มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2023 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา

     พระวรสารวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเริ่มต้นภารกิจเปิดเผยของพระเยซูเจ้า พี่น้องเคยคิดบ้างไหมว่า หลังจากใช้ชีวิตแบบไม่เปิดเผยที่เมืองนาซาเร็ธนาน 30 ปี พระเยซูเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะต้องเริ่มต้นภารกิจเปิดเผย?
     พ่อคิดว่าความคิดแรกของเราก็คือพระบิดาทรงติดต่อกับพระเยซูเจ้าโดยตรง พระองค์ได้รับไฟเขียวจากพระบิดา
แต่จริงๆ แล้วพระวรสารวันนี้บอกว่าพระเยซูเจ้าตัดสินใจเช่นนี้ได้เหมือนกับคนอื่นๆ เขาทำกัน นั่นคือเรียนรู้สิ่งที่พระเจ้าต้องการบอกจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง เหมือนอย่างเมื่อไวรัสโคโรน่าระบาดเราก็รู้ว่าต้องทำอะไร
     วันนี้ มัทธิวเริ่มต้นพระวรสารว่า “เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบว่ายอห์นถูกจองจำ จึงเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงออกจากเมืองนาซาเร็ธ มาประทับอยู่ที่เมืองคาเปอรนาอุม บนฝั่งทะเลสาบ” (มธ 4:12-13)
นั่นคือเมื่อพระเยซูเจ้ารู้ว่ายอห์นถูกจับ พระองค์ก็เรียนรู้ได้ทันทีว่าจำเป็นต้องมีผู้นำคนใหม่เพื่อสานต่อความต้องการของประชาชนที่ต้องการกลับใจและมุ่งหน้าไปหาพระเจ้าที่ยอห์นเริ่มต้นไว้ แค่นี้ก็เป็นเครื่องหมายเพียงพอแล้วสำหรับพระองค์ พระองค์จึงเสด็จออกจากครอบครัวที่เมืองนาซาเร็ธและเริ่มต้นทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระบิดาเจ้า
เราเรียกเครื่องหมายที่ทำให้พระเยซูเจ้าตัดสินใจเช่นนี้ว่า “เครื่องหมายแห่งกาลเวลา” ซึ่งก็คือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกรอบๆ ตัวเราที่ทำให้เรารู้ว่าพระเจ้ากำลังบอกอะไรแก่เรา
     แล้วทุกวันนี้เรามองเห็นอะไรในโลกรอบๆ ตัวเราบ้างล่ะ? อะไรคือเครื่องหมายแห่งกาลเวลาสำหรับพวกเรา?
     เราเห็นภัยพิบัติทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง ภัยจากไฟป่า หรือภัยที่เกิดจากมนุษย์ เช่น สงคราม การก่อการร้าย ความรุนแรงในสังคม การปล้นฆ่าร้านทอง ฯลฯ ใช่ไหม? แล้วเราคิดว่าพระเจ้าต้องการบอกอะไรแก่เรา? พระองค์ต้องการคนที่จะนำความรักและสันติสุขของพระองค์ไปมอบให้แก่สังคมไหม? เราคิดว่าภายใต้สถานการณ์รอบตัวเรา รอบชีวิตของเรา เราจะทำอะไรได้บ้าง หรือว่าเรายังจะต้องรอเครื่องหมายพิเศษจากพระเจ้าซึ่งเป็นไปได้มากว่าเครื่องหมายพิเศษนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้า นั่นคือเราต้องเรียนรู้ที่จะอ่าน “เครื่องหมายแห่งกาลเวลา” ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา
     นักบุญเปาโลคืออีกผู้หนึ่งที่สามารถอ่านเครื่องหมายแห่งกาลเวลาในยุคสมัยของท่านได้ ท่านเห็นความแตกแยกของคริสตชนในเมืองโครินธ์ กลุ่มหนึ่งอ้างว่า “ฉันเป็นพวกของเปาโล” อีกกลุ่มอ้างว่า “ฉันเป็นพวกของอปอลโล” อีกกลุ่มก็อ้างว่า “ฉันเป็นพวกของเคฟาส” คือแทนที่พวกเขาจะยึดมั่นในพระเยซูเจ้า พวกเขากลับยึดมั่นในตัวผู้ประกาศข่าวดีและยกย่องผู้ประกาศข่าวดีเทียบชั้นกับพระเยซูเจ้าเอง
เมื่อนักบุญเปาโลเห็นเช่นนี้ ด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้าและด้วยความสุภาพถ่อมตน ท่านจึงเขียนจดหมายตักเตือนชาวโครินธ์ทันทีว่า “มีการแบ่งแยกในองค์พระคริสตเจ้ากระนั้นหรือ เปาโลถูกตรึงกางเขนเพื่อท่านกระนั้นหรือ ท่านได้รับพิธีล้างบาปในนามของเปาโลกระนั้นหรือ” (1 คร 1:13)
     วันนี้ เราจึงควรหันมาดูเครื่องหมายแห่งกาลเวลาในวัดของเราบ้าง จริงอยู่เราไม่ได้อ้างว่าฉันเป็นพวกของพ่อคนนี้หรือพ่อคนนั้น แต่เราอาจจะเลวร้ายกว่าอีกไหม คือเราแยกเป็นบ้านใครบ้านมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลยใช่ไหม? เราคิดว่าเราจะทำอะไรได้บ้างโดยเฉพาะในวันนี้ที่พระศาสนจักรกำหนดให้ทุกอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลธรรมดาของทุกปี เป็นวันแห่งพระวาจาของพระเจ้า
     อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสังเกตในพระวรสารวันนี้ก็คือ เมื่อเวลาเริ่มต้นภารกิจมาถึง พระเยซูเจ้ามิได้เทศน์สอนข่าวดีที่เมืองนาซาเร็ธอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ในทันที เพราะชาวบ้านคงจะไม่ฟังและภารกิจของพระองค์คงจบเห่ แต่พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยการหาทำเลและชุมชนที่จะช่วยให้ภารกิจของพระองค์สำเร็จผล และสถานที่ที่พระองค์ทรงเลือกก็คือเมืองคาเปอร์นาอุมบนฝั่งทะเลสาบ และที่ริมฝั่งทะเลสาบนี้เอง พระองค์ก็ได้พบกับผู้ที่จะช่วยสืบสานภารกิจของพระองค์ให้บรรลุผลสำเร็จ นั่นก็คืออัครสาวกสี่คนแรก ซึ่งได้แก่ เปโตร อันดรู ยากอบ และยอห์น
     จะเห็นว่า แม้พระเยซูเจ้าจะทรงเป็นถึงพระบุตรของพระเจ้า แต่พระองค์ก็มิได้ทำสิ่งใดโดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ตามลำพัง แต่พระองค์ทรงทำงานเป็นทีม ทำงานร่วมกับประชาชน แบ่งปันวิสัยทัศน์และภารกิจของพระองค์ให้แก่ประชาชนโดยการเทศน์สอนและประกาศข่าวดีให้พวกเขาทราบ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมหลังจากพระองค์ถูกตรึงตายบนไม้กางเขนสามปีต่อมา งานสร้างพระอาณาจักรของพระองค์ก็ยังคงอยู่และแผ่ขยายไปทั่วโลก
     พี่น้องครับ งานสร้างพระอาณาจักรนี่แหละคืองานของพระเจ้าและวิธีการที่พระเยซูเจ้าทรงให้แบบอย่างแก่เราวันนี้คือทำงานเป็นทีมและทำงานร่วมกับคนโดยไม่แยกแยะว่าเป็นคนบาปนี่แหละคือวิธีที่จะทำให้งานของพระเจ้าบรรลุผล
     นอกจากนั้น วันที่ 18-25 มกราคมของทุกปี เป็นสัปดาห์แห่งการภาวนาเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน ให้เราวอนขอพระเจ้า โปรดประทานปรีชาญาณให้เราสามารถอ่าน “เครื่องหมายแห่งกาลเวลา” ในยุคสมัยของเรา เพื่อเราจะได้รู้ว่าในท่ามกลางความแตกแยกและเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกรอบตัวเรานี้ พระเจ้าทรงปรารถนาให้เราทำสิ่งใด และขอพระองค์โปรดให้เรามีความกล้าหาญที่จะเริ่มต้นทำ ไม่ใช่แค่สวดภาวนาด้วยเทอญ

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown