พระสันตะปาปาตรัสกับบรรดาพระสงฆ์ : พ่อรู้ “การไปไหนมาไหนด้วยชุดนักบวช” หมายถึง “ต้องจ่ายชดใช้เรื่องเหล่านี้ด้วยราคาแพง”
- รายละเอียด
- หมวด: vatican news
- เขียนโดย คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม
- ฮิต: 391
• ระหว่างทางเสด็จไปยังวิหารซานติอาโก โอกาสเสด็จเยือนประเทศชิลี พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงต้องฝ่าบรรดาฝูงชนและอีกหลายร้อยคน
ที่ติดตามเส้นทางรถขับเคลื่อนของพระองค์ ผ่านไปตามถนนในเมือง
• ความยินดีเบิกบานเมื่อพระสันตะปาปาเสด็จเข้าร่วมกับผู้คนที่รออยู่ในวิหาร พระสันตะปาปาทรงพบปะกับพระสงฆ์ สามเณร และนักบวช ในประเทศชิลี
ก่อนการทักทาย พระสันตะปาปาทรงถวายช่อดอกไม้แด่พระรูปพระมารดาแห่งภูเขาคาร์แมล
• หลังจากได้อ่านพระวาจาแล้ว พระสันตะปาปาประทานสุนทรพจน์ขนาดยาวพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์นักบวช
เนื้อหาของพระองค์ส่วนแรกชัดเจนมาก สร้างรอยยิ้ม เสียงปรบมือต่อผู้ฟัง
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“แม้เราแต่ละคนต่างคนต่างก็ได้รับเรียกให้มารับใช้ แต่ก็ต้องมาเข้าร่วมเป็นกลุ่มใหญ่ ที่กระแสเรียกมีความสัมพันธ์ร่วมกัน ไม่เหมือนการถ่ายภาพเซลฟี่
เพราะกระแสเรียกต้องการใครบางคนมาถ่ายรูปให้ได้เสมอ และนี่เป็นสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติให้ได้”
• อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักพระสันตะปาปาฟรังซิสก็ทรงเปลี่ยนไปสู่เรื่องที่จริงจังและเจ็บปวดมากขึ้น พระองค์ตรัสถึงเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์
พระสันตะบิดรตรัสว่าพระองค์ทรงรู้ถึงผลรับจากอาชญากรรมนี้
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“แน่นอนความเจ็บปวดนี้ส่งผลต่อสังคมพระศาสนจักร และความเจ็บปวดนี้มาถึงตัวลูก พี่น้องชายหญิงคนอื่นด้วย หลังจากที่ทำงานอย่างหนัก ได้เห็นการทำร้าย
ซึ่งนำไปสู่ความกังขา ตั้งคำถาม ในบางคนหรือหลายๆ คน ที่เป็นต้นเหตุแห่งความสงสัย ความหวาดกลัว หรือสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจ
พ่อรู้ว่าในช่วงเวลาเหล่านั้น พวกลูกได้รับการดูถูกเหยียดหยามในรถไฟใต้ดินหรือเมื่อเดินบนถนน และเมื่อไปไหนมาไหนด้วยชุดนักบวชตามที่ต่างๆ
ลูกต้องจ่ายชดใช้เรื่องเหล่านี้ด้วยราคาแพง”
• การเผชิญหน้ากับโลกียวิสัยที่ทวีขึ้นในสังคมชาวชิลี พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องให้บรรดาพระสงฆ์อย่านั่ง “ทำทองไม่รู้ร้อนเหนือความแห้งแล้งฝ่ายจิต”
ของสังคมนี้ พระองค์ยังทรงเตือนว่าพละกำลังของพวกเขามาจากพระเมตตาของพระเจ้า
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“เรามาอยู่ที่นี่มิใช่เพราะเราดีกว่าคนอื่น เราไม่ใช่บุคคลเหนือมนุษย์ ที่ลดตัวลงมาจากเบื้องบนเพื่อเข้ามาเผชิญกับโลกแห่งความตาย
เราถูกส่งออกไปดั่งชายและหญิงที่มีสำนึกของผู้ได้รับการยกโทษให้อภัย”
• ดังนั้นพระสันตะปาปาทรงเชื้อเชิญพระสงฆ์นักบวช ให้เข้าหาผู้คนปราศจากการตัดสินหรือกล่าวโทษพวกเขาเหล่านั้น แต่เข้าหาด้วยความสุภาพถ่อมตน
ในความบกพร่องที่มีของตน
พระสันตะปาปาฟรังซิส
“พระศาสนจักรที่มีบาดแผลจึงจะเข้าใจบาดแผลของโลกทุกวันนี้ และทำตนให้เป็นผู้แบกรับทุกข์ทรมานร่วมกับพวกเขา ร่วมทางไปกับเขา และแสวงหาการเยียวยาพวกเขา
พระศาสนจักรที่มีบาดแผลไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ไม่เชื่อว่าตนเองดีสมบูรณ์แบบและมอบแด่ท่านผู้สามารถเยียวยารักษาแผลได้ไว้ที่ศูนย์กลาง นามของท่านผู้นั้นคือพระเยซูคริสตเจ้า”
• ในบทสรุป พระสันตะบิดรทรงให้กำลังใจ ให้พวกเขามีทัศนคติเหมือนดัง พระคาร์ดินัล ราอูล ซิลวา เอ็นริเกว์ซ ผู้เป็นที่รักของชาวชิลี และได้รับการนับถือจากผู้คน
นอกนั้นอย่ามัวคอยท่ากังวลเรื่องแนวคิดของสังคมว่าจะประกาศพระวรสารได้หรือไม่ แต่จะต้องสามารถเข้าถึงผู้เหน็ดเหนื่อยทุกคนที่ปรารถนาจะพบองค์พระเยซูเจ้า