ชีวประวัติของพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ชื่อเดิมโรเบิร์ต ฟรังซิส พรีโวสต์ (Biography of Pope Leo XIV, born Robert Francis Prevost)
- รายละเอียด
- หมวด: vatican news
- เขียนโดย Nuphan Thasmalee
- ฮิต: 42
ชีวประวัติของพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ชื่อเดิมโรเบิร์ต ฟรังซิส พรีโวสต์ (Biography of Pope Leo XIV, born Robert Francis Prevost)
ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 พระคาร์ดินัลโรเบิร์ต ฟรานซิส เปรโวสต์ เคยดำรงตำแหน่งสมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงเพื่อบรรดาพระสังฆราช (Prefect of the Dicastery for Bishops) นี่คือชีวประวัติของพระสังฆราชแห่งโรมคนที่ 267 ท่านเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากคณะออกัสติน เป็นพระสันตะปาปาองค์ที่สองจากทวีปอเมริกา ต่อจากพระสันตะปาปาฟรังซิส ซึ่งแตกต่างจากฆอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ (พระนามเดิมของพระสันตะปาปาฟรังซิส) โรเบิร์ต ฟรังซิส เปรโวสต์ อายุ 69 ปี มาจากทางภาคเหนือของทวีปอเมริกา แม้ว่าท่านจะเคยเป็นธรรมทูตในเปรูหลายปีก่อนจะได้รับเลือกเป็นเจ้าคณะออกัสตินถึงสองสมัยติดต่อกัน
พระสันตะปาปาองค์แรกจากคณะออกัสติเนียน (First Augustinian Pope)
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน 1955 ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เป็นบุตรของหลุยส์ มาริอุส เปรโวสต์ (Louis Marius Prevost) ซึ่งมีเชื้อสายฝรั่งเศสและอิตาลี และ มิลเดรด มาร์ติเนซ ซึ่งมีเชื้อสายสเปน (Mildred Martínez) ท่านมีพี่น้องเป็นชายอีก 2 คน คือ หลุยส์ มาร์ติน และจอห์น โจเซฟ (Louis Martín and John Joseph) ท่านใช้ชีวิตวัยเด็กและวัยรุ่นอยู่กับครอบครัว และศึกษาที่บ้านเณรเล็กของคณะออกัสติเนียน (Minor Seminary of the Augustinian Fathers) จากนั้นจึงศึกษาต่อที่มหาวิทยรลัยวิลลาโนวา (Villanova University) ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งในปี 1977 ท่านได้รับปริญญาด้านคณิตศาสตร์ และปรัชญา
ในวันที่ 1 กันยายนของปีเดียวกันนั้น พรีโวสต์ได้เข้าเป็นสามเณรของคณะนักบุญออกัสติน (Order of Saint Augustine หรือ O.S.A.) เมืองเซนต์หลุยส์ ในเขตปกครองที่ชื่อว่า มารดาผู้แนะนำ (Our Lady of Good Counsel) เมืองชิคาโก และทำพิธีปฏิญาณตนครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กันยายน 1978, ในวันที่ 29 สิงหาคม 1981 ท่านได้กล่าวปฏิญาณถวายตัวตลอดชีวิต
ท่านได้รับการศึกษาด้านเทววิทยาจากสหภาพเทววิทยาคาทอลิกในเมืองชิคาโก (Catholic Theological Union in Chicago), เมื่ออายุได้ 27 ปี เจ้าคณะได้ส่งท่านไปกรุงโรมเพื่อศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายศาสนจักรที่มหาวิทยาลัยสันตะสำนักของนักบุญโทมัสอไควนัส (Angelicum)
ในกรุงโรม ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1982 ณ วิทยาลัยออกัสติเนียนแห่งนักบุญมอนิกา (Augustinian College of Saint Monica) โดยพระอัครสังฆราชฌอง จาโดต์ (Archbishop Jean Jadot) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานสำนักงานเลขานุการเพื่อผู้ที่ไม่ใช่คริสตชน (pro-president of the Secretariat for Non-Christians) ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสมณกระทรวงเพื่อศาสนสัมพันธ์ในปัจจุบัน
ท่านเรียนจบปริญญาโทในปี 1984 และในปีถัดมา ขณะที่ท่านกำลังทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก ท่านได้ถูกส่งไปทำงานที่ศูนย์แพร่ธรรมคณะออกัสติเนียน เมืองชูลูคานัส แคว้นปิอูรา (Chulucanas, Piura) ประเทศเปรู (1985–1986) ในปี 1987 ท่านได้ปกป้องวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกในหัวข้อ "บทบาทของเจ้าอาวาสท้องถิ่นในคณะออกัสติน” (The Role of the Local Prior in the Order of Saint Augustine) และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายกระแสเรียก และผู้อำนวยการฝ่ายธรรมทูตของคณะออกัสติน แขวงมารดาผู้แนะนำ ในหมู่บ้านโอลิมปิค รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา
พันธกิจในเปรู (Mission in Peru)
ในปีถัดมา ท่านเข้าร่วมการทำงานแพร่ธรรมในเมืองทรูจิลโล (Trujillo) ประเทศเปรู ในฐานะผู้อำนวยการโครงการฝึกอบรมร่วมสำหรับสนใจคณะออกัสตินจากเขตปกครองชูลูกานัส, อีกีโตส, และอาปูริมัก (Chulucanas, Iquitos, and Apurímac) ตลอดระยะเวลา 11 ปี ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส (1988–1992) ผู้อำนวยการฝ่ายอบรม (1988–1998) อาจารย์ผู้สอนสมาชิกที่ถวายตัว (1992–1998) ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายตุลาการ (1989–1998) ในเขตอัครสังฆมณฑลทรูฮิลโย (Archdiocese of Trujillo) ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้า กฎหมายศาสนจักร, ปิตาจารย์วิทยา, และเทววิทยาศีลธรรมที่สามเณรใหญ่ “นักบุญคาร์ลอสและนักบุญมาร์เซโล”
ในเวลาเดียวกัน เป็นจิตตาธิการของกลุ่มคริสตชนมารดาพระศาสนจักร ซึ่งต่อมาได้จัดตั้งเป็นวัดนักบุญริตา (1988–1999) ในเขตชานเมืองที่ยากจนของเมือง และเป็นผู้ดูแลวัดแม่พระแห่งมอนเซอร์รัต (Our Lady of Monserrat) ตั้งแต่ปี 1992 ถึง 1999 ในปี 1999 ท่านได้รับเลือกเป็นเจ้าคณะแขวงของคณะออกัสติน “มารดาผู้แนะนำ” ในชิคาโก และอีกสองปีครึ่งต่อมา จากการสมัชชาของคณะได้เลือกให้ท่านเป็นเจ้าคณะแขวง และแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในปี 2007
ในเดือนตุลาคม 2013 ท่านกลับไปยังแขวงออกัสตินในเมืองชิคาโก โดยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการอบรมที่อารามนักบุญออกัสติน เป็นที่ปรึกษาอันดับหนึ่ง และผู้ช่วยเจ้าคณะ ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ทำอยู่จนกระทั่งพระสันตะปาปาฟรังซิสแต่งตั้งท่านให้เป็นผู้บริหารอัครสังฆมณฑลชิกลาโยแห่งเปรู (Peruvian Diocese of Chiclayo) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2014 และทรงแต่งตั้งท่านให้เป็นพระสังฆราชเกียรตินามแห่งซูฟาร์ (Titular Bishop of Sufar)
ท่านเข้าสู่สังฆมณฑลเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยมีพระสมณทูตเจมส์ แพทริก กรีน (James Patrick Green) ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระสังฆราชเพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันฉลองพระแม่กัวดาลูป ณ อาสนวิหารพระนางมารีย์ คติพจน์ประจำตำแหน่งพระสังฆราชของท่านคือ “In Illo uno unum” (ในพระองค์ผู้เดียวเท่านั้น) ซึ่งเป็นคำที่นักบุญออกัสตินกล่าวในบทเทศน์จากเพลงสดุดีบทที่ 127 เพื่ออธิบายว่า “แม้ว่าเราซึ่งเป็นคริสตชนจะมีจำนวนมาก แต่ในพระคริสตเจ้าพระองค์เดียว เราก็เป็นหนึ่งเดียวกัน”
พระสังฆราชแห่งชิกลาโย เปรู (Bishop of Chiclayo, Peru, from 2015 to 2023)
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2015 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชแห่งชิกลาโย (Bishop of Chiclayo) จากพระสันตะปาปาฟรังซิส ในเดือนมีนาคม 2018 ท่านได้รับเลือกเป็นรองประธานคนที่สองของสภาพระสังฆราชแห่งเปรู ซึ่งท่านยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเศรษฐกิจและประธานคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมและการศึกษาอีกด้วย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2019 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นสมาชิกของสมณกระทรวงเพื่อพระสงฆ์ และวันที่ 21 พฤศจิกายน 2020 ทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นสมาชิกของสมณกระทรวงเพื่อบรรดาพระสังฆราช ในขณะเดียวกัน ในวันที่ 15 เมษายน 2020 ท่านยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารอัครสังฆมณฑลคัลลาโอ (Diocese of Callao) ของเปรูด้วย
สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงเพื่อบรรดาพระสังฆราช (Prefect of the Dicastery for Bishops)
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกท่านไปกรุงโรมเพื่อดำรงตำแหน่งสมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงเพื่อบรรดาพระสังฆราช และประธานคณะกรรมาธิการแห่งสันตะสำนักเพื่อประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยได้รับการเลื่อนฐานันดรเป็นพระอัครสังฆราช
เป็นพระคาร์ดินัลปี 2024 (Created Cardinal in 2024)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นพระคาร์ดินัลพระสงฆ์ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2024 ท่านเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2024 ในฐานะสมณมนตรีแห่งสมณสภา ท่านได้เข้าร่วมในการเดินทางอภิบาลในต่างประเทศครั้งสุดท้ายของพระสันตะปาปา และเข้าร่วมการสมัชชาสมัยแรกและสมัยที่สองของการประชุมสมัชชาใหญ่ของบรรดาพระสังฆราช สามัญครั้งที่ 16 เรื่องการก้าวเดินไปด้วยกัน ซึ่งจัดขึ้นในกรุงโรมตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 29 ตุลาคม 2023 และตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 27 ตุลาคม 2024
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 4 ตุลาคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งให้ท่านเป็นสมาชิกของสมณสภาต่าง ๆ เพื่อการประกาศพระวรสาร (แผนกการประกาศพระวรสารครั้งแรกและพระศาสนจักรที่เกิดขึ้นใหม่) สำหรับข้อความเชื่อ สำหรับพระศาสนจักรต่าง ๆ ฝ่ายตะวันออก สำหรับพระสงฆ์ สำหรับสถาบันชีวิตผู้ถวายตัวและและเพื่อชีวิตการแพร่ธรรม สำหรับวัฒนธรรมและการศึกษา สำหรับข้อกฏหมาย และคณะกรรมาธิการนครรัฐวาติกัน
ในที่สุด เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเลื่อนตำแหน่งให้ท่านเป็นพระคาร์ดินัลพระสังฆราช และปกครองเขตปกครองรอบกรุงโรมอัลบาโน (Suburbicarian Church of Albano) สามวันต่อมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2025 ท่านได้เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณในนามพระสันตะปาปาฟรังซิส ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ยูบีลีของกองทัพ
ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งที่สองของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง ระหว่างที่อดีตพระสันตะปาปาฟรังซิสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลี พระคาร์ดินัลเปรโวสต์ (พระสันตะปาปาเลโอที่ 14) ได้เป็นประธานสวดสายประคำเพื่อสุขภาพของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่จัตุรัสนักบุญเปโตรเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2025