มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2016 วันครบรอบการถวายพระวิหาร น.เปโตร และเปาโล อัครสาวก

บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก                              กจ 28:11-16, 30-31
     สามเดือนต่อมา เราโดยสารเรือลำหนึ่งซึ่งมาจากเมืองอเล็กซานเดรียมาจอดพักในฤดูหนาวที่เกาะ หัวเรือเป็นรูปเทพเจ้าคัสเตอร์และโพลักซ์ เรามาถึงเมืองซีราคิวส์และพักอยู่ที่นั่นสามวัน จากนั้นเราแล่นเรือเลียบฝั่งมาถึงเมืองเรยีอุม วันรุ่งขึ้นลมใต้พัดมา เราจึงมาถึงเมืองปูเตโอลีภายในสองวัน ที่นั่นเราพบพี่น้องบางคนซึ่งเชิญเราให้ไปพักอยู่กับเขาหนึ่งสัปดาห์ แล้วเราจึงออกเดินทางไปกรุงโรม บรรดาพี่น้องที่กรุงโรมรู้ว่าเรากำลังเดินทางไป จึงมาพบเราที่เมืองฟอรุมอัปปีและหมู่บ้านสามโรงแรม เมื่อเปาโลเห็นเขา ก็ขอบคุณพระเจ้าและมีกำลังใจดีขึ้น เรามาถึงกรุงโรม เปาโลได้รับอนุญาตให้อยู่ตามลำพังโดยมีทหารคนหนึ่งเป็นผู้ควบคุม
เปาโลพักอยู่ในบ้านเช่าเป็นเวลาสองปีเต็ม และต้อนรับทุกคนที่มาเยี่ยม ประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้าและสอนความจริงเรื่องพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างกล้าหาญโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                มธ 14:22-33
     ทันทีหลังจากนั้น พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้บรรดาศิษย์ลงเรือข้ามทะเลสาบล่วงหน้าพระองค์ไปในขณะที่พระองค์ทรงจัดให้ประชาชนกลับ เมื่อทรงลาประชาชนแล้ว พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาเพื่อทรงอธิษฐานภาวนาตามลำพัง ครั้นเวลาค่ำ พระองค์ทรงอยู่ที่นั่นเพียงพระองค์เดียว ส่วนเรืออยู่ห่างจากฝั่งหลายร้อยเมตร กำลังแล่นโต้คลื่นอย่างหนักเพราะทวนลม
เมื่อถึงยามที่สี่ พระองค์ทรงดำเนินบนทะเลไปหาบรรดาศิษย์ เมื่อบรรดาศิษย์เห็นพระองค์ทรงดำเนินอยู่บนทะเลดังนั้น ต่างตกใจมากกล่าวว่า “ผีมา” และส่งเสียงอื้ออึงด้วยความกลัว
     ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” เปโตรทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์ ก็จงสั่งให้ข้าพเจ้าเดินบนน้ำไปหาพระองค์เถิด”
     พระองค์ตรัสว่า “มาเถิด” เปโตรจึงลงจากเรือ เดินบนน้ำไปหาพระเยซูเจ้า แต่เมื่อเห็นว่าลมแรง เขาก็กลัวและเริ่มจมลง แล้วร้องว่า “พระเจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วย” ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์จับเขา ตรัสว่า “ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง สงสัยทำไมเล่า”
     เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นมาประทับในเรือพร้อมกับเปโตรแล้ว ลมก็สงบ คนที่อยู่ในเรือจึงเข้ามากราบนมัสการพระองค์ ทูลว่า “พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง”

 


ข้อคิด
     พระวิหารเป็นบ้านแห่งการอธิษฐานภาวนาเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า เป็นศูนย์กลางแห่งการนมัสการสำหรับประชากรของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะคริสตชนเราไม่ได้ถูกจำกัดต่อสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเพื่อทำการรื้อฟื้นการถวายสักการบูชาของพระคริสตเจ้า ที่ใดมีการถวายมิสซา ที่นั่นพระเจ้าได้รับการนมัสการในพระจิตและความจริง ในสายพระเนตรของพระเจ้า วัดทุกวัด ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีคุณค่าไม่ต่างจากพระวิหารนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลที่กรุงโรม และที่สำคัญพระจิตเจ้าซึ่งเราได้รับในศีลล้างบาปทำให้เราแต่ละคนศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าประทับอยู่ในตัวเหมือนที่พระองค์ประทับอยู่ในวัด ดังนั้น อย่าปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายที่ทำให้ที่ประทับของพระเจ้ามัวหมองและเป็นมลทินเข้ามาในตัวเรา พยายามรักษาใจของเราที่สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ ให้สมกับเป็นที่ประทับอันทรงเกียรติของพระเจ้าตลอดไป

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown