มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

ความพอประมาณจะไม่ปล้นความสุขของเราแต่จะเติมเต็มความสุขให้กับเรา (Pope at Audience: Temperance won't rob our joy, but will fill us with happiness)

 

ความพอประมาณจะไม่ปล้นความสุขของเราแต่จะเติมเต็มความสุขให้กับเรา (Pope at Audience: Temperance won't rob our joy, but will fill us with happiness)

     เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2024 ในการเข้าเฝ้าทั่วไปในเข้าวันพุธ พระสันตะปาปาฟรังซิสมุ่งความสนใจไปที่คุณธรรมประการที่สี่ และประการสุดท้ายแห่ง ความพอประมาณ โดยตรัสว่าความสามารถของเราในการมีอำนาจเหนือตนเอง จะช่วยให้เราได้ลิ้มรสทุกสิ่งที่เรามีในชีวิต ในวิธีที่มีความหมายและสนุกสนานมากขึ้น คล้ายกับการจิบเครื่องดื่ม ไวน์หนึ่งแก้วแทนที่จะดื่มทั้งหมดในคราวเดียว ความสามารถของเราในการควบคุมตนเอง และควบคุมความสนใจของเรา สามารถพาเราไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนต่อเนื่องเรื่องความชั่วร้ายและคุณธรรมมาหลายเดือน คือ ความรอบคอบ ความอดทน ความยุติธรรม ความแข็งแกร่ง และในวันนี้ความพอประมาณ

 

กลั่นกรองความสัมพันธ์ของเรากับความสุข (Moderates our relationship with pleasures)

     ความพอประมาณเป็น “คุณธรรมทางศีลธรรมที่ช่วยควบคุมแรงจูงใจของความสุขและให้ความสมดุลในการใช้สิ่งต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้น” ยิ่งกว่านั้น ความพอประมาณ “ทำให้เจตจำนง (การเลือกอย่างมีอิสระและรับผิดชอบ) มีอำนาจเหนือกว่าสัญชาตญาณ และรักษาความปรารถนาให้อยู่ในขอบเขตของสิ่งที่น่านับถือ” โดยสังเกตว่า คนใจเย็น “จะนำความปรารถนาที่ละเอียดอ่อนไปสู่สิ่งที่ดี และรักษาดุลยพินิจที่ดีต่อสุขภาพ และไม่ปฏิบัติตาม ความปรารถนาเป็นพื้นฐานที่จะช่วยยับยั้งความปรารถนาของเรา” คุณธรรมนี้มีประวัติที่ย้อนกลับไปในอดีต และไม่เพียงแต่เฉพาะของคริสตชนเท่านั้น

 

อำนาจเหนือตนเอง (Power over oneself)

     คำสอนของอริสโตเติล (นักปรัชญาชาวกรีกยุคโบราณ) เกี่ยวกับเรื่องเอ็นกราเตเอีย (enkráteia) เป็นคำภาษากรีกแปลว่า "อำนาจเหนือตนเอง" เป็นพื้นฐานของคุณธรรมในแนวคิดเรื่องความสุข เมื่อวันเวลาผ่านไป ความพอประมาณเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็น “ความสามารถในการควบคุมตนเอง” ซึ่งเป็น “ศิลปะแห่งการไม่ปล่อยให้ตนเองถูกเอาชนะด้วยกิเลสตัณหาที่กบฏ” ความพอประมาณนี้ คือคุณธรรมของมาตรวัดที่ถูกต้อง

 

ตัดสินด้วยวิจารณญาณที่ดีท่ามกลางแรงดึงดูดต่าง ๆ (Savours with good judgment amid impulses)

     บุคคลผู้ใจเย็นประพฤติตนอย่างรอบคอบ จะพบกับความสนุกสนาน “แรงผลักดันและการตัดสินใจอย่างเสรีที่สอดคล้องกับความพึงพอใจ กลับส่งผลย้อนกลับมาที่เรา ทำให้เราจมดิ่งลงสู่สภาวะเบื่อหน่าย มีกี่คนที่อยากลองทุกอย่างอย่างตะกละตะกลาม กลับพบว่าตัวเองสูญเสียรสชาติไปทุกอย่าง!”
เมื่อพิจารณาอย่างนี้แล้ว เราควรเพลิดเพลินพอประมาณ ตัวอย่างเช่น การชื่นชมไวน์ดี ๆ คือ “การจิบไวน์ทีละน้อย” แทนที่จะดื่มทั้งหมดในคราวเดียว

 

รู้มาตรการที่ถูกต้อง (Knows the right measure)

     บุคคลผู้มีนิสัยใจเย็น รู้วิธีชั่งน้ำหนักคำพูดและจัดวางให้ดี “เขาไม่ยอมให้ความโกรธชั่วครู่มาทำลายความสัมพันธ์ และมิตรภาพที่สามารถสร้างใหม่ได้ด้วยความยากลำบาก” โดยเฉพาะ “ในชีวิตครอบครัว ที่ซึ่งความยับยั้งชั่งใจมีน้อยกว่า เราทุกคนต่างไม่ค่อยที่จะรักษาความตึงเครียด ความระคายเคือง และความโกรธ แต่ง่ายที่จะระบายมันออกมา" “นี่ไม่ได้หมายความว่า เราจะพบกันและกันด้วยใบหน้าที่สงบและยิ้มแย้มอยู่เสมอ” บางครั้งจำเป็นต้องขุ่นเคือง “แต่ในทางที่ถูกต้องเสมอ” คำพูดตำหนิบางครั้งมีประโยชน์มากกว่าความเงียบที่ฉุนเฉียวและขมขื่น “คนใจเย็นรู้ว่าไม่มีอะไรน่าอึดอัดไปกว่าการแก้ไขผู้อื่น แต่เขาก็รู้ด้วยว่ามันจำเป็น”

 

จัดการสุดขั้วได้อย่างสง่างาม (Manages extremes gracefully)

     “ในบางกรณี คนใจเย็นประสบความสำเร็จในการยึดถือความสุดโต่งร่วมกัน เขายืนยันหลักการที่สมบูรณ์ ยืนยันค่านิยมที่ไม่สามารถต่อรองได้ แต่ยังรู้วิธีที่จะเข้าใจผู้คน และแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อพวกเขา” สิ่งนี้สร้าง “ความสมดุลในการใช้ชีวิต” เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและหายาก เมื่อ “ทุกสิ่งในโลกของเรากดดันจนเกินพอดี” ความพอประมาณ “เข้ากันได้ดีกับคุณค่าของพระวรสาร เช่น ความเล็กน้อย ความรอบคอบ ความสุภาพเรียบร้อย ความอ่อนโยน”
ความพอประมาณไม่ได้ทำให้คน "มีสีเทาและไม่มีความสุข" แต่ "ในทางตรงกันข้าม" มัน "ทำให้คนเราเพลิดเพลินกับสิ่งดี ๆ ของชีวิตมากขึ้น"

 

 

 

 

 

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown