มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2023 สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา

     ก่อนพระเยซูเจ้าจะถูกจับกุมและถูกตรึงตายบนกางเขนไม่กี่วัน

พระองค์ทรงเล่าอุปมาเรื่องบุตรสองคนที่บิดาขอให้ไปทำงานในสวนองุ่น บุตรคนแรกตอบ “ลูกไม่อยากไป” แต่ต่อมาก็เปลี่ยนใจและไปทำงานในสวนองุ่น ส่วนบุตรคนที่สองตอบพ่อด้วยความเคารพว่า “ครับพ่อ” แต่แล้วก็ไม่ไปทำงาน
     พี่น้องครับ ตลอดสามปีที่พระเยซูเจ้าทรงประกาศข่าวดี รักษาโรค และเชิญชวนประชาชนให้กลับใจ ปรากฏว่าเป็นพวกคนบาปเปิดเผย อย่างเช่นคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีนี่แหละ ที่ฟังและตอบรับคำเชิญชวนของพระองค์ ในขณะที่บรรดาผู้นำทางศาสนา อย่างเช่นพวกธรรมาจารย์และฟาริสีกลับไม่ฟังและยังต่อต้านพระองค์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าคำสอนของพระองค์ รวมถึงคำสอนของยอห์นผู้ทำพิธีล้างด้วย ล้วนมาจากพระเจ้า แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อฟัง จนพระเยซูเจ้าต้องตำหนิพวกเขาว่า “ยอห์นได้มาพบท่าน ชี้หนทางแห่งความชอบธรรม ท่านก็ยังไม่เปลี่ยนใจมาเชื่อยอห์น”
     ในอุปมาเรื่องบุตรสองคนนี้ พระเยซูเจ้าต้องการจะเปรียบบุตรคนแรกกับบรรดาคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณี ซึ่งเริ่มต้นชีวิตได้ไม่ดีนัก แต่ภายหลังได้หันกลับมาเดินตามหนทางของพระเจ้า ส่วนบุตรคนที่สองนั้นเปรียบได้กับบรรดาธรรมาจารย์และฟาริสี ซึ่งมุ่งมั่นจะนบนอบเชื่อฟังและรับใช้พระเจ้า แต่เมื่อพระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ลงมา พวกเขากลับปฏิเสธพระองค์ รวมถึงปฏิเสธยอห์นผู้ทำพิธีล้างด้วย
     สรุปว่าบุตรคนแรกพูดไม่ดีแต่ทำดี ส่วนบุตรคนที่สองพูดดีแต่ไม่ทำ
     พี่น้องครับ เราอาจเปรียบบุตรทั้งสองคนนี้ได้กับคริสตชน 2 กลุ่มด้วยกัน
     กลุ่มแรกเป็นพวกที่ทำตัวเหมือนบุตรคนแรกที่พูดว่า “ไม่ไป” คนกลุ่มนี้ไม่มีคำพูดดีๆ สำหรับพระเจ้า ไม่เคยพูดว่าเชื่อ ไม่สวด ไม่มาวัด แต่เมื่อชาวบ้านหรือชาวเขาประสบกับความหนาวเย็น พวกเขาเป็นต้องบริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้า หรือเมื่อเกิดภัยพิบัติพวกเขาก็จะส่งเงินไปช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายและผู้ประสบภัย เรียกว่าพูดไม่ดี แต่กลับทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนาและเรียกร้องให้พวกเขาทำ
     กลุ่มที่สองเป็นเหมือนบุตรคนที่สองที่พูดว่า “ครับพ่อ” แล้วก็ไม่ทำ พวกนี้มีแต่คำพูดดีๆ กับพระเจ้า พวกเขามาวัด แล้วก็ตอบ “อาแมน” หรือไม่ก็สวดบท “ข้าพเจ้าเชื่อ” เสียงดังฟังชัด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ตนเองก็รู้ดีว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้พวกเขายื่นมือออกไปช่วยเหลือ พวกเขากลับไม่ทำ หากเราเป็นหนึ่งในคนกลุ่มที่สองนี้ ก็ขอให้จำคำเตือนของพระเยซูเจ้าที่ว่า “คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่าน” ไว้ให้ดี
