จิตตารมณ์มหาพรต 40 วัน
- รายละเอียด
- หมวด: เทศกาลมหาพรต
- เขียนโดย โดย คุณพ่อเฉลิม กิจมงคล
- ฮิต: 2472
ก่อนที่พระเยซูคริสตเจ้าจะทรงเริ่มดำเนินพระภารกิจการไถ่กู้มวลมนุษย์พระองค์ทรงใช้เวลา 40 วัน ปฏิบัติดังนี้ คือ
1. ทรงเตรียมตัวที่จะอุทิศตนเพื่อความรอดของมวลมนุษย์ กล่าวคือ ให้ชีวิตของพระองค์เป็นทานไม่ใช่ให้เพียงสิ่งของเป็นทานเท่านั้น
2. ทรงภาวนาติดต่อกับพระบิดาเจ้า เพื่อไตร่ตรองพระประสงค์ของพระองค์ เกี่ยวกับแผนการแห่งการไถ่กู้มนุษยชาติ
3. ทรงอดอาหาร เพื่อยืนยันว่า สิ่งสร้างและปัจจัยสี่ทั้งหลายไม่สำคัญกว่าพระผู้สร้าง
ท่าทีที่พระองค์ได้ทรงปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น เป็น รูปแบบและแนวทางที่คริสตชนจะต้องพิจารณาไตร่ตรอง และพร้อมที่จะกลับจิตกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตใน 3 ประเด็นต่อไปนี้คือ :
1. การให้ทาน (ด้วยชีวิต) ซึ่งเป็นท่าทีต่อ : มนุษย์
2. การภาวนา ซึ่งเป็นท่าทีต่อ : พระเป็นเจ้า
3. การอดอาหาร ซึ่งเป็นท่าทีต่อ : สิ่งสร้าง
พระองค์ทรงกำชับศิษย์ของพระองค์ให้พิจารณาไตร่ตรองท่าทีเพื่อให้เข้าจึงจิตตารมณ์ต่อทั้ง 3 ประเด็นตามพระวรสาร โดย น.มัทธิว บทที่ 6 : 1,6 : 16-18 ดังต่อไปนี้
"เมื่อท่านให้ทาน"
(ท่าทีต่อมนุษย์)
จงอย่า…
- "ทำเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด ที่ปฏิบัติต่อหน้ามนุษย์เพื่อโอ้อวด หรือเป่าแตรไปข้างหน้าเพื่อรับสรรเสริญจากมนุษย์" กล่าวคือ :
- ทำให้ได้บุญและสะสมบุญไว้มาก ๆ เพื่อความรอดส่วนตัวเท่านั้น
- ทำเพื่อบรรเทามโนธรรมที่ติเตียน เพราะตนเองได้โกงและเอาเปรียบผู้อื่นมามาก
- ให้ทานเฉพาะสิ่งที่ไม่ต้องการ หรือสิ่งที่อยากจะทิ้งอยู่แล้ว
แต่จง…
"ให้พระบิดาผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งเท่านั้นได้ทราบ" กล่าวคือ:
เปิดตนต่อมวลมนุษย์ และช่วยเหลือเขาในฐานะเป็นพี่น้องร่วมในพระบิดาเดียวกัน
สำนึกว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อทุกคน มิใช่เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเพื่อคนใดคนหนึ่ง
ตระหนักว่า การให้ทานคือการคืนสิ่งที่เป็นของผู้อื่นให้แก่เขา
เราไม่มีสิทธิ์สะสมสิ่งที่เหลือเฟือ ในขณะที่บรรดาลูกคนอื่น ๆ ของพระบิดากำลังขาดสิ่งที่จำเป็น
"เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา"
(ท่าทีต่อพระเจ้า)
จงอย่า…
- "ทำเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด ที่ยืนภาวนาในศาลาธรรมและตามมุมลานเพื่อให้ใครๆ เห็น" กล่าวคือ
- ทำเพื่อให้คนอื่นดูว่าตนเองดี เป็นคนศรัทธาทั้งๆ ที่ไม่เป็นจริง
- ทำเพื่อให้ตนเองสบายใจ เพราะได้ทำตามกฎบัญญัติหรือตามที่ถูกขอร้อง
- ทำเพื่อสะสมบุญกุศลส่วนตัวไว้มากๆ จะได้เอาตัวรอดไปสวรรค์โดยไม่สนใจคนอื่น
- ทำเพื่อเป็นการยกตนข่มผู้อื่น แสดงว่าตนเองดีและศรัทธามากกว่าเขา
แต่จง…
"อธิฐานต่อพระบิดาผู้ทรงสถิตอยู่ทั่วทุกแห่งและหยั่งรู้ทุกสิ่ง" กล่าวคือ :
เปิดตนต่อพระเป็นเจ้า พระผู้สร้าง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าชีวิตของเราแต่ละคน
สร้างความสัมพันธ์ ติดต่อกับพระเจ้าและเชิญพระองค์ให้ประทับในชีวิตของตน
เรียนรู้แผนการ พระประสงค์และพระภารกิจที่พระองค์ปรารถนาจะมอบให้เรานำไปปฏิบัติ
พร้อมที่จะอุทิศตนในงานสร้างพระอาณาจักรและทำให้คุณค่าพระวรสารของพระคริสตเจ้าเป็นจริงในชีวิตและในสังคม
"เมื่อท่านจำศีลอดอาหาร"
(ท่าทีต่อสิ่งสร้าง)
จงอย่า….
- ทำเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด ที่ทำหน้าเศร้าหมอง เพื่อให้คนรู้ว่ากำลังจำศีลอดอาหาร" กล่าวคือ
- ทำเพียงเพื่อให้คนชมว่าเป็นคน ธัมมะ ธัมโม
- ทำเพียงเพื่อต้องการประหยัดและออมทรัพย์เพื่อตนเอง
- ทำเพียงเพื่อผลประโยชน์ด้านสุขภาพ
แต่จง….
"ให้พระบิดาของท่านผู้สถิตอยู่ทั่วทุกแห่ง และทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งได้ทราบ" กล่าวคือ :
ปิดตาตนจากสิ่งสร้างั้งหลายซึ่งมิใช่เป็นคำตอบแต่เป็นเพียงเครื่องมือทำให้เราได้พบพระเจ้า ซี่งเป็นคำตอบที่แท้จริ
ลด ละ เลิก ความสนุก สะดวก สบาย ฟุ่มเฟือย ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ซึ้งแม้ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างดี
อด ออม และรวบรวมปัจจัยเพื่อนำไปมีส่วนร่วมภารกิจการไถ่กู้ของพระคริสตเจ้าที่จะต้องดำเนินต่อไป
จิตตารมณ์มหาพรตกับพันธกิจในทิศทางงานอภิบาล ค.ศ. 2000
ท่าทีต่อมนุษย์ที่จะต้องกลับใจ คือ
เป็นหนึ่งเดียว (กับทุกคน)
ร่วมมือและแบ่งปันซึ่งกันและกัน
เสวนาฉันพี่น้องกับผู้ที่มีความเชื่ออื่น
รักและรับใช้ปวงชน โดยเน้นผู้ยากไร้
ท่าทีต่อพระเจ้าที่จะต้องกลับใจ คือ
มุ่งอุทิศตนฟื้นฟูชีวิตให้สนิทกับพระคริสตเจ้า โดยอาศัยพระวาจาและศีลศักดิ์สิทธิ์
แสวงหาคุณค่าพระอาณาจักรในบริบทสังคม
ประกาศพระเยซูคริสตเจ้า และเป็นประจักษ์พยาน
ท่าทีต่อสิ่งสร้างที่จะต้องกลับใจ คือ
ดำเนินชีวิตเรียบง่าย