วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2016 สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนตุลาคม 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 1415
บทอ่านจากหนังสือประกาศกฮาบากุก ฮบก 1:2-3 และ 2:2-4
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือนานสักเท่าใด พระองค์จึงจะทรงฟัง ข้าพเจ้าจะร้องเสียงดังทูลพระองค์ว่า “ทารุณ” พระองค์ก็ไม่ทรงช่วยให้รอดพ้น ทำไมพระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าเห็นการทำผิด และทรงนิ่งมองดูการกดขี่ข่มเหง ทั้งการปล้นและการใช้ความรุนแรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า การทะเลาะวิวาทและแตกสามัคคีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบข้าพเจ้าว่า “จงเขียนนิมิต และสลักไว้ให้ชัดเจนบนแผ่นกระดาน เพื่อให้อ่านได้ง่าย ยังไม่ถึงเวลาที่นิมิตนี้จะเป็นจริง แต่จะเป็นจริงในไม่ช้าตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน แม้นิมิตนี้จะล่าช้าไปบ้าง ก็จงคอยสักระยะหนึ่ง นิมิตนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยไม่ชักช้า ดูซิ ผู้มีจิตใจไม่ซื่อตรงก็จะล้มลง แต่ผู้ชอบธรรมจะมีชีวิตเพราะความซื่อสัตย์”
เพลงสดุดี สดด 95:1-11
ก) มาเถิด เราจงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี
เราจงโห่ร้องสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นหลักศิลาที่ช่วยเราให้รอดพ้น
เราจงเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์เพื่อขอบพระคุณ
เราจงโห่ร้องเพลงสดุดีถวายพรพระองค์ด้วยความยินดี
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเทพเจ้าใดๆ
ข) ส่วนลึกสุดของแผ่นดินอยู่ในพระหัตถ์พระองค์
ยอดภูเขาสูงสุดก็เป็นของพระองค์
ทะเลเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้าง
พระหัตถ์พระองค์ปั้นแผ่นดินแห้ง
มาเถิด เราจงกราบนมัสการพระองค์
เราจงคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างเรา
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเรา
และเราเป็นประชากรที่ทรงเลี้ยงดูดุจฝูงแกะที่ทรงนำไปยังทุ่งหญ้า
ค) ท่านทั้งหลายจงฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในวันนี้เถิด
“ท่านอย่าทำใจให้แข็งกระด้างเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่เมรีบาห์
เหมือนในวันนั้นที่มัสสาห์ในถิ่นทุรกันดาร
เมื่อบรรพบุรุษของท่านทดลองเรา
เขาทดสอบเรา แม้ได้เห็นการกระทำของเราแล้ว"
เราเอือมระอาคนรุ่นนั้นเป็นเวลานานสี่สิบปี
และพูดว่า "เขาทั้งหลายเป็นประชาชนที่มีใจไม่เที่ยงตรง
เขาไม่ยอมรู้จักทางของเรา
ดังนั้น เราจึงปฏิญาณด้วยความโกรธ
ว่าเขาทั้งหลายจะไม่มีวันได้เข้าในที่พักผ่อนของเราเลย"
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวก ถึงทิโมธี ฉบับที่สอง 2 ทธ 1:6-8,13-14
ลูกที่รักยิ่ง ข้าพเจ้าจึงเตือนความจำของท่านเพื่อให้พระพรพิเศษของพระเจ้าเป็นไฟที่รุ่งโรจน์ขึ้นอีก ท่านได้รับพระพรนี้โดยการปกมือของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา ดังนั้น ท่านอย่าอายที่จะเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรืออายที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำเพราะพระองค์ แต่จงเข้ามามีส่วนร่วมทนทุกข์ทรมานกับข้าพเจ้าเพื่อข่าวดีโดยพระอานุภาพของพระเจ้า
จงยึดถือคำสอนที่ถูกต้องซึ่งท่านได้ยินมาจากข้าพเจ้าไว้เป็นแบบอย่างด้วยความเชื่อและความรักในพระคริสตเยซู เดชะพระจิตเจ้าผู้สถิตในเรา จงรักษาของมีค่าที่ได้รับมอบไว้
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 17:5-10
เวลานั้น บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า “ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า ‘จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด’ ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
ท่านผู้ใดที่มีผู้รับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อผู้รับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับผู้รับใช้หรือว่า ‘เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด’ แต่จะพูดมิใช่หรือว่า ‘จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม’ นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า ‘ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น’”
ข้อคิด
แผ่นกระดานในสมัยโบราณมีขนาดใหญ่กว่าแผ่นหนังที่ใช้เขียนหนังสืออย่างมากมาย ภาพนิมิตที่ว่าพระเจ้าจะทรงแทรกเข้ามาในกระแสปลาใหญ่กินปลาน้อยเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกข่มเขงรังแกจากคนที่มีกำลังมากกว่าแม้ชัดเจนแต่บางทีความทุข์อย่างสาหัสทำให้เรารู้สึกว่านานจังกว่านิมิตนั้นจะเป็นจริง แต่พระเจ้าทรงขอให้เรามีความเชื่อ พระเยซูเจ้าจึงทรงสอนว่าจงเอาความเชื่อที่มีออกมาใช้ในเวลายากลำบากนี้ถ้ามีน้อยก็จงทูลขอความเชื่อจากพระเจ้า อย่าด่วนทวงเหมือนว่าพระเจ้าทรงติดหนี้สินเรา มีหรือเจ้านายต้องมาบริการคนใช้ ความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงต้องช่วยเหลือลูกของพระองค์เสมอมาชัดเจนอยู่แล้ว