิจการของท่าน ใครๆ คิดว่าท่านมีชีวิต แต่ท่านตายแล้ว จงตื่นขึ้นและเสริมกำลังส่วนที่เหลือซึ่งใกล้จะตาย เพราะเราไม่ได้พบกิจการใดของท่านดีพร้อมเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของเรา จงระลึกเถิดว่า ท่านได้รับ ได้ยินพระวาจาอย่างไร จงปฏิบัติตามและกลับใจเถิด ถ้าท่านไม่ตื่นเฝ้า เราจะมาเหมือนขโมย และท่านจะไม่รู้ว่าเราจะมาพบท่านเมื่อไร แต่มีบางคนที่เมืองซาร์ดิสซึ่งไม่ได้ทำให้เสื้อผ้าของตนมีมลทิน เขาเหล่านั้นจะสวมเสื้อขาวเดินกับเราเพราะเขาเป็นผู้เหมาะสม ผู้ใดมีชัยชนะจะสวมเสื้อขาวเช่นนี้ เราจะไม่ลบนามของเขาออกจากหนังสือแห่งชีวิต เราจะรับรู้นามของเขาเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราและต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์ ผู้มีหู จงฟังสิ่งที่พระจิตเจ้าตรัสแก่พระศาสนจักรทั้งหลายเถิด”
จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของพระศาสนจักรที่เมืองเลาดิเซียว่า “พระองค์ผู้ทรงเป็นอาเมน ผู้ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือ ผู้ทรงเป็นปฐมเหตุของทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ตรัสว่า เรารู้จักกิจการของท่าน รู้ว่าท่านไม่เย็นไม่ร้อน ท่านจะเย็นหรือร้อนไปเลยก็จะดีกว่า แต่ท่านมิได้เป็นเช่นนั้น เพราะท่านอุ่นๆ ไม่เย็นไม่ร้อน เรากำลังจะคายท่านออกจากปากของเรา ท่านพูดว่า ฉันร่ำรวย มีสมบัติมากมายและไม่ต้องการอะไรอีก แต่ท่านไม่รู้ว่าท่านเป็นคนอาภัพ น่าสงสาร ยากจน ตาบอดและเปลือยเปล่า เราแนะนำท่านให้ซื้อทองคำที่หลอมบริสุทธิ์แล้วจากเราเพื่อท่านจะร่ำรวย ซื้อเสื้อขาวเพื่อสวมใส่ปกปิดความเปลือยเปล่าน่าอับอายของท่าน ซื้อยาหยอดตาเพื่อจะแลเห็นได้อีก เราตักเตือนและเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่เรารัก ดังนั้น จงมีความกระตือรือร้นและกลับใจ ดูเถิด เรากำลังยืนเคาะประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปกินอาหารร่วมกับเขา เขาจะกินอาหารร่วมกับเรา ผู้ใดมีชัยชนะ เราจะให้เขานั่งกับเราบนบัลลังก์ เหมือนกับที่เรามีชัยชนะแล้วและได้นั่งกับพระบิดาของเราบนพระบัลลังก์ของพระองค์ ผู้มีหู จงฟังสิ่งที่พระจิตเจ้าตรัสแก่พระศาสนจักรทั้งหลายเถิด”
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 19:1-10
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะเสด็จผ่านเมืองนั้น ชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษี เป็นคนมั่งมี เขาพยายามมองดูว่าใครคือพระเยซูเจ้า แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมากและเพราะเขาเป็นคนร่างเตี้ย เขาจึงวิ่งนำหน้าไป ปีนขึ้นต้นมะเดื่อเทศ เพื่อให้เห็นพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์กำลังจะเสด็จผ่านไปทางนั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงที่นั่น ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรตรัสกับเขาว่า “ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้” เขารีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความยินดี ทุกคนที่เห็นต่างบ่นว่า “เขาไปพักที่บ้านคนบาป” ศักเคียสยืนขึ้นทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้แก่คนจน และถ้าข้าพเจ้าโกงสิ่งใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสี่เท่า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและช่วยคนเลวทรามเสียไปให้รอดพ้น”
ข้อคิด
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้เป็นการสนทนาระหว่างพระเยซูกับศักเคียสที่เมืองเยรีโค เมื่อศักเคียสเชื่อพระเยซูแล้ว มีอะไรเกิดขึ้น เราเห็นชัดว่า มีการเปลี่ยน แปลงเกิดขึ้น ศักเคียสไม่ได้พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน แต่ได้ประสบการเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของตน หมายความว่า พระเยซูทรงเปลี่ยนชีวิตของศักเคียสอย่างสิ้นเชิงเป็นเหมือนคนละคน ประการแรก พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนฐานะภายในของเขาจากคนบาปให้เป็นลูกของอับราฮัมประการที่สองชีวิตภายนอกของเขาด้วย ส่วนเราเชื่อพระเยซูแล้ว ชีวิตก่อนและหลังเป็นอย่างไร เหมือนเดิม หรือแตกต่างกันไป พี่น้องได้สัมผัสกับชีวิตใหม่ที่น่าอัศจรรย์และน่าตื่นเต้นเหมือนศักเคียสไหม