ความเชื่อแห่งปัสกาผลักดันเราให้แสวงหาพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพด้วยความหวังและความชื่นชมยินดี (Pope: Easter faith spurs us to seek the risen Lord with hope and joy)

     วันอาทิตย์ปัสกา 20 เมษายน 2025 สมโภชพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนบรรดาสัตบุรุษที่มาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ว่า “ให้เรารีบแสวงหาพระเยซูเจ้าเจ้าผู้ทรงกลับฟื้นคืนพระชนมชีพ เช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวกกลุ่มแรก และฟื้นฟูพระหรรษทานแห่งความหวังภายในตัวเรา และแบ่งปันให้กับผู้ที่เราพบตลอดเส้นทางชีวิตของเรา” พระคาร์ดินัลแองเจโล โคมัสตรี (Card. Angelo Comastri) อัครสงฆ์กิตติคุณของพระมหาวิหารนักบุญเปโตร เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณและอ่านบทเทศน์แทนพระสันตะปาปาฟรังซิส ท่ามกลางบรรดาสัตบุรุษประมาณ 50,000 คน ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยดอกไม้จากผู้สนับสนุนชาวดัตซ์ ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 39 ปีของการจัดดอกไม้อย่างสวยงาม ณ บริเวณจตุรัสนักบุญเปโตรนี้

รีบเร่งในการแสวงหาพระเจ้า (Haste in looking for the Lord)

     มารีย์ชาวมักดาลา, เปโตร, และยอห์น ต่างเร่งรีบไปทำการค้นหา และเป็นพยานถึงหลุมฝังศพที่ว่างเปล่า การ “วิ่ง” ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับร่างของพระเยซูเจ้าได้ถูกนำออกไปเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความปรารถนา “ความกระหายของหัวใจ ทัศนคติที่อยู่ภายในของผู้ที่ออกเดินทางค้นหาพระเยซูเจ้า” ผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพจากความตาย และ “เราต้องแสวงหาหาพระองค์ในที่อื่น ๆ”

การแสวงหาพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพอย่างจริงจัง (Actively seeking the risen Christ)

     “พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่” “ไม่ใช่นักโทษแห่งความตายอีกต่อไป” สิ่งนี้ต้องการให้เรา “ลงมือทำ” โดยตั้งเป้าหมายที่จะค้นหาพระเจ้าในชีวิตของเรา ในพี่น้องของเรา ในประสบการณ์ประจำวันของเรา “ทุกที่ ยกเว้นในหลุมฝังศพ” “พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ทุกแห่งหน พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางพวกเรา พระองค์ทรงซ่อนพระองค์เอง และเผยพระองค์ให้เห็นแม้กระทั่งทุกวันนี้ ในตัวพี่น้องที่เราพบระหว่างทาง ในสถานการณ์ที่ธรรมดาและคาดเดาไม่ได้ ที่สุดในชีวิตของเรา พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่และอยู่กับเราเสมอ ทรงหลั่งน้ำตาของผู้ที่ทุกข์ทรมาน และทรงเติมเต็มความงดงามของชีวิตผ่านการกระทำแห่งความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราแต่ละคนได้กระทำ”

การต้อนรับพระเจ้าในชีวิตของเรา (Welcoming the Lord into our lives)

     ความเชื่อแห่งปัสกาเปิดประตูให้เราได้พบกับพระเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ และต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตของเรา ความจริงของวันปัสกานี้ “ผลักดันให้เราลงมือกระทำ” พระองค์ทรงเน้นย้ำว่า “ให้วิ่งเหมือนมารีย์ชาวมักดาลาและบรรดาอัครสาวก” เพื่อแสวงหาและพบกับพระเจ้า ให้มีดวงตาที่ “มองเห็นสิ่งที่อยู่เหนือ” และสัมผัสถึงพระเยซูเจ้าในฐานะ “ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่” และทรงอยู่กับเราในวันนี้ เสด็จนำหน้าเรา ช่วยเหลือเรา สร้างความประหลาดใจให้เรา“เหมือนกับมารีย์ชาวมักดาลา เราอาจประสบกับการสูญเสียพระเจ้าทุกวัน แต่ทุกวันเรายังสามารถวิ่งไปหาพระองค์อีกครั้ง ด้วยความมั่นใจว่า พระองค์จะทรงให้เราพบพระองค์เอง และจะทรงเติมเต็มเราด้วยแสงสว่างของการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์”

การมีประสบการณ์ความหวังอันยิ่งใหญ่ในชีวิต (Experiencing life’s greatest hope)

     พี่น้องที่รัก นี่คือความหวังสูงสุดในชีวิตของเรา แม้ว่าเราจะอยู่ในความยากจน เปราะบาง และมีบาดแผล โดยยึดมั่นในพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงเอาชนะความตาย พระองค์ทรงเอาชนะความมืดมนของเรา และพระองค์จะทรงเอาชนะความมืดมนของโลก เพื่อให้เราได้มีชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดีตลอดไป

การฟื้นฟูและการแบ่งปันความหวัง (Renewing and sharing hope)

     “ปีศักดิ์สิทธิ์เชิญชวนให้เราฟื้นฟูพระหรรษทานแห่งความหวังภายในตัวเรา มอบความทุกข์และความกังวลของเราให้กับความหวัง แบ่งปันกับผู้ที่เราพบระหว่างการเดินทาง และไว้วางใจที่จะหวังถึงอนาคตในชีวิตของเรา และโชคชะตาของครอบครัวมนุษยชาติ” เราไม่ควรพอใจกับสิ่งที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในโลกนี้ หรือปล่อยให้ความโศกเศร้าเข้ามาครอบงำ แต่เราควร “วิ่งด้วยความชื่นชมยินดี” ในการพบกับพระเจ้า และค้นพบ “พระหรรษทานอันล้ำค่าของการเป็นเพื่อนของพระองค์” อีกครั้ง “พี่น้องที่รัก ในความมหัศจรรย์ของความเชื่อของปัสกา เราแบกรับความคาดหวังถึงสันติภาพและการปลดปล่อยไว้ในใจ เราสามารถกล่าวได้ว่า ด้วยพระองค์ โอ้พระเจ้า ทุกสิ่งคือความใหม่ ด้วยพระองค์ ทุกสิ่งเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”