มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2024 วันอาทิตย์ใบลาน พระทรมานขององค์พระผู้เป็นเจ้า

     พี่น้องครับ วันนี้เป็นวันระลึกถึงการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าในฐานะกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าดังที่ประกาศกเศคาริยาห์ได้ทำนายไว้เมื่อ 520 ปีก่อนหน้าพระองค์ว่า “จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ดูซิ กษัตริย์ของท่านเสด็จมาพบท่าน มีพระทัยอ่อนโยน ประทับบนลา บนลูกลา” (ศคย 9:9)
     วันนี้ เราจึงออกมาถือใบลานต้อนรับพระเยซูเจ้าเหมือนชาวเยรูซาเล็มเมื่อสองพันปีก่อน และเราก็ยอมรับเช่นเดียวกับชาวเยรูซาเล็มว่า พระองค์คือกษัตริย์ผู้เสด็จมาเพื่อกอบกู้เราให้รอดพ้น
ต่างกันเพียงแต่ว่า เรามิได้ต้อนรับพระองค์เข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม แต่เราปรารถนาให้พระองค์เสด็จเข้ามาประทับในจิตใจของเรา ให้พระองค์เป็นกษัตริย์ปกครองจิตใจของเรา และช่วยเราให้รอดพ้นจากความตายนิรันดร
     พี่น้องครับ หลังจากพิธีวันนี้แล้ว ขอให้พี่น้องนำใบลานกลับไปไว้ที่บ้าน ไว้ในที่ที่แลเห็นได้ง่าย เพื่อเตือนใจเราอยู่เสมอว่า พระเยซูเจ้าคือกษัตริย์ในจิตใจของเรา พระองค์คือกษัตริย์ของครอบครัวของเรา และพระองค์คือกษัตริย์แต่ผู้เดียวที่สามารถดลบันดาลสันติสุขแท้จริงให้แก่เราในท่ามกลางโลกที่สับสนและวุ่นวายอย่างในปัจจุบันนี้ได้ พระองค์สามารถทำให้ชีวิตของเรามีความมั่นคงและมีความหมายอย่างแท้จริง และที่สำคัญ พระองค์คือผู้ที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยทั้งวันนี้และทุกวันตลอดนิรันดร
     พี่น้องครับ ขอให้พี่น้องประกาศว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ของเรา ทั้งด้วยคำพูด และด้วยชีวิตของพี่น้องเองนะครับ
     น้องครับ วันนี้ นอกจากจะเป็นวันระลึกถึงการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าของพระเยซูเจ้าแล้ว ยังเป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาทิตย์พระทรมานของพระเยซูเจ้าอีกด้วย
     พี่น้องครับ เรื่องราวเกี่ยวกับพระทรมานของพระเยซูเจ้าที่เราได้ฟังในพระวรสารวันนี้ มันน่าหดหู่ใจจริงๆ ใครจะไปคิดว่าฝูงชนซึ่งพึ่งจะต้อนรับพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มด้วยความกระตือรือร้น นำเสื้อคลุมมาปูตามทาง นำกิ่งไม้มาโบกสะบัด พร้อมกับร้องตะโกนว่า “โฮซานนา ขอถวายพระพรแด่ผู้มาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระพรจงมีแด่พระอาณาจักรที่กำลังจะมาถึงของกษัตริย์ดาวิด บรรพบุรุษของเรา โฮซานนา ณ สวรรค์สูงสุด” แล้ว 4-5 วันต่อมาจะเปลี่ยนเป็นฝูงชนที่ร้องว่า “เอาไปตรึงกางเขน เอาไปตรึงกางเขน” (ลก 23:21; ยน 19:6)
     เปโตรก็เหมือนกัน พึ่งจะพูดกับพระเยซูเจ้าว่า “แม้ว่าทุกคนจะทอดทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ทอดทิ้งพระองค์เลย... ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายพร้อมกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย” (มธ 26:33,35) แล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมากลับพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้จักคนที่ท่านกำลังพูดถึง” (มก 14:71) เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้าถึงสามครั้งด้วยกัน
     แต่พี่น้องครับ เราเองก็ไม่ต่างจากเปโตร เราให้คำมั่นสัญญาดีๆ กับพระเยซูเจ้าเหมือนกับเปโตร โดยเฉพาะเมื่อคราวรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป เราสัญญาว่าจะเชื่อพระองค์ จะละทิ้งปีศาจ แต่เมื่อถูกประจญ เมื่อถูกโลกล่อลวง เราก็ปฏิเสธพระองค์มากกว่าสามครั้งเสียอีก
     อย่างไรก็ตาม เปโตรเมื่อได้ยินไก่ขัน มโนธรรมของท่านยังทำงาน ท่านสำนึกผิด ท่านเสียใจ แต่เราล่ะครับพี่น้อง เรายังได้ยินเสียงมโนธรรมของเราอีกหรือเปล่า ?
    พี่น้องครับ เมื่อได้ฟังพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า เรารู้สึกหดหู่และสะเทือนใจ สะเทือนใจไม่เพียงเพราะเห็นพระองค์ถูกทรมานแสนสาหัสเท่านั้น แต่สะเทือนใจเพราะไม่ใช่บรรดาหัวหน้าสมณะ ไม่ใช่บรรดาทหารโรมันที่ทรมานพระองค์ แต่เป็นบาปของเราเองนี่แหละ และก็เป็นการทรยศของเราเองนี่แหละ ที่ทำให้พระองค์ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส และต้องถูกตรึงตายบนไม้กางเขน
     พี่น้องครับ ในพระธรรมเก่า ผู้ที่เป็นชู้ เป็นฆาตกร และผู้ที่นับถือพระเท็จเทียม จะต้องถูกประหารชีวิต แล้วทุกวันนี้เราเคยคิดหรือเคยทำในสิ่งที่ผิดต่อความบริสุทธิ์บ้างไหม กี่ครั้งกี่หนที่เราเป็นฆาตกรทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น และอีกกี่ครั้งกี่หนที่เราเองนับถือเงินตราเป็นเสมือนพระเจ้าของเรา เรากำลังนับถือพระเท็จเทียม เพราะฉะนั้น ผู้ที่ควรจะต้องถูกตรึงตายอยู่บนไม้กางเขนจึงควรจะเป็นตัวเราเอง แต่พระเยซูเจ้าทรงยอมถูกตรึงตายบนไม้กางเขนแทนเรา
พี่น้องครับ พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าจึงเตือนใจเราว่า เป็นเราคนบาปนี่เองที่ตรึงพระองค์บนไม้กางเขน
     พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าจึงเตือนใจเราว่า เราต้องหลีกหนีบาป และก็อาศัยพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าอีกเช่นกันที่เราได้รับการเยียวยาและอภัยบาป ดังที่ประกาศกอิสยาห์กล่าวไว้ว่า “เขาถูกแทงเพราะการล่วงละเมิดของพวกเรา ถูกขยี้เพราะความผิดของเรา การลงโทษที่นำสันติสุขมาให้เรากลับตกอยู่กับเขา รอยแผลถูกโบยตีของเขารักษาเราให้หายเป็นปกติ” (อสย 53:5)
นอกจากนั้น พี่น้องครับ พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้ายังเตือนใจเราว่า บาปนั้นหนัก หนักเกินกว่าเราจะแบกรับหรือชดใช้ไหว แต่ก็เป็นพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าอีกนั่นแหละที่เตือนใจเราว่า ความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรานั้นหนักแน่นมั่นคงมากกว่าบาปหนักนักหนาของเรา
     พระองค์ไม่มีวันที่จะหยุดรักเรา แม้ว่าในยามที่เราเผชิญกับวิกฤตและปัญหาต่างๆ ในชีวิต เราอาจจะวิตกกังวลและบ่นว่าพระองค์ สงสัยพระองค์ แต่พระองค์ไม่มีวันที่จะหยุดรักเรา พระองค์ไม่มีวันที่จะหยุดพักจนกว่าจะนำเรากลับบ้านมาหาพระองค์ ขอเพียงให้เราเชื่อมั่นในความรักและความเมตตาของพระองค์ และยินยอมให้พระองค์นำพาชีวิตของเรา
และพี่น้องครับ ตัวเราเองก็ต้องร่วมมือกับพระองค์ด้วย และต้องไม่ใช่เฉพาะช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้เท่านั้น แต่ต้องทุกๆ วันตลอดไป

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown