เราสามารถได้รับคุณธรรมโดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้า (Pope at Audience: We can acquire virtue through God's grace)

     เมื่อวันพุธที่ 13 มีนาคม 2024 ในระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพุธ พระสันตะปาปาฟรังซิสยังคงบรรยายคำสอนเกี่ยวกับคุณธรรมและความชั่วร้าย โดยสัปดาห์นี้หันมาสู่คุณธรรมโดยทั่วไป และทรงสนับสนุนผู้ที่มีความเชื่อให้ได้รับคุณธรรมผ่านพระหรรษทานของพระเจ้า ในช่วงเริ่มต้นของการเทศน์สอน พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบหมายให้บาทหลวงปิเอร์ลุยจิ จิโรลี (Father Pierluigi Giroli) จากสำนักเลขาธิการแห่งรัฐวาติกัน เป็นผู้อ่านบทเทศน์ของพระองค์ เนื่องจากพระองค์ยังทรงมี "ไข้เล็กน้อย" สัปดาห์นี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงดำเนินบทเรียนคำสอนเรื่องความชั่วร้ายและคุณธรรมต่อไป หลังจากอุทิศตนให้กับความชั่วร้ายเป็นเวลาหลายเดือน สัปดาห์นี้พระองค์เปลี่ยนมาเป็นการอภิปรายเรื่องคุณธรรม

การค้นพบใหม่และการปฏิบัติคุณธรรม (Rediscovering, practising virtue)

     พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงยอมรับว่า หัวใจของมนุษย์ "สามารถดื่มด่ำกับกิเลสตัณหาชั่วได้" และ "เอาใจใส่ต่อสิ่งล่อใจที่เป็นอันตรายซึ่งสวมชุดที่โน้มน้าวใจได้" แต่พระองค์ทรงเตือนบรรดาคริสตชนว่า เรา "สามารถต่อต้านความชั่วร้ายทั้งหมดนี้ได้เช่นกัน" มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความดี โดยเน้นว่า "สิ่งนี้เติมเต็มเราอย่างแท้จริง" การตระหนักถึงความโน้มเอียงโดยกำเนิดของเราต่อสิ่งที่ดี ช่วยให้เรามีนิสัยถาวรบางอย่าง “ในช่วงเวลาอันน่าสะพรึงกลัวของเรานี้ ซึ่งเรามักจะต้องรับมือกับความเลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ” “คุณธรรม” ควรได้รับการค้นพบและฝึกฝนอีกครั้งโดยทุกคน” “ในโลกที่บิดเบี้ยว เราต้องจดจำรูปแบบที่เราถูกสร้างขึ้นมา” คือใน “พระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า ซึ่งประทับอยู่กับเราตลอดไป”

การกำหนดคุณธรรม (Defining virtue)

     “แต่เราจะนิยามแนวคิดเรื่องคุณธรรมได้อย่างไร” คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกเสนอคำจำกัดความที่ชัดเจนและกระชับเกี่ยวกับคุณธรรมว่า เป็น "นิสัยที่มั่นคงในการทำความดี" (CCC 1803) ดังนั้น เขาตั้งข้อสังเกตว่า คุณธรรมไม่ใช่ "สิ่งที่เกิดขึ้นมาเอง" หรือ "ความดีที่ตกลงมาจากสวรรค์" ในขณะที่รับรู้ว่า แม้แต่อาชญากรก็ยังทำความดีได้ซึ่งถูกจารึกไว้ใน “หนังสือของพระเจ้า” แต่คุณธรรมเป็นมากกว่านั้น “ความดีที่เกิดจากความเป็นผู้ใหญ่ที่รอบคอบของบุคคล จนถึงจุดที่กลายเป็นคุณลักษณะดีที่อยู่ภายใน” คุณธรรมเป็น "นิสัยแห่งอิสรภาพ ถ้าเราเป็นอิสระในทุกการกระทำ และเรามีแนวโน้มที่จะเลือกความดี นี่ก็ถือเป็นคุณธรรม”

วิธีการได้มาซึ่งคุณธรรม (How to acquire virtue)

     พระสันตะปาปาทรงตระหนักว่า การทำความเข้าใจวิธีการได้มาซึ่งคุณธรรมนั้น "ไม่ใช่เรื่องง่าย" แต่ซับซ้อน “สำหรับคริสตชน ความช่วยเหลือประการแรก เป็นพระคุณของพระเจ้า” พระจิตเจ้าทรงกระทำการในตัวเราที่ได้รับศีลล้างบาป ทรงทำงานในจิตวิญญาณของเรา เพื่อนำจิตวิญญาณของเราไปสู่ชีวิตที่มีคุณธรรม "จะมีคริสตชนกี่คนที่สามารถเข้าถึงความบริสุทธิ์ด้วยน้ำตา โดยพบว่า พวกเขาไม่สามารถเอาชนะจุดอ่อนบางอย่างของพวกเขาได้! แต่พวกเขาประสบว่า พระเจ้าทรงกระทำความดีนั้นให้สำเร็จ (ช่วยเหลือ) ซึ่งสำหรับพวกเขาเป็นเพียงภาพร่าง (เป็นความคิดหรือความอ่อนแอที่ต้องการพระเจ้าเสริมกำลัง) เท่านั้น" พระหรรษทานนำหน้าความมุ่งมั่นทางศีลธรรมของเราเสมอ “เราต้องไม่ลืมบทเรียนอันล้ำค่าจากภูมิปัญญาของคนโบราณ ซึ่งบอกกับเราว่าคุณธรรมเติบโตและสามารถปลูกฝังได้ และเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น พระหรรษทานประการแรกที่ทูลขอจากพระจิตเจ้าก็คือ ปรีชาญาณที่แท้จริง"

ความปรารถนาดีและการเปิดใจกว้าง (Good will and open-mindedness)

      พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตั้งข้อสังเกตว่า มนุษย์ไม่ใช่ "ดินแดนเสรีสำหรับการพิชิตความสุข อารมณ์ สัญชาตญาณ กิเลสตัณหา" ที่ไม่มีความสามารถ "ที่จะกระทำการใด ๆ ต่อพลังเหล่านี้ (ต่อต้านความชั่วร้าย) ซึ่งบางครั้งก็วุ่นวายซึ่งอยู่ภายใน" เราสามารถใช้การเปิดใจกว้าง ซึ่งเป็นปรีชาญาณประเภทหนึ่งที่ช่วยให้เรา "เรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อดำเนินชีวิตได้ดี" ตลอดจนใช้ความปรารถนาดีของเรา "ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกทำสิ่งที่ดีได้"
ขอให้เรายอมรับการเดินทางของเราผ่านทางคุณธรรม ใน "จักรวาลอันเงียบสงบที่ท้าทาย" แต่ "ชี้ขาดเพื่อความสุขของเรา"