วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2016 สัปดาห์ที่ 6เทศกาลปัสกา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนพฤษภาคม 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 1326
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 15:1-2,22-29
ในครั้งนั้น คริสตชนชาวยิวบางคนลงมาจากแคว้นยูเดียและสอนบรรดาพี่น้องว่า “ถ้าท่านทั้งหลายมิได้เข้าสุหนัตตามธรรมประเพณีของโมเสส ท่านจะรอดพ้นไม่ได้” เปาโลและบารนาบัสไม่เห็นด้วย จึงโต้แย้งกับเขาเหล่านั้นอย่างรุนแรง มีการตกลงกันให้เปาโลและ บารนาบัสพร้อมกับพี่น้องบางคนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อปรึกษาปัญหานี้กับบรรดา อัครสาวกและบรรดาผู้อาวุโส
บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสพร้อมกับคริสตชนทุกคนที่ชุมนุมกันตกลงใจเลือกสมาชิกบางคน เพื่อส่งไปยังเมืองอันทิโอกพร้อมกับเปาโลและบารนาบัส คือยูดาส ที่เรียกกันว่า บารซับบัสกับสิลาสทั้งสองคนนี้เป็นคนเด่นในบรรดาพี่น้อง ที่ประชุมเขียนจดหมายมอบให้คนเหล่านี้ถือไปใจความว่า
“จาก บรรดาอัครสาวก ผู้อาวุโส และบรรดาพี่น้อง
ถึง บรรดาพี่น้องซึ่งเคยเป็นคนต่างศาสนาอยู่ที่เมืองอันทิโอก ในแคว้นซีเรีย และแคว้น ซีลีเซีย ขอให้ท่านมีความสุขเถิด
เนื่องจากเรารู้ว่า พวกเราบางคนกล่าวถ้อยคำที่ทำให้ท่านสับสนและวุ่นวายใจ โดยไม่ได้รับคำสั่งจากเราเลย เราจึงตกลงกันเป็นเอกฉันท์เลือกบุรุษบางคนส่งมาพบท่านพร้อมกับบารนาบัสและเปาโลที่รักยิ่งของเรา ผู้เสี่ยงชีวิตเพื่อพระนามพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ดังนั้น เราจึงส่งยูดาสและสิลาสมาเล่าเรื่องที่เขียนนี้ให้ท่านฟังโดยตรง พระจิตเจ้าและพวกเราตกลงที่จะไม่บังคับให้ท่านแบกภาระอื่นอีก นอกจากสิ่งที่จำเป็นต่อไปนี้ คืองดเว้นการกินเนื้อสัตว์ที่ถวายให้รูปเคารพแล้ว งดเว้นการกินเลือดและเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และงดเว้นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าท่านทั้งหลายงดเว้นการกระทำเหล่านี้ก็จะเป็นการดี จงเจริญสุขเถิด”
เพลงสดุดี สดด 67:1-2,3-7
ก) ขอพระเจ้าทรงสำแดงพระเมตตาและประทานพระพรแก่เรา
ขอพระองค์โปรดให้พระพักตร์ฉายแสงมาเหนือเรา
แล้วแผ่นดินจะรู้จักทางของพระองค์
นานาชาติจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงช่วยให้รอดพ้น
ข) ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ประชาชาติทั้งหลายสรรเสริญพระองค์
ขอให้ทุกชาติทุกภาษาสรรเสริญพระองค์
ชนชาติทั้งหลายจงเปรมปรีดิ์และโห่ร้องด้วยความยินดี
เพราะพระองค์ทรงปกครองประชาชาติด้วยความเที่ยงธรรม
และทรงนำชนชาติทั้งหลายบนแผ่นดิน
ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ประชาชาติทั้งหลายสรรเสริญพระองค์
ขอให้ทุกชาติทุกภาษาสรรเสริญพระองค์
แผ่นดินผลิตพืชผล
ขอพระเจ้า พระเจ้าของเราทรงอวยพระพรเรา
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรเรา
เพื่อทุกคนทั่วแผ่นดินจะได้ยำเกรงพระองค์
บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์ วว 21:10-14,22-23
ทูตสวรรค์นำข้าพเจ้าเดชะพระจิตเจ้าไปบนภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่ง ชี้ให้ข้าพเจ้าเห็นกรุง เยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์ มาจากพระเจ้า นครนี้มีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า มีความสุกใสเหมือนเพชรพลอยล้ำค่า คล้ายแก้วมณีโชติช่วงเป็นผลึกสดใส มีกำแพงสูงใหญ่ ประตูสิบสองประตู แต่ละประตูมีทูตสวรรค์ประจำอยู่และมีชื่อจารึกไว้ คือชื่อตระกูลอิสราเอลสิบสองตระกูลทางทิศตะวันออกมีสามประตู ทางทิศเหนือมีสามประตู ทางทิศใต้มีสามประตูและทางทิศตะวันตกมีสามประตู กำแพงเมืองตั้งอยู่บนฐานศิลาสิบสองฐาน บนฐานศิลานั้นมีชื่อของบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสององค์ของลูกแกะ
ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารใดในนครนี้เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพและลูกแกะทรงเป็นพระวิหารของนครนี้ นครนี้ไม่ต้องการดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์เพื่อส่องสว่าง เพราะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนคร และลูกแกะทรงเป็นตะเกียงของนคร
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 14:23-29
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเราพระบิดาของเราจะทรงรักเขาพระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขาจะทรงพำนักอยู่กับเขาผู้ที่ไม่รักเรา ก็ไม่ปฏิบัติตามวาจาของเราวาจาที่ท่านได้ยินนี้ ไม่ใช่วาจาของเราแต่เป็นของพระบิดา ผู้ทรงส่งเรามาเราบอกสิ่งเหล่านี้ให้ท่านฟังขณะที่เรายังอยู่กับท่านแต่พระผู้ช่วยเหลือคือพระจิตเจ้าที่พระบิดาจะทรงส่งมาในนามของเรานั้นจะทรงสอนท่านทุกสิ่งและจะทรงให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราเคยบอกท่านเรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลายเราให้สันติสุขของเราแก่ท่านเราให้สันติสุขแก่ท่าน ไม่เหมือนที่โลกให้ใจของท่านอย่าหวั่นไหว หรือมีความกลัวเลยท่านได้ยินที่เราบอกกับท่านแล้วว่าเรากำลังจะไป และเราจะกลับมาหาท่านทั้งหลายถ้าท่านรักเรา ท่านคงยินดีที่เรากำลังไปเฝ้าพระบิดาเพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเราและบัดนี้เราได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเชื่อ”
ข้อคิด
การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู ประกาศความจริงที่ว่า พระองค์ไม่ได้ตายจาก...แต่ยังคงอยู่กับบรรดาศิษย์ของพระองค์ แม้วันเวลาจะผ่านไปยาวนานเท่าไร...มืดมิดเพียงไรก็ไม่เคยยาวนานและมืดมิดเกินกว่าที่พระองค์จะเสด็จมาและประทับอยู่กับเขาความรักห่วงใยของพระเจ้าไม่เคยจางหายจากหัวใจของพระองค์...แม้ในวันนั้นที่ความรักภักดีจะขาดหายไปจากหัวใจของบรรดาศิษย์
ในวันนั้นที่เขาบาดเจ็บมากที่สุด พระองค์ตรัสกับเขาว่าเราให้สันติสุขของเราแก่ท่านสันติสุขของเราเรามอบให้แก่ท่านในวันนั้นที่เขาว่าหวาดกลัวมากที่สุดพระองค์ตรัสกับเขาว่าอย่าให้ใจของท่านหวั่นไหวเลยอย่ากลัวเลยพระบิดากับเราพำนักอยู่กับท่าน
สิ่งนี้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ศิษย์ของพระองค์สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงปลอดภัย และมีความสุขแม้ในท่ามกลางมรสุมร้ายของชีวิต