ขอให้พยานแห่งความชื่นชมยินดีในพระวรสารนำสันติภาพและความหวัง (Pope at Audience: May witness to “joy of the Gospel” bring peace and hope)

     ในการสอนคำสอนต่อเนื่อง โอกาสการเข้าเฝ้าทั่วไปประจำสัปดาห์เรื่องพระจิตเจ้าในชีวิตของพระศาสนจักร พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงไตร่ตรองถึงพระหรรษทานแห่งความชื่นชมยินดีฝ่ายจิต ซึ่งเป็นหนึ่งในพระคุณของพระจิตเจ้า เมื่อความยินดีทางโลกหมดสิ้นไป พระจิตเจ้าประทานความยินดีที่ลึกซึ้งและยาวนานแก่เรา ซึ่งเกิดจากการประทับอยู่ของพระองค์ในจิตใจของเรา เป็นแรงบันดาลให้เราแบ่งปันความยินดีนี้แก่ผู้อื่น

พระหรรษทานและเสรีภาพ (Grace and freedom)

     พระคุณของพระจิตจ้าเป็นผลจากความร่วมมือของเรา ระหว่างพระหรรษทานและเสรีภาพ เมื่อเราได้แสดงออกถึงความสร้างสรรค์ของแต่ละคนที่ "ความเชื่อทำงานผ่านทางความรัก" ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครและมีความชื่นชมยินดี ในขณะที่เราทุกคนมีพระหรรษทานพิเศษ เราทุกคนไม่มีการแบ่งแยก เราจะต้องเป็น "คนใจบุญ คนที่อดทน และคนที่ถ่อมตัวเพื่อสันติภาพ" เสมอ

ความชื่นชมยินดีเป็นพระคุณของพระจิตเจ้า (Joy, fruit of the Spirit)

     ความยินดีที่เป็นผลมาจากพระจิตเจ้า ทำให้เรารู้สึกสมบูรณ์และได้รับการเติมเต็ม ซึ่งทำให้ทุกคนปรารถนาสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป ดังคำอธิษฐานภาวนาของนักบุญออกัสตินต่อพระเจ้าที่ว่า “พระองค์ทรงสร้างเราเพื่อพระองค์เอง และจิตใจของพวกเราจะไม่ได้รับการพักผ่อนจนกระทั่งได้พักอยู่ในพระองค์”

ความชื่นชมยินดีที่เพิ่มคูนทวี (Joy shared multiplies)

   “ความชื่นยินดีในพระวรสารไม่เหมือนกับความสุขอื่น ๆ เพราะสามารถรื้อฟื้นได้ในทุก ๆ วันและส่งต่อไปยังผู้อื่นได้” และต้องขอบคุณการเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องกับความรักของพระเจ้า “ซึ่งผลิบานเป็นมิตรภาพที่สวยงาม เราจึงได้รับการปลดปล่อยจากความใจแคบและจากการเห็นแก่ตัวของเรา” นี่คือที่ที่เราพบ "บ่อเกิดและการดลใจของความพยายามทั้งหมดของเราในการประกาศพระวรสาร" เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่เราได้รับแรงบันดาลใจให้แบ่งปันความสุขนี้กับผู้อื่น
ความยินดีที่เป็นผลของพระจิตเจ้าไม่จืดจางหายไป และจะ "เพิ่มทวีคูณมากขึ้นเมื่อมีการแบ่งปันให้กับผู้อื่น"

นักบุญฟิลิปเนรีเป็นนักบุญแห่งความชื่นชมยินดี (The Saint of joy, Philip Neri)

     ประจักษ์พยานของนักบุญฟิลิป เนรี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงโรมเมื่อห้าศตวรรษก่อน และกลายเป็นที่รู้จักในนาม "นักบุญแห่งความชื่นยินดี" ท่านเคยพูดกับเด็กยากจนและถูกทอดทิ้งในโรงสวดของท่านว่า “ลูก ๆ ของพ่อ จงร่าเริงยินดีเถิด พ่อไม่ต้องการกังวลหรือเศร้าโศก เพียงพอแล้วสำหรับพ่อที่ลูกจะไม่ทำบาป” ความยินดีของนักบุญฟิลิปเป็นผลมาจากพระจิตเจ้า ท่านจึงกลายเป็น "ผู้ประกาศพระวรสารด้วยความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริง"

ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร (Joy of the Gospel)

     คำว่า “พระวรสาร” หมายถึงข่าวที่นำความชื่นชมยินดี ขอให้ทุกคนนึกถึงคำสอนของนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปีว่า “จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาเถิด ข้าพเจ้าขอย้ำอีกว่า จงชื่นชมเถิด จงให้ความอ่อนโยนของท่านทั้งหลายปรากฏแก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาใกล้แล้ว” (ฟป 4:4-5)