มาถึงตรงนี้ พี่น้องคงนึกในใจว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ขอเป็นคนพวกแรกดีกว่า ไม่ต้องพูดดี ไม่ต้องสวด ไม่ต้องมาวัด แค่ทำดีอย่างเดียวก็พอ
     แต่เพื่อจะเข้าใจสิ่งที่พระเยซูเจ้าต้องการสอนในอุปมาเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องระลึกอยู่เสมอว่าพระองค์ไม่ได้กล่าวชมเชยบุตรคนใดเลย ไม่ว่าจะเป็นคนที่หนึ่งหรือคนที่สองก็ตาม
ในบรรดาบุตรทั้งสองคนนี้ ไม่มีคนใดเลยที่ “พูด” และ “ทำ” อย่างที่จะนำความชื่นชมยินดีมาสู่ผู้เป็นพ่อ ทั้งคู่ล้วนเป็นพวกพูดอย่างทำอย่าง เพียงแต่บุตรคนแรก ซึ่งเปลี่ยนใจไปทำงานในสวนองุ่น เลวน้อยกว่าบุตรคนที่สองเท่านั้น
เพราะฉะนั้น เราจะดำเนินชีวิตตามอย่างบุตรทั้งสองคนนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะคนใดก็ตาม
     เพราะลูกในอุดมคติของพระเจ้าต้องเป็นลูกที่ตอบรับคำสั่งของพ่อด้วยความเคารพ และปฏิบัติตามด้วยความยินดีและเต็มใจ นั่นคือ ทั้งพูดดีและทำดี
     พระเยซูเจ้าเองก็ทรงเน้นย้ำว่า “คนที่ร้องว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้” (มธ 7:21)
นั่นคือพระองค์ต้องการย้ำว่า ต่อให้พูดดีอย่างไรก็ไม่มีทางทดแทนการทำดีได้ เพราะ “การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด”
     พี่น้องครับ หากเรายังไม่ได้ดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นลูกในอุดมคติของพระเจ้า วันนี้ยังไม่สายเกินไป ในบทภาวนาของประธานตอนเริ่มมิสซาวันนี้ เราได้ยินพระสงฆ์สวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงสำแดงพระเดชานุภาพ เฉพาะอย่างยิ่งโดยทรงพระกรุณาและอภัยโทษ”
     จะเห็นว่าพระเจ้าไม่ได้สำแดงพระเดชานุภาพโดยการลงโทษหรือทำลายเรา แต่พระองค์ทรงส่งพระเยซูเจ้า พระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียว ซึ่งนักบุญเปาโลบอกเราในบทอ่านที่สองว่า “แม้ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้น เป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน”
พระองค์ทรงยอมทำเช่นนี้ก็เพื่อชดเชยความผิดบาปของเรา เราจะได้ลุกขึ้นมาใหม่ ลุกขึ้นมารับพระเมตตากรุณาของพระองค์ ดังที่ประกาศกเอเสเคียลบอกเราในบทอ่านที่หนึ่งว่า “ถ้าคนชั่วร้ายเลิกทำความชั่วร้ายที่เขาได้ทำ มาปฏิบัติความยุติธรรมและความชอบธรรม เขาก็จะรักษาชีวิตของตนไว้”
     พี่น้องครับ ถ้าคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณียังกลับใจ เลิกทำความชั่ว และเข้าสวรรค์ได้ แล้วทำไมเราจะกลับใจและเข้าสวรรค์ไม่ได้ !
     ในบทอ่านที่สองวันนี้ นักบุญเปาโลขอร้องแกมสั่งเราว่า จงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับที่พระคริสตเยซูทรงมีเถิด
นั่นก็คือ ขอให้เราทำดีกว่าพูด และถ้าจะให้เป็นลูกที่ดีพร้อมและเป็นลูกในอุดมคติของพระเจ้า ก็ขอให้เรากลับใจ แล้วหันมาทั้งพูดดีและทำดีให้สอดคล้องกัน ตลอดไป

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown