www.catholic.or.th

มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

บทอ่านสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ วันจันทร์ปี C

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์               อสย 42.1-7

“นี่คือผู้รับใช้ของเรา ผู้ซึ่งเราเชิดชู
ผู้เลือกสรรของเรา ผู้ซึ่งเราปิติยินดี
เราได้เอาจิตของเราสวมเขาไว้แล้ว
เขาจะส่งความยุติธรรมออกไปให้แก่บรรดาประชาชาติ
เขาจะไม่ร้องหรือเปล่งเสียง
หรือกระทำให้ได้ยินเสียงในถนน
ไม้อ้อที่ช้ำแล้วเขาจะหัก
และไส้ตะเกียงที่ริบหรี่อยู่เขาจะไม่ดับ
เขาจะส่งความยุติธรรมไปด้วยความสัตย์จริง
เขาจะไม่ซวนเซหรือท้อใจ
จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมไว้ในโลก
แผ่นดินชายทะเลรอคอยพระธรรมของเขา”
พระเจ้า คือ พระยาห์เวห์ผู้ทรงทร้างฟ้า และทรงขึงมัน
ผู้ทรงแผ่แผ่นดินออกไป ให้เกิดมีผักหญ้างอกขึ้น
ผู้ประทานลมปราณแก่ผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดิน
ผู้ประทานจิตแก่ผู้ดำเนินอยู่บนโลก ตรัสดังนี้ว่า
“เราคือพระเจ้า เราได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม
เราได้ยึดเจ้าและรักษาเจ้าไว้
เราให้เจ้าเป็นเสมือนพันธสัญญาและความสว่างสำหรับบรรดาประชาชาติ
เพื่อเปิดตาคนตาบอด เพื่อนำผู้ถูกจำจองออกจากคุก
นำผู้ที่จมอยู่ในความมืดออกมาจากเรือนจำ”
(นี่คือพระวาจาของพระเจ้า)

เพลงสดุดี          สดด 27.1, 7-8ก, 8ข – 9กข, 13-14
ก)พระเจ้าทรง โปรดสรรค์ ให้ปัญญาและช่วยข้าฯ มาตลอด ให้รอดได้
ทรงปกป้อง พ้นผ่าน ผองพาลภัยไม่กลัวใด เมื่อใกล้ พระภูธร
ข้าแต่พระ เป็นเจ้า จอมโลกาโปรดฟังข้าฯ วอนสักนิด อย่าพิศวง
โปรดเมตตา ตอบคำ ดังจำนงที่ข้าพระองค์ ร้องขอ ต่อสิ่งใด
ข)เมื่อพระองค์ ตรัสว่า “มาหาเรา”ข้าพเจ้า จะรีบมา มิกล้าไถล
ขอแต่อย่า ได้ซ่อน พระองค์ไว้ให้อยู่ไกล สายตา แห่งข้าฯเลย
อย่าพิโรธ โกรธข้าฯ อย่าทอดทิ้งอย่าทรงนิ่ง ไม่พะวง อย่าทรงเฉย
อย่าผลักไส ไล่ส่ง ให้หลงเลยพระองค์เคย ช่วยให้รอด ปลอดศัตรู
ค)ข้าพระองค์ จะอยู่ ดูพระเจ้าดีต่อเรา แน่นัก เป็นสักขี
จงศรัทธา อย่าหลู่ พระภูมีเมื่อยามที่ ไม่สม อารมณ์ปอง
จงวางใจ ในองค์ พระเจ้าเถิดจงทูนเทิด พระองค์ยิ่ง กว่าสิ่งผอง
จงวางใจ ในพระ อย่าคิดลองเราจะต้อง ได้ดั่ง ที่หวังเทอญ

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์นยน 12.1-11

หกวันก่อนสมโภชปัสกา พระเยซูเจ้าเสด็จมาที่หมู่บ้านเบธานี ตำบลที่อยู่ของลาซารัส ที่พระองค์โปรดให้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย เขาได้จัดการเลี้ยงอาหารเป็นเกียรติแก่พระองค์ที่นั่น มารธาเป็นผู้อยู่คอยปรนนิบัติรับใช้ และลาซารัสอยู่ร่วมโต๊ะกับพระองค์ มารีย์นำน้ำหอมนารดาบริสุทธิ์หนักหนึ่งปอนด์ มีราคามากมาชโลมพระบาทพระเยซูเจ้า และใช้ผมของเธอเช็ดพระบาท กลิ่นน้ำหอมก็อบอวลไปทั่วบ้านยูดาสอิสคาริโอท คนหนึ่งในพวกสาวก ที่จะทรยศพระองค์ พูดว่า

“ทำไมไม่เอาน้ำหอมนี้ไปขายราคาสามร้อยเหรียญ แล้วเอาเงินไปแจกให้คนยากจนเล่า?” ที่เขากล่าวเช่นนี้ มิใช่เพราะเขาห่วงใยต่อคนยากจน แต่เพราะเขาเป็นขโมยเขาถือถุงเงินและยักยอกเงินในถุงนั้น

พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ช่างเถิด ปล่อยให้เธอเก็บน้ำหอมนี้ไว้จนถึงวันฝังศพของเรา คนยากจนนั้นท่านมีอยู่กับพวกท่านเสมอ แต่เราจะไม่อยู่กับพวกท่านเสมอไป”

พวกยิวหมู่ใหญ่ได้ทราบว่าพระองค์ประทับอยู่ที่นั่น ก็พากันมา มิใช่เพื่อเฝ้าพระเยซูเจ้าเท่านั้น แต่เพื่อมาดูลาซารัสที่พระองค์ได้ปลุกให้คืนชีพจากบรรดาผู้ตายด้วย ดังนั้น พวกมหาปุโรหิตจึงตกลงกันจะฆ่าลาซารัสเสียด้วย เพราะเนื่องจากเขา ชาวยิวเป็นอันมากได้ตีจากไป มาเชื่อในพระเยซูเจ้า

(นี่คือพระวาจาของพระเจ้า)
................................................................................................................
.